LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING

ผ้าป่าน - สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ กับการเติมพลังและแรงบันดาลใจผ่านเฟรมของธรรมชาติที่มีชีวิต
นอกจากจะเป็นพื้นที่เซฟโซนอันปลอดภัยจากความวุ่นวายและโรคระบาดภายนอกแล้ว บ้านในยุคสมัยปัจจุบันยังทำหน้าที่เป็นห้องทำงานให้กับผู้คน บ้านของใครหลายคนจึงมีการหล่อหลอม และผสมผสานระหว่างพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่ทำงานเอาไว้อยู่ในที่ที่เดียว เหมือนกับ ผ้าป่าน - สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ ผู้ก่อตั้งสื่อศิลปะอย่าง Ground Control รวมถึงเป็น Co-founder และ Creative Director ของ Hub of Photography บ้านของเธอจึงกลายเป็นพื้นที่อันแสนสำคัญ ที่ตอบรับทุกช่วงเวลาและทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
“ป่านจะอยู่บนพื้นที่ของการทำงานมากกว่าพักผ่อน พื้นที่ทำงานก็เลยกลายเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับป่านมาก และป่านจะเลือกนั่งอยู่ที่ที่มองผ่านกระจกหรือหน้าต่างออกไปได้ เพราะว่าเวลาที่เราทำงาน มาสั่งสมความคิดและความเครียด สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแต่ละวันมันจบและผ่านไปได้ คือการ Connect ออกไปที่อื่น” ผ้าป่านเล่าถึงมุมสำคัญภายในบ้าน

สิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่นับเป็นรางวัลในแต่ละวันของเธอเลย คือการได้เห็นพระอาทิตย์ตก ไม่ว่าจะทำงานยาวนานขนาดไหน ผ้าป่านจะต้องหาเวลาว่างมานั่งพักกับตัวเอง พร้อมมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อรับรางวัลหลังจากผ่านพ้นทุกเรื่องราวในแต่ละวัน ซึ่งวิวและบรรยากาศที่ได้ผ่านเฟรมก็จะแตกต่าง ไม่ซ้ำกันเลย บ้างฝนตก บ้างแดดออก จนเสมือนเป็นงานศิลปะจากธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ
การมองวิวผ่านเฟรมหน้าต่าง จึงเสมือนมองผลงานศิลปะผ่านกรอบรูป และผลงานภาพภ่ายของช่างภาพหรือนักเล่าเรื่องผ่านภาพ ที่พวกเขามักจะนำเฟรมไปหยุดความเคลื่อนไหวของทุกสิ่งที่เกิดขึ้น อยู่ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง บันทึกเป็นภาพถ่ายแล้วนำมาเล่า แต่แตกต่างตรงที่ว่าภาพที่ผ้าป่านเห็นผ่านเฟรมหรือกรอบบานของหน้าต่างนั้น เป็นวิวที่มีชีวิตและเปลี่ยนแปลงไปไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน

เมื่อเธอค้นพบแล้วว่าคีย์สำคัญที่เติมพลังงานให้ตัวเอง และช่วยเก็บเกี่ยวชิ้นส่วนของแรงบันดาลใจในการทำงานศิลปะส่วนตัวได้ คือการได้มองผ่านหน้าต่างออกไปข้างนอก ผ้าป่านจึงให้ความสำคัญกับการเลือกสิ่งของภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้ เตียง ปลอกหมอน ไปจนถึงกรอบบานของหน้าต่าง ที่ต้องถูกใส่ใจในทุกรายละเอียด “ผ้าป่านรู้สึกว่ามันเป็นการลงทุนให้กับตัวเองในระยะยาว ที่เมื่อเราลงทุนไปแล้ว เราก็จะได้พลังที่สามารถนำไปใช้ทำกิจกรรมอย่างอื่นต่อได้”

ความใส่ใจในรายละเอียดยังรวมไปถึงเทคโนโลยีอย่างบานมุ้ง เพราะช่างภาพสาวไม่ค่อยชอบใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องแอร์ตลอดเวลา หน้าต่างจึงมักถูกเปิดออกเพื่อรับลมธรรมชาติอยู่เสมอ แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศเขตร้อนที่มีแมลงเยอะ ผ้าป่านเลยชอบบานมุ้งที่มีขนาดความถี่สูงที่ป้องกันแมลงมาปิดทับอีกหนึ่งชั้น โดยที่อากาศยังคงถ่ายเทเข้าสู่ภายในได้อย่างดี ในขณะเดียวกันการเชื่อมโยงชีวิตสู่ภายนอกก็ไม่สะดุด เพราะวิวทิวทัศน์ยังคงมองเห็นชัดเจนได้เหมือนเดิม

“ชีวิตเรามันก้าวไปข้างหน้า มันดำเนินต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ แต่บางครั้งเราต้องมองย้อนกลับมา แล้วเลือกที่จะเฟรมมิ่งช่วงชีวิต ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง หรือสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อเก็บไว้ให้ตัวเอง แล้วให้เวลาตัวเองได้ มองเห็น ได้ Appreciate มัน เพื่อที่ให้สิ่งนี้กลายมาเป็นพลังงาน” ผ้าป่านเล่าส่งท้าย
สอบถามข้อมูลสินค้า: https://bit.ly/3y1xj9T
ดูรายละเอียดสินค้า ATIS: https://bit.ly/3FsTUAk
อี-แคตตาล็อก: https://bit.ly/3mrEHcm
ผ้าป่าน - สิริมา ไชยปรีชาวิทย์ กับการเติมพลังและแรงบันดาลใจผ่านเฟรมของธรรมชาติที่มีชีวิต
/
แค่ได้อ่านชื่อ ก็เชื่อว่าคิ้วของทุกคนคงต้องผูกกันเป็นปมด้วยความสงสัยแล้วว่า ‘บะหมี่ถ้วย ใช้ชื่อนี่เป็นชื่อศิลปินจริงดิ’, ‘มาทำเพลงเอาตลกหรือเปล่าเนี่ย’ บอกไว้ก่อนเลยว่า ไม่ ไม่ตลกเลย เพราะชีวิตที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังผลงานเพลงของ Cupnoodle หรือ “ซาช่า โจสท์” นั้น เต็มไปด้วยความพยายาม ความตั้งใจ จนบางครั้งก็ต้องยอมเสียสละบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้ได้ไขว่คว้าความฝันวัยเด็กในการเป็นศิลปิน ที่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านนั้น เธอแทบจะผ่านประสบการณ์การลงมือทำมาหมดทุกอย่างแล้วเพื่อเข้าใกล้วงการดนตรีให้ได้มากที่สุด (ซึ่งเยอะจนเราเชื่อว่าคงเขียนเล่าได้ไม่ครบ) แต่แม้จะมุ่งมั่นออกตัววิ่งบนเส้นทางนี้ไปด้วยความรวดเร็วมากเท่าไหร่ ซาช่า ที่ ณ ตอนนั้นใช้ชีวิตอยู่ที่ลอนดอน ก็ยังคงไม่เห็นเส้นชัยของตัวเองสักที
/
ทันทีที่ Key Visual สถาปนิก’ 68 เผยแพร่ออกมา บทสนทนาปลุกสัญชาตญาณนักสืบในตัวทุกคนพร้อมใจกันทำงานแบบ Autopilot และระหว่างที่ตามหาเฉลยกันจริงจัง ทุกคนเริ่มหันมาตั้งคำถามต่อว่า Art Toys เกี่ยวข้องกับธีมงานอย่างไร รู้ตัวอีกทีวงสนทนาก็กระเพื่อมขยายกว้างขึ้น ส่งสัญญาณชัดว่า Key Visual ปีนี้เปิดฉากมาแบบสนุกเอาเรื่อง โดนเส้นกันสุดๆ
/
วัลลภ รุ่งกำจัด หรือ อุ้ม นักแสดงที่เชื่อมโยงความเป็นมนุษย์กับโลกของภาพยนตร์ ผ่านการสร้างชีวิตให้ตัวละครต่าง ๆ ได้ออกมาโลดแล่นแสดงความรู้สึกทางอารมณ์ให้กับผู้ชม แม้เขาจะไม่ได้เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในวงกว้างเทียบเท่ากับนักแสดงกระแสหลัก แต่ในเวทีระดับโลก “อุ้ม” ได้พิสูจน์ตัวเองกับการเป็นนักแสดงที่มีความสามารถที่ยอมทุ่มเทหลาย ๆ สิ่ง ให้กับงานศิลปะด้านการแสดงในภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้อย่างสุดตัว
/
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เราได้รู้จักกับเธอคนนี้ในชื่อของ พัด หรือที่ชอบเรียกติดปากกันว่า พัด ZWEED N’ ROLL เจ้าของเสียงทุ้มมีเสน่ห์ นักร้องและนักแต่งเพลงที่ฝากผลงานเพลงเศร้าเอาไว้ในวงการมากมาย อาทิ ช่วงเวลา, Diary, อาจเป็นฉัน และอีกมากมาย ไม่มีอะไรแน่นอนแม้กระทั่งตัวเราเอง ช่วงเวลาจึงได้พัดพาให้เรามาทำความรู้จักกับ “MAMIO” ในฐานะศิลปินใหม่จากค่าย Warner Music Thailand ซึ่งเป็นอีกตัวตนหนึ่งของคุณพัดที่ไม่เคยถูกปลดปล่อยออกมาเลยตลอดชีวิตการทำงานในวงการสิบกว่าปีที่ผ่านมา หรือถ้าจะให้ซื่อสัตย์กับตัวเองจริง ๆ ก็อาจจะเป็นทั้งชีวิตที่เกิดมาเลยเสียด้วยซ้ำ
/
Whispers เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่สะท้อนการเติบโตของวงการ Hardcore ในประเทศไทยอย่างแท้จริง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงกลุ่มเพื่อนที่หลงใหลในดนตรี เพราะนอกจากจะเป็นผู้เล่น พวกเขายังเป็นกำลังสำคัญที่คอยผลักดันซีนฮาร์ดคอร์ในบ้านเรามาโดยตลอด ประสบการณ์ที่สั่งสมทำให้เกิดเป็นสไตล์เฉพาะของ Whispers สร้างความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้พวกเขาก้าวไปสู่เวทีระดับสากล ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ใต้ดินของไทย แต่เสียงคำรามของพวกเขาก็ดังไปไกลถึงทวีปยุโรป มาพบกับเส้นทางดนตรีที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและการเปลี่ยนแปลง กับวงฮาร์ดคอร์ระดับบท็อปของ Southeast Asia
/
ด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์และรูปแบบงานสักของเขา ที่เรารู้สึกแปลกประหลาดกว่างานสักอื่น ๆ (แปลกประหลาดในที่นี้คือความหมายในแง่ดีนะ) ก็เลยตัดสินใจส่งข้อความทักไปหา “พี่นัทครับ ผมขอสัมภาษณ์พี่ได้ไหม” “ได้ครับ” สั้น ๆ แต่จบ เรื่องราวทั้งหมดก็เลยเริ่มต้นขึ้นที่ร้าน CAVETOWN.TATTOO แถว ๆ ปิ่นเกล้า ซึ่งพี่นัทเป็นเจ้าของร้านแห่งนี้ บทสนทนาของเราเริ่มกันในช่วงเวลาบ่าย ๆ ของวันพฤหัส พอไปถึงร้านพี่นัทกำลังติดงานสักให้กับลูกค้าอยู่หนึ่งคน พอได้เห็นลายที่เขาสักต้องบอกว่าเท่มาก ๆ มันมีความเป็น Psychedelic บวกกับ Ornamental ผสมผสานกับเทคนิค Dotwork จนกลายเป็นงานศิลปะบนผิวหนังหลังฝ่ามือ เราถึงกับต้องถามคำถามโง่ ๆ กับลูกค้าที่ถูกสักว่า “เจ็บไหม” แน่นอนคำตอบที่ได้คือ “โคตรเจ็บ” เพราะจุดที่สักคือหลังฝ่ามือ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนร่ำลือกันว่าโคตรเจ็บ ระหว่างที่รอพี่นัทไปพลาง ๆ น้องแมคช่างภาพที่มีรอยสัก Full Sleeve เต็มแขนขวา ก็เริ่มกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปเก็บภาพระหว่างที่เขาสักไปด้วย พอสักเสร็จเรียบร้อยก็ปล่อยให้พี่เขาพักผ่อนกินน้ำ ปัสสาวะ (อ่านแยกคำนะอย่าอ่านติดกัน) ก่อนจะพูดคุย แต่เดี๋ยว ! ก่อนจะเริ่มบทสนทนา เราขอเกริ่นให้ฟังซักนิดนึงเกี่ยวกับชายคนนี้ก่อน
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )