ELEPLANT MUSEUM พื้นที่พบกันของคน ช้าง และธรรมชาติ / ภูมิพิพิธสถาน โดย อ.บุญเสริม เปรมธาดา และ BANGKOK PROJECT STUDIO | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

พิพิธภัณฑ์ช้างไทยกึ่งกลางแจ้งที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ในพื้นที่ชมชุนของชาวกูย และช้างสุรินทร์ ผ่านองค์ประกอบงานสถาปัตยกรรม

Photographer:
Spaceshift Studio

Writer:
Nada Inthaphunt

Architect:
Boonserm Premthada

Special Thanks:
Bangkok Project Studio

เมื่อหนึ่งปีที่แล้วทีม EVERYTHING ได้มีโอกาสไป เก็บภาพโครงการโลกของช้าง หรือ Elephant World จังหวัดสุรินทร์ กับผู้ออกแบบโครงการ Bangkok Project Studio ที่ก่อตั้งโดย อาจารย์บุญเสริม เปรมธาดา การเดินทางไปครั้งนั้นทำให้เราสัมผัสถึงความพิเศษของสถานที่ตั้ง รวมถึงความผูกพันฉันมิตร ระหว่าง คนกับสัตว์รายล้อมทั้งภายในและภายนอกโครงการซึ่งแตกต่างจากที่อื่น

   โครงการ Elephant World ประกอบด้วยสามกลุ่มอาคารหลักที่อยู่ในการออกแบบของอาจารย์บุญเสริม โดยสองอาคารแรกได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเมื่อปีที่แล้ว มีลักษณะการจำแนกผู้ใช้งานหลักแยกชนิดกัน ELEPHANT STADIUM เล่าถึงสนามเด็กเล่นของช้างในสเกลของมัน เป็นพื้นที่ของสัตว์ และอนุญาตให้คนเข้ามาสังเกตเท่านั้น ในขณะที่ BRICK TOWER เล่าถึงวิถีชีวิตของชาวกูยในสเกลของคน เป็นพื้นที่ของคน ดังนั้นอาคารที่สามอย่าง ELEPHANT MUSEUM จึงเล่าถึงความผูกพันของชาวกูยและช้างสุรินทร์ ในสเกลผสมของผู้ใช้งานหลักทั้งสองชนิด เป็นพื้นที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสองผู้ใช้งานหลักอยู่ร่วมกันได้

   อาคารเสมือนสวนสาธารณะซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์กึ่งกลางแจ้งแห่งนี้ เกิดจากการตัด สอย ดึง แมสขนาดใหญ่ ระหว่างรอยแยกของแมสแต่ละก้อนตัดกันเป็นแกนบวก แล้วถูกขยับเพื่อเพิ่มมิติให้กลุ่มอาคารที่ได้แบ่งออกเป็นสี่ส่วนสามารถเดินเข้า-ออกได้จากทั้งสี่ด้าน ทั้งนี้การเปิด-ปิดของแมสได้สร้างปฏิสัมพันธ์เชื่อมโยงพื้นที่ภายใน และภายนอก (Inside – Out) ให้ธรรมชาติ แสง-เสียง-กลิ่น เป็นตัวกระตุ้นผัสสะผ่านองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมได้ดียิ่งขึ้น

พื้นหินบะซอลต์เดียวกันกับใน Elephant Stadium แต่มีความละเอียดกว่า เพื่อให้ช้างสามารถเดินได้

   ทางเดินหลักมีลักษณะเปิดไม่มีรั้วกั้น มีขนาดกว้างพอสำหรับช้างเดินเรียงเดี่ยวสู่ภายในทำหน้าที่เชื่อมโปรแกรมการใช้งานทั้งสี่ส่วน และทางเดินย่อยซึ่งขนาดเล็กลงสำหรับคนเดินเข้าแต่ละกลุ่มอาคาร คือ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด คาเฟ่ ส่วนขายของที่ระลึก ห้องประชุมสัมมนาขนาดเล็ก และมีโปรแกรมอำนวยความสะดวกรองรับการใช้งานหลักในแต่ละกลุ่มอาคาร

วิถีชีวิตบนพื้นที่

   ในแต่ละชุมชนนั้นมีความเกี่ยวเนื่องส่งผลซึ่งกันและกันทั้งหมดเช่นเดียวกับที่นี่ วิถีชีวิตทั้งหลายเกิดจากความเข้าใจกัน ผู้ออกแบบจึงตั้งใจสื่อถึงเนื้อแท้ของแต่ละความสัมพันธ์ผ่านการทำวิจัยจนเป็นโครงการนี้เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัส

   “ทำไมต้องมีธรรมชาติ ทำไมถึงต้องปลูกต้นไม้ ทำไมต้องมีป่า ชาวกูยต้องปลูกพืชเพื่อให้เป็นอาหารของช้าง ต้องทำบ่อน้ำเพื่อให้ช้างได้ดื่ม ได้อาบ ปลูกพืชที่เป็นอาหารของช้าง ป่าก็จะตามมา มันก็กลายเป็นคนทำให้เกิดสิ่งแวดล้อม ป่าไม้ เกิดขึ้น เกิดแหล่งน้ำเกิดขึ้น โดยคำนึงถึงช้างเป็นจุดเริ่มต้น” อาจารย์บุญเสริมกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่าง มนุษย์-สัตว์-ธรรมชาติตามความเชื่อที่นี่ช้างเปรียบเสมือนเทวดาอารักษ์ ถูกเลี้ยงประหนึ่งลูก ในขณะที่ช้างกับน้ำเป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน ช้างจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนที่นี่ขุดบ่อน้ำให้กว้างขึ้น ปลูกพืชให้มากขึ้น แต่เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นเวลานานหลายช่วงชีวิตคนจนกลายเป็นป่าและแหล่งน้ำที่ หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตที่นี่

BRICKSCAPE – LANDSCAPE – SOUNDSCAPE
  กำแพงอิฐทำมือก่อหนาขึ้นมีความสูงสุดที่ 10 เมตร ไล่ขึ้นโค้งเป็นเนินสูงต่ำเชื่อมเส้นกำแพงจรดลงสู่ผืนดิน มองภาพรวมแล้วคล้ายลักษณะภูมิประเทศที่ราบสูง และภูเขาสลับซับซ้อนของจังหวัด กลายเป็นภูมิทัศน์ของอิฐ หรือ Brickscape

  “อิฐเป็นวัสดุพื้นฐานที่ทำโดยมือมนุษย์ อิฐเป็นตัวแทนของทุกพื้นที่ เป็นตัวแทนของดินในภูมิภาคนั้น” ผู้ออกแบบเล่าถึงสื่อที่ใช้เชื่อมโยงแนวคิดผ่านวัสดุหลักภายในงาน “อิฐก็เป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมที่อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติชนิดหนึ่ง สิ่งสำคัญการใช้อิฐของผมในงานชิ้นนี้เพื่อสื่อถึงความมั่นคงแข็งแรงสอดคล้องกับสเกลของช้าง”

  ในขณะที่ความมั่นคงแข็งแรงของอิฐถูกอธิบายถึงความมั่นคง แข็งแรงกับสเกล ซึ่งเกิดจากการทำขึ้นของคนจากธรรมชาติแล้ว อิฐในงานออกแบบของอาจารย์บุญเสริมได้สื่อสารผ่านงานและงานวิจัยออกมาตลอดคือ เรื่องเสียง

  “ช้างฟังภาษาคนรู้เรื่อง” ผู้ออกแบบกล่าวถึงประเด็นที่ยังไม่เคยถูกยกขึ้นมา แต่การสื่อสารกับช้างต้องใช้เสียงที่ดังเพื่อให้ช้างจับความได้ เสียงดังระดับไหน เรียกแบบไหนสื่ออารมณ์อย่างไร มีเพียงควาญผู้ที่สื่อสารกับช้างจะเข้าใจกันได้ดีที่สุด “นั่นคือเหุตผลว่าทำไมต้องทำงานสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวกับเรื่องเสียงที่นี่” การศึกษาพฤติกรรมช้างต้องใช้เวลาวิจัยเพื่อทำความเข้าใจ หาวิธีการถ่ายทอด และยังมีอีกหลายเรื่องที่ผู้ออกแบบกล่าวว่าได้ศึกษารวบรวมไว้ แต่ไม่สามารถทำได้หมด

