Doc Club & Pub. คอมมูนิตี้คนรักหนังกับโรงหนังแบบ Stand Alone แห่งใหม่ | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

Doc Club & Pub. คอมมูนิตี้คนรักหนังกับโรงหนังแบบ Stand Alone แห่งใหม่ของคุณ หมู-สุภาพ หริมเทพาธิป และ คุณ ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ สองผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการหนังของเมืองไทยมาเป็นเวลานาน กับบทบาทบรรณาธิการและเจ้าของนิตยสารที่เรียกได้ว่าหากใครที่ชื่นชอบการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้วต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีกับ Bioscope นิตยสารสำหรับ Film lovers (and sick people) อีกทั้งยังเป็นผู้หยิบนำหนังสารคดีรวมไปถึงหนังคุณภาพมากมายเข้ามาให้เราได้รับชมกันกับ Documentary Club และวันนี้ทาง #Iameverything จึงได้มีโอกาสพูดคุยถึงเรื่องราวความเป็นมากับคุณ หมู-สุภาพ หริมเทพาธิป ในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของคนรักหนังอย่างแท้จริงกับ Doc Club & Pub. แห่งนี้นั่นเอง

จากหน้านิตยสารที่แปลเปลี่ยนมาสู่พื้นที่ของ “คนรักหนัง”

Doc Club & Pub. แห่งนี้เป็นเสมือนภาพที่เคยร่างเอาไว้ตั้งแต่สมัยทำนิตยสาร Bioscope เมื่อสัก 20 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นด้วยความคิดที่ว่าตัวเองทำงานเกี่ยวกับวงการหนัง และอยากทำให้วัฒนธรรมการดูหนังเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในสังคมได้ นอกจากนิตยสารที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลของหนังแล้ว มันคงจะดีไม่ใช่น้อย ถ้าหากออฟฟิศมีพื้นที่สำหรับการฉายหนัง จึงได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ในออฟฟิศสร้างเป็นห้องฉายหนังขึ้นมา หนังต่าง ๆ ถูกฉายผ่านทีวีโบราณจอใหญ่ มีผู้คนให้ความสนใจกับพื้นที่ฉายหนังตรงนี้อยู่พอสมควร ซึ่งครั้งหนึ่ง มะเดี่ยว - ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ก็ได้มาขอใช้พื้นที่แห่งนี้ทดลองฉายหนังเรื่อง “คน ผี ปีศาจ” อีกด้วย

และนอกจากสถานที่ฉายหนังแล้วยังมีความสนใจในการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับหนังอีกด้วย จึงเกิดการชักชวนผ่านโลกออนไลน์ในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ เว็บบอร์ด ซึ่งผลตอบรับก็เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ มีผู้คนแวะเวียนมาขอใช้พื้นที่ ทำกิจกรรม เสวนา พูดคุย จนกระทั่งนิตยสารปิดตัวลง เราก็ได้ไปค้นพบพื้นที่ใหม่ ๆ ในการฉายหนังมากมายอย่าง Warehouse 30 และได้ต่อยอดมาเป็นที่ Woof Pack แห่งนี้กับ Doc Club & Pub. สถานที่ที่เราทั้งคู่ได้พัฒนาภาพที่ตั้งเป้าเอาไว้ให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

“พื้นที่ฉายหนังมันสามารถกลมกลืนไปกับพื้นที่ต่าง ๆ ตามแต่ละบริบทของพื้นที่ที่เข้าไปอยู่”

หลังจากที่ได้ทดลองทำพื้นที่ฉายหนังมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ออฟฟิศ Bioscope หรือ Warehouse 30 เราได้มาคิดต่อยอดว่าจะสามารถแทรกตัวไปตามสถานที่อื่น ๆ อย่างเทศกาลหรือกิจกรรมฉายหนังได้อย่างไร ในช่วงแรกที่ทดลองฉายหนังที่ Warehouse 30 ด้วยลักษณะของพื้นที่เองยังไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกับภาพที่คิดเอาไว้ แต่กลับกลายเป็นว่าพอหลังจากพื้นที่มันถูกดำเนินไปก็ทำให้เกิดบรรยากาศหรือบริบทแบบใหม่ขึ้นมาเช่นกัน เหมือนเป็นสถานที่ฉายหนังกึ่งพื้นที่ที่เอาไว้พูดคุย แลกเปลี่ยน รวมไปถึงจัดสัมนา จัดเสวนา จัดเวิร์คชอปต่าง ๆ เกี่ยวกับหนัง มันก็เป็นบรรยากาศที่น่าสนใจอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน พอหลังจากที่ยุติการฉายหนัง Warehouse 30 ก็เลยได้เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่จะนำมาผสมผสานกับพื้นที่ที่ใหม่ ๆ ที่เป็นมากกว่าโรงหนัง อยากให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนได้เข้ามาแลกเปลี่ยน พูดคุย กับทุกเรื่องราวของหนังได้นั่นเอง

เพิ่มอรรถรสของการดูหนังด้วยบรรยากาศแบบเต็มอิ่ม

ด้วยความที่เราทั้งคู่มีภาพในหัวเกี่ยวกับ Doc Club & Pub. มาประมาณหนึ่งแล้ว ว่าอยากจะสร้างขึ้นในทิศทางแบบไหน จึงเป็นการทำงานร่วมกันกับทางสถาปนิก เขาจะเป็นคนเอาโจทย์ไปทำต่อ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมา พวกเขาช่วยเติมเต็มภาพและความต้องการของเราที่มี 

เติมเต็มความมั่นใจให้กับสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

ในส่วนของบรรยากาศ ความรู้สึกของการดูหนังเหมือนเป็นการได้ใช้เวลาพักผ่อน ฉะนั้นการออกแบบตกแต่งจึงอยากให้สอดคล้องกับบรรยากาศตรงนี้เป็นอย่างมาก สามารถปรับเปลี่ยนไปได้หลากหลายบรรยกาศได้ตามวันเวลา อย่างเช่น ช่วงกลางวัน บรรยากาศภายในร้านอยากให้เหมาะแก่การพูดคุย นั่งประชุม สัมนา ทำงาน จึงต้องมีการใช้เป็นกระจกมาแต่งเติมให้มีแสงเข้ามา ประกอบกับวิวเมือง เพื่อให้เกิดความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย ในส่วนของช่วงเวลากลางคืนก็จะลดแสงลงมา เปลี่ยนบรรยากาศที่จะให้ความรู้สึกเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งออกมามันก็สอดคล้องกับในส่วนของโรงหนังอีกด้วย

ตู้หนังสือ คลังความรู้ของผู้รักหนัง

ตู้หนังสือที่เปรียบเสมือนคลังความรู้ที่รอคอยให้ผู้คนที่เข้ามาใช้บริการได้มาเปิดอ่าน ซึ่งบรรดาหนังสือมากมายเหล่านี้ก็ได้รับการส่งต่อมาจากเพื่อน ๆ ในวงการ ทุกคนล้วนแล้วอยากจะแบ่งปันแนะนำหนังสือดี ๆ มากกว่าจะทิ้งเอาไว้แน่นิ่งอยู่ในตู้ เลยเกิดเป็นการส่งต่อให้กับคนอื่นที่เขาสนใจได้เข้ามานั่งอ่านกับพื้นที่ตรงนี้เสียดีกว่า

การคัดเลือกหนังกับ DNA ความเป็น Documentary Club

เริ่มแรกหนังส่วนใหญ่จะเป็นหนังแนวสารคดีอย่างชื่อของ Documentary Club เลย เพราะหนังแนวนี้มันเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นไปของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและให้มุมมองกับคนดูได้หลากหลายเป็นอย่างมาก รวมไปถึงพวกหนังแนวคลาสสิคจำนวนหนึ่งที่นำมาฉายด้วยเช่นกัน ต่อมาภายหลังก็มีหนังประเภทที่เราชื่นชอบและสนใจมีทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วคัดเลือกมาจากผู้กำกับที่น่าสนใจ หรือหนังคุณภาพที่เคยฉายไปแล้วก็นำมาฉายย้อนหลังอีกครั้งเช่นกัน

ทำในสิ่งที่ยังไม่มีใครทำ
ตั้งแต่ที่งานเกี่ยวกับวงการหนังมา เรามีความคิดที่ว่า “อะไรที่มันมีอยู่แล้วหรือมีคนทำอยู่แล้วเนี่ย เราไม่ต้องไปทำ เรามาทำสิ่งที่ยังไม่มีให้มันเติบโตไปเป็นอีกแนวทางหนึ่งมันน่าจะดีกว่า” เพราะตลาดวงการหนังบ้านเรามันยังมีพื้นที่เหลืออยู่อีกมาก สิ่งเราคิดมันเลยเติมภาพของวงการนี้ให้มันเต็มยิ่งขึ้นไปได้ อย่างการทำนิตยสาร Bioscope ตอนนั้นที่เริ่มทำก็มองดูว่าหนังสือประเภทนี้ยังไม่มีใครทำ ถ้ามีคนทำแล้วเราก็อยากอ่าน แต่ถ้าไม่มีเราก็ขอทำเองเลยแล้วกัน เราอยากอ่านหนังสือเกี่ยวกับหนัง ซึ่ง Documentary Club เหมือนกัน มันมีหนังหลายเรื่องที่เราดูแล้วมันเป็นแรงบันดาลใจ มีหนังหลายเรื่องที่เปิดโลกเรามาก ทำไมยังไม่มีใครนำเข้ามาฉายสักที ก็เลยเกิดเป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นผลลัพธ์จากการทดลองครั้งใหม่นี้ Doc Club & Pub. แห่งนี้นั่นเอง

Film lovers are sick people

ความจริงแล้วเราทุกคนล้วนไม่ปกติ (หัวเราะ) ถ้าเราลุ่มหลงในอะไรมาก ๆ มันก็ย่อมไม่ปกติ การดูหนังก็เช่นกัน การมีพื้นที่ให้คนไม่ปกติเหล่านี้ได้มาคุยกัน มันถึงจะเป็นบรรยากาศการคุยที่ออกรสถึงเครื่อง ซึ่งสถานที่แห่งนี้พร้อมรองรับเหล่าผู้คนที่มีความสนใจในเรื่องที่คล้าย ๆ กัน ได้มานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องที่น่าสนใจร่วมกัน เป็นพื้นที่จัดเสวนา พูดคุยหรือตั้งคำถาม รวมไปถึงคนที่ไม่ได้สนใจในสิ่งนั้น ๆ มาก่อน ก็สามาถเข้ามานั่งฟังได้เช่นกัน บางทีคำตอบที่ได้รับกลับไปก็อาจจะไปเป็นแรงบันดาลใจเราในส่วนอื่น ๆ ได้อีกด้วย

การกระจายตัวของวัฒนธรรมการดูหนัง

เรียกได้ว่าเป็นการทำงานร่วมกันก็คนในพื้นที่เลยก็ว่าได้ กับโปรเจกท์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต มีผู้คนมากมายที่ทำงานร่วมกับทาง Documentary Club ซึ่งล้วนแล้วกระจัดกระจายกันออกไปตามแต่ละจังหวัด อย่างเช่นที่ เชียงใหม่ ขอนแก่น หรือ หาดใหญ่ เป็นต้น ด้วยความคิดว่า เราเสนอแล้วเขาตอบสนองสิ่งที่เราเสนอได้มันก็เป็นเหมือนแรงขับเคลื่อน เราอยากให้ทุกคนได้ดูหนังที่ดีและมีคุณภาพ ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ต้องใช้ผู้คนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่คอยเติมเต็มพื้นที่ตรงนี้ให้เต็มเปี่ยมมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน รวมทั้งการทำงานกับคนในพื้นที่ก็จะได้เข้าใจถึงอีกมุมมองหนึ่งว่า แต่ละพื้นที่ ผู้ชมต้องการหนังประเภทไหนหรือมีความสนใจหนังแบบไหนเป็นพิเศษ ล้วนแล้วมันย่อมแตกต่างออกไปในแต่ที่ เราก็เป็นเหมือนตัวกลางที่คอยเชื่อมพวกเขาเหล่านั้นด้วยการนำเสนอหนังที่ดีและมีคุณภาพสืบไป

“เราทุกคนล้วนมีหนังที่ตัวเองชื่นชอบและมองหาพื้นที่สำหรับพูดคุยแลกเปลี่ยนอยู่เสมอ”

ดังนั้น Doc Club & Pub. แห่งนี้จึงไม่ใช่สถานที่สำหรับใครคนใดคนหนึ่งหรือหนังแนวใดแนวหนึ่ง แต่เป็นเสมือนพื้นที่สำหรับเหล่าผู้คนที่ชอบอะไรที่คล้าย ๆ กันได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน แม้แต่ผู้คนที่มีความชอบในสิ่งที่แตกต่างกันก็สามารถเข้ามาที่แห่งนี้เปิดรับมุมมองหรือข้อมูลใหม่ ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้เราสามารถไปเรียนรู้หรือปรับใช้ได้ในอนาคตอีกเช่นกัน หากเปรียบเทียบสถานที่แห่งนี้ก็คงเป็นดั่งจอที่พร้อมจะฉายหนังแนวต่าง ๆ เพื่อรองรับเหล่าคนดูที่หลากหลายนั่นเอง แม้ตอนนี้การดูหนังแบบ Online Streaming กำลังเข้ามาเป็นหนึ่งในบทบาทสำคัญ แต่สุดท้ายการดูหนังในโรงก็ยังเป็นส่วนที่เติมเต็มผู้คนได้มากกว่าเช่นกัน การมีพื้นที่สำหรับการพูดคุย แลกเปลี่ยนของคนรักหนังมันควรที่จะต้องดำเนินต่อไป

การดูหนังในแบบฉบับ หมู-สุภาพ หริมเทพาธิป

สำหรับผม ๆ คิดว่า การดูหนังเรามักจะได้เห็นมุมมองที่มากขึ้น ซึ่งการดูหนังเองก็มีสถานะเหมือนอีเว้นต์หนึ่ง พอดูจบแล้วก็ออกมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน แต่ก็ยังมีหนังนอกกระแสอีกจำนวนมากมายที่นอกเหนือจากเนื้อความของหนังแล้ว ยังมีการต่อยอดออกไปได้ในแนวกว้าง สมมติว่าคุณพึ่งดูหนังของปีกัสโซ่จบ แล้วเราไปหาหนังสืออ่าน ไปหาผลงานศิลปะดูเพิ่มเติม รวมไปถึงติดตามผลงานอื่น ๆ ผู้กำกับคนนั้น ซึ่งในปัจจุบันการดูหนังลักษณะนี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าไหร่นัก Documentary Club แห่งนี้เลยอยากจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คอยเติมสิ่งเหล่าให้กับผู้คนที่สนใจในการดูหนัง มันอาจจะทำให้การดูหนังของเรานั้นหลากหลายมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย

หากคุณกำลังอยู่ในช่วงค้นหาตัวเอง “การดูหนัง” มักจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใครหลายคนเลือกใช้ การมองหาหนังที่น่าสนใจสักเรื่อง ใช้เวลา ใช้ความคิด เปิดเปลี่ยนรับมุมมองใหม่ ๆ ไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหล่านั้น อาจจะทำให้เราได้ตกผลึกและสร้างเป็นมุมมองใหม่ในการดำเนินชีวิตอีกแนวทางหนึ่งก็ได้เช่นกัน ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องชอบในสิ่งที่คนอื่นชอบ หรือไม่ชอบในสิ่งที่คนอื่นไม่ชอบ ไม่มีอะไรผิดแปลกเลย เราคือตัวเรา มนุษย์ทุกคนย่อมมีความเป็นตัวเอง ตราบใดที่คุณยังไม่เจอสิ่งที่ชอบ การค้นหาตัวตนผ่านการดูหนัง วันหนึ่งเราก็จะตอบตัวเองได้ว่าสุดท้ายแล้วหนังแบบไหนที่เป็นตัวเราได้มากที่สุดได้เช่นกัน

การที่แต่ละคนมีความชอบที่ไม่เหมือนคนอื่น มันเลยกลายเป็นจุดแลกเปลี่ยนเพื่อเกิดการตั้งคำถามและหาคำตอบร่วมกันในสังคม ซึ่งมันจะขับเคลื่อนวงการนี้ให้ก้าวไปข้างหน้าได้มากยิ่งขึ้น หากพูดว่าขณะนี้เราอยู่ในสังคมที่เป็นเผด็จการเต็มรูปแบบ เราก็ควรจะมีความเป็นประชาธิปไตยในการรับฟังความเห็นของผู้อื่นเช่นกัน

    TAG
  • Doc Club
  • Documentary Club
  • movie
  • culture
  • lifestyle

Doc Club & Pub. คอมมูนิตี้คนรักหนังกับโรงหนังแบบ Stand Alone แห่งใหม่

CULTURE/MOVIE
4 years ago
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    งานศิลปะที่หลอมรวมอยู่ในเนื้อกายภาพยนตร์ The Room Next Door ของ Pedro Almodóvar

    ถ้าเอ่ยชื่อของ เปโดร อัลโมโดวาร์ (Pedro Almodóvar) หลายคนอาจรู้จักเขาในฐานะผู้กํากับเจ้าของ ฉายา “เจ้าป้าแห่งวงการหนังสเปน” ที่นอกจากหนังของเขาจะเต็มไปด้วยลีลาอันจัดจ้าน เปี่ยมสีสัน เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันแปลกประหลาดพิลึกพิลั่นพิสดารเหนือความคาดหมาย และถึง พร้อมไปด้วยศิลปะภาพยนตร์อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ด้วยความที่อัลโมโดวาร์หลงใหลในศิลปะอย่างลึก ซึ้ง ทําให้มักจะมีงานศิลปะปรากฏให้เห็นในหนังของเขาอยู่บ่อยครั้ง และนอกจากเขาจะหยิบงาน ศิลปะเหล่านั้นมาใช้ในหนังเพราะความหลงใหลและรสนิยมส่วนตัวอันวิไลของตัวเองแล้ว ในหลายๆ ครั้ง ผลงานศิลปะเหล่านั้นยังทําหน้าที่ในการช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว ขับเน้นบุคลิกภาพของตัวละคร และเป็นสัญลักษณ์ที่สัมพันธ์กับเนื้อหาในหนังอย่างแนบเนียน

    Panu BoonpipattanapongJanuary 2025
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    Love Lies เรื่องรักจากคำหลอกของหญิงหม่ายและมิชฉาชีพ ผลงานการกำกับครั้งแรกของ Ho Miu Ki

    ท่ามกลางลิสต์ภาพยนตร์ต่อสู้ระทึกขวัญ หรือภาพยนตร์ดราม่าเรียกอารมณ์ผู้ชม ใน Hong Kong Film Gala Presentation & Dynamic Cityscapes of Hong Kong Films “งานภาพยนตร์ฮ่องกงพลังหนังขับเคลื่อนเมือง กับนิทรรศการหนังฮ่องกง” ที่เดินทางกลับมาฉายในไทยอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังมีภาพยนตร์กลิ่นอายโรแมนติกอีกหนึ่งเรื่อง ที่น่าจับตามองไม่แพ้กันอย่าง Love Lies ที่นำเสนอความสัมพันธ์ของแพทย์หญิงหม่าย ที่รับบทโดย Sandra Ng Kwan-Yue (อู๋จินหยู) ผู้ร่ำรวย และมีหน้าที่การงานที่ดี ซึ่งบังเอิญตกหลุมรักกับวิศวกรชาวฝรั่งเศสวัยกลางคน ที่คอยหยอดคำหวานและคำห่วงใยผ่านแชทมาให้ตลอด จนกระทั่งเธอค้นพบความจริงว่าเบื้องหลังแชทเหล่านี้เกิดขึ้นด้วยคำลวงจากฝีมือเด็กหนุ่มมิชฉาชีพ ที่รับบทโดย MC Cheung (เอ็มซีเจิ้ง) ดังนั้นเรื่องราวต่อจากนี้ในภาพยนตร์จึงเป็นการค้นหาคำตอบของเธอในสมการความสัมพันธ์ครั้งนี้ว่าจะจบลงอย่างไร

    EVERYTHING TEAM8 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    Nick Cheuk ผู้กำกับและนักเขียนบท Time Still Turn The Page ภาพยนตร์ทรงพลังที่ท่วมท้นด้วยคำชื่นชมจากทั้งในและนอกฮ่องกง

    ความสำเร็จด้านรายได้กว่า 100 ล้านเหรียญฮ่องกงของ A Guilty Conscience จากการกำกับของ แจ็ค อึ่ง (Jack Ng) สร้างปรากฏการณ์ใหญ่ที่นับได้ว่าเป็นความหวังใหม่ของอุตสาหกรรรมภาพยนตร์ของฮ่องกง และทำให้บรรยากาศของแวดวงนี้ดูจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในสายตาของแฟนหนังทั่วโลก พอ Hong Kong Film Gala Presentation หรือที่ในปีนี้ใช้ชื่อเต็มว่า Hong Kong Film Gala Presentation & Dynamic Cityscapes of Hong Kong Films “งานภาพยนตร์ฮ่องกงพลังหนังขับเคลื่อนเมือง กับนิทรรศการหนังฮ่องกง” ได้กลับมาจัดอีกครั้งในประเทศไทย ก็ทำให้ลิสต์ในปีนี้เต็มไปด้วยภาพยนตร์คุณภาพที่น่าจับตามองจากฝีมือการกำกับของผู้กำกับรุ่นใหม่ และจากพลังของนักแสดง

    EVERYTHING TEAM8 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    บทสนทนาเชิงลึกกับสองผู้กำกับหนังสารคดี Breaking The Cycle

    ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้สามารถเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะบอกเล่าแก่คนรุ่นหลังได้ว่าพวกเราซึ่งเป็นประชาชนภายในประเทศนี้ผ่านอะไรกันมา กำกับโดย “เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์” (เอก) ผู้กำกับภาพยนตร์อิสระจากสงขลา เอกเริ่มกำกับสารคดีสั้นเกี่ยวกับความตายของ กฤษณ์ สราญเศรษฐ์ ลุงของเขาในชื่อเรื่อง “คลื่นทรงจำ” (2561) ซึ่งได้รับรางวัลสารคดีสั้นยอดเยี่ยมในงานเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติ DMZ ที่ประเทศเกาหลีใต้ และได้เข้าฉายในเทศกาลต่างประเทศอีกหลายแห่ง และผู้กำกับอีกคน คือ “ธนกฤต ดวงมณีพร” (สนุ้ก) ผู้กำกับภาพยนตร์และผู้กำกับภาพ ที่ได้เข้าชิงรางวัลช้างเผือกจากเทศกาลภาพยนตร์สั้นแห่งประเทศไทยครั้งที่ 21 จากเรื่อง “ทุกคนที่บ้านสบายดี” (2560) และได้รับเลือกฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติไห่ หนาน

    EVERYTHING TEAM10 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    งานศิลปะที่รายล้อมตัวละครในหนังทริลเลอร์จิตวิทยา Inside (2023)

    Inside (2023) หนังทริลเลอร์จิตวิทยาของผู้กำกับสัญชาติกรีซ วาซิลลิส แคตซูพิส (Vasilis Katsoupis) ที่เล่าเรื่องราวของของนีโม (วิลเลียม เดโฟ) หัวขโมยที่ลักลอบเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของสถาปนิกชื่อดัง เพื่อขโมยงานศิลปะราคาแพงที่สะสมอยู่ในนั้น แต่ดันบังเอิญโชคร้ายถูกระบบนิรภัยขังอยู่ภายในคนเดียว ท่ามกลางงานศิลปะที่อยู่รายรอบ จนเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดอยู่ข้างใน โดยอาศัยข้าวของรอบตัว หรือแม้แต่งานศิลปะที่อยู่ในนั้นมาใช้เป็นเครื่องมือก็ตาม เรียกได้ว่าเป็น Cast Away เวอร์ชันอาชญากรก็ได้

    Panu Boonpipattanaponga year ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MOVIE

    Exclusive Talk กับผู้กำกับและนักแสดงนำหญิงจาก “A Guilty Conscience” ภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่องแรกที่ทำรายได้ทะลุร้อยล้านเหรียญฮ่องกง

    ฮ่องกง เมื่อราวสิบยี่สิบปีก่อน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามองมาก ๆ ในฐานะประเทศที่ส่งออกภาพยนตร์ออกสู่สายตาของประชาคมโลก ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ต่อสู้กำลังภายใน ภาพยนตร์มาเฟีย หรือแม้แต่ภาพยนตร์ชีวิตที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้งของหว่องกาไว จนเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของอุตสาหกรรมฮ่องกง แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทำให้ความคึกคักของภาพยนตร์ฮ่องกงเริ่มเงียบเหงามากขึ้นเรื่อย ๆ จนแฟนหนังฮ่องกงหลายคน ออกปากบ่นคิดถึงความรุ่งเรืองในอดีต ดังนั้นเมื่อเกิดปรากฏการณ์ความนิยมระดับ 100 ล้านเหรียญฮ่องกง ของภาพยนตร์อาชญากรรมอย่าง A Guilty Conscience ขึ้นมาแล้ว แสงที่เคยริบหรี่ก็อาจจะกลับมาสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง

    EVERYTHING TEAM2 years ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )