ในปีนี้ขยายรูปแบบงานครอบคลุมทั้งรถจักรยานยนตร์ Big Bike, รถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางและอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมถึงมีการประกวด Bangkok Custom Bike Competition 2020 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานอีกด้วย ซึ่งนอกจากเหล่าดีลเลอร์ที่เดินขวักไขว่ทั่วงาน EVERYTHING ยังได้พบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของเจ้าของรถประกวด เหล่านักสะสม และกูรูสองล้อ ที่ได้มารวมตัวกัน สำหรับสายคัสตอมก็คงจะถูกอกถูกใจงานนี้กันมากทีเดียว และเราได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับเหล่า Builder ที่สายรักมอเตอร์ไซค์ต้องรู้จักแน่นอน

   “คือฉีกตำราการแต่งรถ ซึ่งเป็นแนวทางของผมอยู่แล้ว ว่าอยากจะฉีกแนวให้ดูแตกต่างเสมอๆ คือกรรมการต่างชาติมักจะกล่าวชมว่า ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะเอาส่วนนี้มาอยู่ตรงนี้ ก็รวมกันแล้วมันดูเข้ากันมาก คือมันอาจจะไม่ได้ตรงใจใครนะ แต่อย่างน้อยเราก็ภูมิใจว่าเราไม่ได้ก๊อปปี้ใคร ณ ปัจจุบันมันถึงเวลาที่เราต้องไม่ตามใครแล้ว”

  “Slimmer คือชื่อรถคันนี้ มันแบบแปลว่าผอมบาง ที่ผมเปรียบให้เป็นเหมือนหมา แต่กับ Harley สัญลักษณ์ของเขาคือ หมู เป็นหมูมาตั้งแต่ปี 1920 แล้ว คนส่วนใหญ่มักจะจินตนาการว่ารถ Harley มักจะอ้วนๆ เสียงดังๆ ผมเลยลองสร้างรถ Harley ผอมๆ เพรียวๆ คือตั้งใจทำให้มันบางที่สุด จากสัญลักษณ์ที่เป็นหมู ผมก็ให้มันเป็นหมาแทน เป็นการเล่าเรื่องราวในอดีตในสไตล์ของผม”
  “รถคันนี้เคยเป็นมาหลายบทบาท ทั้งรถใช้ธรรมดา รถแข่ง รถสามล้อ รถทหาร เคยนำไปรบในสงครามด้วย ซึ่งมันกลายเป็นดีเทลในอดีตที่ทำให้รถคันนี้ดูน่าค้นหามากขึ้น ซึ่งถ้าพูดถึงการแต่งมันก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน แต่ของผมก็จะเลือกอะไหล่ของ Harley ในแบบวินเทจเป็นหลัก ไฟท้าย Chevrolet หรือ Ford จากปี 1930 ส่วนพักเท้ายี่ห้อ Anderson ใช้ในยุค 60s ผมก็เอามาใช้ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความวินเทจโดยแท้”

  “ผมทำรถนี้ขึ้นมาในคอนเซ็ปต์ที่ว่า อยากจะให้มันเป็นรถที่ร่วมสมัย คือมีทั้งความโบราณที่ผสมผสานกับความทันสมัยอยู่ในตัว และรถคันนี้ไม่มี Accessories เลย ส่วนใหญ่เป็นของที่ผมสร้างทั้งหมดเลยนะ อย่างช่วงหน้าก็สร้างขึ้นโดยระบบ Girder ซึ่งเค้าใช้กับรถสมัยก่อนทางฝั่งยุโรปครับ ซึ่งระบบนี้ถ้าทางฝั่งอเมริกันก็จะเหมือนหน้าของพวก Harley แต่ว่าทำงานคนละระบบ ดูเผินๆจะคล้ายๆ กัน ซึ่งมันทำให้รถดูวินเทจขึ้น ซึ่งผมทำเองทั้งหมด ส่วนตัวรถจริงๆ รุ่นนี้มันจะออกมาเป็นโช้คคู่ ผมก็ทำให้มันทันสมัยขึ้นด้วยการทำโช้คเดี่ยวก็คือตัดเฟรม ส่วนเบาะตูดมด ถังน้ำมัน และไฟหน้า นี่สร้างใหม่หมดเพื่อให้เข้ากับรถ”

  แน่นอนว่าคนที่หลงใหลรถคัสตอมอย่างคุณปิ ไม่ว่าจะบิวด์คันใดออกมาก็มักจะมีคาแรคเตอร์ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนกลายเป็นลายเซ็นประจำตัวเขาที่ใครเห็นแล้วก็ต้องรู้ว่านี่คือรถของเขาผู้เดียวเท่านั้น

  นอกจากนี้ยังมีรถคัสตอมอีกหลากหลายประเภทที่เป็นส่วนประกอบที่มาทำให้เฟสติวัลครั้งนี้สมบูรณ์และเหมาะสมกับความยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งค่ายรถที่มาร่วมงานก็ได้แก่ AJ EV Bike, Benelli, BCM, BMW, Ducati, Edison Motors, Etran, Harley-Davidson, Honda (Cub House), Indian, Kawasaki, MV Agusta, Royal Enfield, Triumph, Victory, Yamaha, Zero Engineering ฯลฯ นับเป็นความยิ่งใหญ่ของวงการถสองล้อ ที่แผ่ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น และเรายังหวังว่าในปีหน้าคงได้พบเห็นสมาชิกผู้ร่วมอุดมการณ์ความชอบเดียวกันในเฟสติวัลแบบนี้อีก.