  ตามงานวิจัยการใช้ภาษาเสียงใน “Sound Brick” เพื่อสร้างการต่อยอดจากต้นแบบการศึกษาหลักแบบ “เสียงในภูมิสถาปัตยกรรม” (Soundscape) กำแพงอิฐขนาดใหญ่ในสเกลของมนุษย์นั้นเป็นการก่ออิฐซึ่งมีความหนากักเก็บเสียงได้ในระดับความสูงภายใน และมีลักษณะค่อยๆ เพิ่มความสูงจนเป็นส่วนโค้งจากทางเดินเข้าสู่ตัวอาคารทางด้านหน้าการเว้าโค้งในแต่ละระดับเปลี่ยนแปลงความสูงเพื่อเกิดการถ่ายเทของอากาศ ลม และเสียง ทั้งเป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถทำให้คนแยกแยะความแตกต่างของเสียงในพื้นที่ได้ การก่ออิฐที่เรียบไม่มีลวดลายนั้นอำนวยต่อการเดินทางของเสียงในแนวตั้ง (Vertical Circulation) เพราะเป็นพื้นที่เปิดด้านบน เสียงที่สะท้อนในแนวนอนของพื้นที่ได้ถ่ายเทสู่แนวตั้งด้านบน ซึ่งเปิดโล่งรับเสียงจากบริบทของธรรมชาติเข้ามากระตุ้นสัมผัส และการมีต้นไม้ระหว่างทางเดินนอกจากให้ความร่มเย็นแล้วยังช่วยลดทอนการสะท้อนของเสียง เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้คนซึมซับความพิเศษของสถานที่ได้ดียิ่งขึ้น

พิพิธภัณฑ์เป็นเนื้อหาที่สำคัญอีกตัวหนึ่งการออกแบบครั้งนี้สถาปนิกตั้งใจให้เหมือนอยู่กลางแจ้ง อาคารสถาปัตยกรรมมีความเสมือนสวนสาธารณะเพราะมันคือพิพิธภัณฑ์กึ่งกลางแจ้ง

   ผลงานของ Bangkok Project Studio มักมีความเชื่อมโยงกับพื้นที่ และผลงานโครงการที่เคยออกแบบมาก่อนเสมอ เสมือนเป็นภาคต่อของกระบวนการพัฒนาทางความคิดที่มีทิศทางของตนชัดเจน และพร้อมจะประยุกต์ให้เข้ากับทุกที่ผ่านกระบวนการวิจัย หากตัดสินเพียงผิวเผินแม้รูปแบบของอาคารมีความคล้ายคลึงกับโครงการสถาบันกันตนา แต่ขนาด ภาษา การใช้วัสดุ บริบท และเรื่องราวภายในเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างให้ทั้งสองโครงการ

   ดังนั้นการเดินทางไปสัมผัสยังสถานที่จริงจะทำให้แยกแยะความต่างออกมาได้ เพราะสถาปัตยกรรมไม่ได้ถูกเริ่มเล่าเรื่องเมื่อเดินทางไปถึงสถานที่ แต่พื้นที่โดยรอบระหว่างทางคืออีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะทำให้คนต่างถิ่นสัมผัสถึงความสัมพันธ์ในท้องถิ่นที่แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร

    TAG
  • Elephant World
  • Bangkok Project Studio
  • บุญเสริม เปรมธาดา
  • Boonserm Premthada
  • ELEPLANT MUSEUM

ELEPLANT MUSEUM พื้นที่พบกันของคน ช้าง และธรรมชาติ / ภูมิพิพิธสถาน โดย อ.บุญเสริม เปรมธาดา และ BANGKOK PROJECT STUDIO

ARCHITECTURE/PUBLICSPACE
5 years ago
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • DESIGN/PUBLICSPACE

    Elephant World สถาปัตยกรรมจากคนเพื่อช้าง โดยผศ.บุญเสริม เปรมธาดา สถาปนิกไทยเจ้าของรางวัลระดับโลก

    สถาปัตยกรรมเป็นศาสตร์ที่เกิดมาจากคนเพื่อคน แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่จะเกิดมาจากคนเพื่อช้าง หนึ่งในงานที่ถูกบรรจุใน Body of Work ของ ผศ.บุญเสริม เปรมธาดา ผู้คว้ารางวัล Royal Academy Dorfman Award ประจำปี 2019

    EVERYTHING TEAM6 years ago
  • DESIGN/PUBLICSPACE

    VESSEL by THOMAS HEATHERWICK

    เมื่อประติมากรรมเเละสถาปัตยกรรม หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง Hudson Yards เปิดตัว Landmark แห่งใหม่ใน New York ผลงานการออกแบบของ Thomas Heatherwick

    EVERYTHING TEAMMarch 2019
  • DESIGN/Architecture

    The Baptist อาคารศูนย์ชุมชนชาวคริสต์ที่ถูกปรับปรุงให้แปลกตา เปิดกว้าง และมีความหมายต่อผู้คน โดย PHTAA

    ในตอนนี้เราขอนําเสนอผลงานออกแบบสถาปัตยกรรมที่แปลกและแตกต่างจากตอนที่ผ่านมา คือเป็น โครงการสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของชุมชนทางศาสนาคริสต์ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็น พื้นที่ที่ถูกใช้งานในรูปแบบอันหลากหลาย อย่างพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์ต่างๆ อีกด้วย โครงการแห่งนี้ มีชื่อว่า The Baptist

    Panu Boonpipattanapong5 days ago
  • DESIGN/Architecture

    Vows Villa วิลล่าแห่งพิธีแต่งงานที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมธรรมชาติริมทะเลเกาะสมุย โดย POAR

    ในตอนนี้เราขอนำเสนอผลงานออกแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจากในตอนที่ผ่านๆ มา คือเป็นโครงการสถาปัตยกรรมที่เป็นวิลล่าสไตล์โมเดิร์นที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นท่ามกลางต้นไม้ใบเขียวขจีบนชายหาดริมทะเลของเกาะสมุย แล้ววิลล่าแห่งนี้ก็ไม่ใช่วิลล่าพักตากอากาศตามปกติธรรมดา หากแต่เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานริมทะเลที่มีชื่อว่า Vows Villa นั่นเอง

    Panu BoonpipattanapongSeptember 2025
  • DESIGN/HOUSE

    W House II บ้านชั้นเดียวที่ลอยอยู่กลางอากาศให้ครอบครัวร่วมกัน สัมผัสทิวทัศน์ธรรมชาติรอบด้าน โดย IDIN Architects

    ในตอนนี้เราขอนําเสนอผลงานออกแบบบ้านอันโดดเด่นอีกครั้ง ภายใต้การออกแบบของสถาปนิก สัญชาติไทยอย่าง IDIN Architects บริษัทสถาปนิกผู้หลงใหลในงานสถาปัตยกรรมยุคโมเดิร์น ซึ่ง บ้านหลังนี้ถึงแม้จะเป็นบ้านชั้นเดียวสําหรับพักอาศัย หากเป็นบ้านชั้นเดียวที่ถูกยกขึ้นสูงจากพื้นดิน ถึง 7 เมตร โดยปล่อยพื้นที่ด้านล่างให้เป็นสวนและลานโล่งเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ราวกับเป็นบ้านเรือนไทย ยกพื้นใต้ถุนสูงที่เราคุ้นเคย แต่รายละเอียดของตัวบ้านกลับเป็นสถาปัตยกรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วย ความโมเดิร์น ด้วยโครงสร้างของบ้านอันเป็นคอนกรีตดิบกระด้าง ห่มคลุมฟาซาดแผงระแนงไม้อัน เรียบเนียนกริบเปี่ยมสไตล์ จนดูไปก็คล้ายกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะอยู่ไม่หยอก โดย เป้ จีรเวช หงสกุล ผู้ ก่อตั้งและเจ้าของบริษัท กล่าวถึงความเป็นมาของบ้านหลังนี้ว่า

    Panu BoonpipattanapongSeptember 2025
  • DESIGN/HOUSE

    SEA LAB บ้าน+น้ำ บ้านที่วางตัวอยู่บนสระดำน้ำลึกของผู้รักการใช้ชีวิตใต้น้ำ โดย Junsekino Architect and Design

    ถึงแม้ในตอนนี้เราจะขอนำเสนอผลงานออกแบบบ้านอีกครั้ง แต่บ้านหลังนี้ก็แตกต่างจากบ้านธรรมดาทั่วๆ ไป เพราะเป็นสถานที่ที่เป็นแนวความคิดแบบ บ้าน+น้ำ ที่สร้างขึ้นเพื่อครอบครัวที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตอยู่กับน้ำ ด้วยการสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง งาน+ความชอบ+การผักผ่อน+การฝึก+การสอน+ธรรมชาติ ด้วยการยกพื้นที่สำหรับดำน้ำมาไว้ในตัวบ้าน เพื่อให้คนที่รักการดำน้ำมาทำกิจกรรมกัน ทั้งการฝึกซ้อม การเรียนการสอน ทบทวนการดำน้ำ รวมถึงโชว์รูมจำหน่ายอุปกรณ์ดำน้ำ ภายในตัวบ้านชั้นล่าง ส่วนชั้นบนคือพื้นที่ส่วนตัวที่เป็นเหมือนบ้านของเจ้าของที่อาศัยอยู่บนห้วงน้ำ

    Panu BoonpipattanapongSeptember 2025
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )