LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING


ดีไซน์ร่วมสมัยของโครงสร้างในโทนสีเขียว ที่เกิดขึ้นมาจากการลดทอนและทดลองค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของเกร็ดจระเข้ ทำให้ Jorakay Pavilion ของผู้นำด้านนวัตกรรมก่อสร้างไทยอย่างแบรนด์จระเข้ โดดเด่น สะดุดตาของผู้คนที่เข้าร่วมงานสถาปนิก’66 แต่นอกจากคอนเซ็ปต์ใหม่ที่นำเสนอตัวตนของจระเข้ออกมาได้อย่างสนุกสนานแล้ว Jorakay Pavilion แห่งนี้ ยังอัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมก่อสร้างที่เกิดขึ้นจากความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์กว่า 30 ปีของจระเข้ ภายใต้แนวคิด “Expert Solutions, Expert Results”
ซึ่งความเชี่ยวชาญของ จระเข้ จะถูกสะท้อนออกมาเป็นโซลูชั่น ที่ช่วยยกระดับงานก่อสร้างไทย ได้ครอบคลุมตั้งแต่งานฐานราก ไปจนถึงงานโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างไรบ้าง? คุณเป๊ก เปรมณัช สุวรรณานนท์ ก็ขอพาทุกคนไปค้นหาคำตอบ พร้อมพูดคุยกับ คุณชินธร อรรถสารประสิทธิ์ Brand Manager แบรนด์ ที่จะพาไปสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ในหลากหลายกลุ่มของจระเข้ ผ่าน 5 ไฮไลท์สำคัญ ภายใน Jorakay Pavilion

Chemical Expertise
เคมีก่อสร้างที่รองรับโครงสร้างสาธารณูปโภค
ไฮไลท์แรกที่จะเจอเมื่อมองจากทางด้านหน้าของ Jorakay Pavilion คือ Chemical Expertise ไฮไลท์ที่ช่วยทำให้ทุกคนได้ขยับขยายมุมมองที่มีต่อจระเข้ให้มากยิ่งขึ้น เพราะจระเข้ไม่ได้มีนวัตกรรมที่ตอบสนองการก่อสร้างอาคารขนาดเล็ก และอาคารขนาดกลางอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน จระเข้ยังได้มีการพัฒนาเคมีก่อสร้างสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเภทต่างๆ โดยคุณชินธรยังได้เล่าเสริมให้ฟังว่า จระเข้พัฒนาผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเหล่านี้ขึ้นมาโดยมีหัวใจสำคัญอยู่ 2 สิ่ง คือ Sustainable คือการสร้างความยั่งยืนด้วยความคงทนถาวร ช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างต่าง ๆ จนสามารถลดปัญหาการซ่อมแซมในภายหลัง และ Speed ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการก่อสร้าง เปิดใช้งานได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

SEE Jorakay
บริการด้านสีสร้างลายโดยผู้เชี่ยวชาญ
เดินออกไปไม่ไกลมาก ก็จะเจอกับผนังในหลากหลายเฉดสี หลากหลายลวดลายจาก SEE Jorakay นวัตกรรมสีจากธรรมชาติ ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ไม่มีกลิ่นเหม็นรบกวน ถ้าใครอยากรู้ว่าไม่มีกลิ่นจริงหรือเปล่า ก็เข้าไปทดลองได้ที่งานสถาปนิก’66 เพราะจระเข้เขาใช้ผลิตภัณฑ์สีของตัวเอง มาทาทั่วทั้งโครงสร้างของ Jorakay Pavilion เลย

ซึ่งผลิตภัณฑ์ SEE Jorakay สามารถตอบสนองทุกงานดีไซน์และความต้องการได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นผนังที่สวยงามในแบบลาย Loft หรือจะเป็นลวดลายแบบสามมิติด้วยผลิตภัณฑ์สีสร้างลาย ก็สามารถเกิดขึ้นได้ตรงตามแคตตาล็อก เพราะจระเข้พร้อมให้บริการ SEE Jorakay Service โดยผู้เชี่ยวชาญ ที่พร้อมให้คำแนะนำและบริการทาสีแบบครบวงจร

Well Being First
นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เพื่อความยั่งยืน
ความปลอดภัยในการอยู่อาศัยเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเดินมาเจอไฮไลท์ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัยแล้ว คุณเป๊กก็ให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะจระเข้มีผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง “Green Products” ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์งานปูกระเบื้อง งานพื้น งานผนัง งานซ่อมแซม และ SEE JORAKAY ซึ่งสถาปนิก ผู้ออกแบบ และผู้ใช้งานอาคารที่กำลังสนใจผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก็มั่นใจได้เลย เพราะผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนเหล่านี้ของจระเข้ ยังผ่านการประเมินอาคารเขียวในระดับสากล และในระดับประเทศ นั้นคือ LEED, WELL และ TREES ถ้าอยากรู้ว่ามีผลิตภัณฑ์ตัวไหนบ้าง ใน Jorakay Pavilion ก็มี Information พร้อมบอกอยู่แล้วด้วยนะ

Tiling Experts
ผู้นำนวัตกรรมการปูกระเบื้องขนาดใหญ่พิเศษ
เรียกได้ว่า จระเข้ เป็นผู้เชี่ยวชาญสำหรับงานปูกระเบื้องอย่างแท้จริง เพราะนอกจากมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยระดับงานปูกระเบื้อง และงานกาวยาแนว ที่ผ่านการประเมินมาตรฐานทั้งในอเมริกาและยุโรปแล้ว จระเข้ ยังพัฒนานวัตกรรมสำหรับการติดตั้งกระเบื้องขนาดใหญ่พิเศษ ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของช่างก่อสร้าง และคุณสมบัติพิเศษของผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย และอุบัติเหตุ งานนี้ทำเอาคุณเป๊กรู้สึกตื่นเต้น เพราะทีมช่างผู้เชี่ยวชาญจากจระเข้ เขาสาธิตการติดตั้งกระเบื้องขนาดใหญ่ให้เห็นทุกขั้นตอน พร้อมกับการใช้ กาวซีเมนต์ จระเข้เอ็กซ์ตรีม ผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์ที่มีแรงยึดเกาะที่สูงเป็นพิเศษ และ RUBI อุปกรณ์สำหรับการช่วยยก ย้าย ตัด และติด


Home Clinic
ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำเรื่องการก่อสร้าง และซ่อมแซม
ไฮไลท์สุดท้ายที่คุณเป๊ก และคุณชินธรพามาชมก็คือ Home Clinic สำหรับให้คำแนะนำ พร้อมปรึกษาพูดคุยเรื่องการซ่อมแซมบ้านตามจุดต่างๆ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากจระเข้ พร้อมกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Jorakay Easy ที่ช่วยทำให้บรรดาเจ้าของบ้าน สามารถดูแล ซ่อมแซม และทำความสะอาดบ้านได้อย่างง่ายๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเองทันทีเลย
แล้วมาสัมผัสกับนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากความเชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด “Expert Solutions, Expert Results” จากจระเข้ ได้ผ่าน 5 ไฮไลท์สำคัญ และพบกับ Jorakay Pavilion ที่นำเสนอตัวตนของผู้นำนวัตกรรมก่อสร้างในคอนเซ็ปต์ใหม่ ได้ที่บูธหมายเลข S214 งานสถาปนิก’66 ระหว่างวันที่ 25-30 เมษายน 2566 ที่ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี
สัมผัสนวัตกรรมที่ยกระดับงานก่อสร้างได้อย่างครบวงจรของจระเข้ ที่ Jorakay Pavilion
/
ในอดีตที่ผ่านมา ในแวดวงศิลปะ(กระแสหลัก)ในบ้านเรา มักมีคํากล่าวว่า ศิลปะไม่ควรข้องแวะกับ การเมือง หากแต่ควรเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความงาม สุนทรียะ และจิตวิญญาณภายในอัน ลึกซึ้งมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะในยุคสมัยไหน ศิลปะไม่เคยแยกขาดออกจาก การเมืองได้เลย ไม่ว่าจะในยุคโบราณ ที่ศิลปะถูกใช้เป็นเครื่องมือรับใช้ชนชั้นสูงและผู้มีอํานาจ หรือใน ยุคสมัยใหม่ที่ศิลปะถูกใช้เป็นเครื่องมือแสดงออกถึงอุดมการณ์ทางสังคมการเมือง หันมามองในบ้าน เราเอง ก็มีศิลปินไทยหลายคนก็ทํางานศิลปะทางการเมืองอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในการสะท้อนและ บันทึกประวัติศาสตร์การเมืองไทยได้อย่างเข้มข้น จริงจัง
/
เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ให้เรารู้ว่า การก๊อปปี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป เพราะอย่างน้อยที่สุด ก็ทําให้ เราได้รู้ว่าผลงานต้นฉบับของจริงในช่วงเวลาที่เสร็จสมบูรณ์นั้นมีความดีงามขนาดไหน ไม่ต่างอะไรกับศิลปินร่วมสมัยสัญชาติไทยอย่าง วิชิต นงนวล ที่หลงใหลศรัทธาในผลงานของศิลปิน ระดับปรมาจารย์ในยุคสมัยใหม่ของไทยอย่าง จ่าง แซ่ตั้ง ตั้งแต่ครั้งยังเยาว์ ในวัยของนักเรียน นักศึกษา เรื่อยมาจนเติบโตเป็นศิลปินอาชีพ ความหลงใหลศรัทธาที่ว่าก็ยังไม่จางหาย หากแต่เพิ่มพูน ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็สุกงอมออกดอกผลเป็นผลงานศิลปะในนิทรรศการ The Grandmaster : After Tang Chang ที่เป็นเสมือนหนึ่งการสร้างบทสนทนากับศิลปินระดับปรมาจารย์ผู้นี้
/
“ยูบาซาโตะ เดินผ่านตามแนวต้นสนขึ้นไปบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เพื่อไปก่อสร้างสถูปดิน และมักจะโดน ทีมงานช่างบ่นทุกวันเกี่ยวกับการก่อสร้าง ที่มีเวลาอยู่อย่างจํากัด เขาเพียงได้แต่ตอบไปว่า .. บุญกุศล นําพาและเวลามีเท่านี้ ขอให้ทําสิ่งดีๆ ให้เต็มที่ ต่อสถานที่บนภูเขานี้เถอะ อย่าบ่นไปเลย เราอาจจะ พบกันแค่ประเดี๋ยวเดียว แต่สิ่งเหล่านี้จะอยู่ต่อไปอีกหลายร้อยปี ... ทีมงานทุกคนเพียงส่งรอยยิ้มที่ เหนื่อยล้ากลับมา ก็เพราะต้องทนร้อนทนแดด และเปียกฝนสลับกันไป จากสภาวะโลกเดือด ที่ทุกคน ต่างพูดถึง แต่ก็จะมาจากใคร ก็จากเราเองกันทั้งนั้น ... แม้จะมาทํางานบนภูเขาก็จริง แต่เขาก็ยังคง คิดถึงเหตุการณ์ภัยน้ําท่วมดินโคลนถล่มที่ผ่านมา อีกทั้งความเสียหายต่อข้าวของที่ต้องย้ายออกจาก บ้านเช่าและค่าใช้จ่ายหลังน้ําท่วมที่ค่อนข้างเยอะพอควร และยิ่งในสภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจแบบนี้...
/
หากเราเปรียบสงคราม และอาชญากรรมที่กระทำต่อมนุษย์ อย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การสังหารหมู่ และการล่าอาณานิคม เป็นเหมือนการสร้างบาดแผลและความแตกร้าวต่อมวลมนุษยชาติ ศิลปะก็เป็นหนทางหนึ่งในการเยียวยาซ่อมแซมบาดแผลและความแตกร้าวเหล่านั้น แต่การเยียวยาซ่อมแซมก็ไม่จำเป็นต้องลบเลือนบาดแผลและความแตกร้าวให้สูญหายไปเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น หากแต่การเหลือร่องรอยแผลเป็นและรอยแตกร้าวที่ถูกประสาน ก็เป็นเสมือนเครื่องรำลึกย้ำเตือนว่า สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นอีกซ้ำเป็นครั้งที่สอง เช่นเดียวกับสิ่งที่ปรากฏในนิทรรศการ “Urgency of Existence” นิทรรศการแสดงเดี่ยวครั้งแรกในเอเชียของ คาแดร์ อัทเทีย (Kader Attia) ศิลปินชาวฝรั่งเศส - แอลจีเรีย ผู้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เขาเป็นหัวหอกในการทำงานศิลปะผ่านสื่ออันแตกต่างหลากหลาย ที่นำเสนอแนวคิดหลังอาณานิคม และการปลดแอกอาณานิคม จากมุมมองของตัวเขาเอง ที่มีประสบการณ์ทางตรงและทางอ้อมของผู้ที่เคยถูกกดขี่และถูกกระทำจากลัทธิล่าอาณานิคมในศตวรรษที่ผ่านมา
/
ในช่วงปลายปี 2024 นี้ มีข่าวดีสำหรับแฟนๆ ศิลปะชาวไทย ที่จะได้มีโอกาสชมผลงานศิลปะร่วมสมัยของเหล่าบรรดาศิลปินทั้งในประเทศและระดับสากล ยกขบวนมาจัดแสดงผลงานกันในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยในเทศกาลศิลปะครั้งนี้นำเสนอผลงานศิลปะจาก 76 ศิลปิน 39 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ภายใต้ธีมหลัก “รักษา กายา (Nurture Gaia)” ที่ได้แรงบันดาลใจจากเทพี ไกอา (Gaia) ในตำนานเทพปรณัมกรีก หรือพระแม่ธรณีผู้ให้กำเนิดและหล่อเลี้ยงสรรพชีวิต เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์อันสอดประสานกลมกลืนกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ
/
เมื่อพูดถึงชื่อ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล หรือ เจ้ย มิตรรักแฟนหนังหลายคนน่าจะรู้จักเขาในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทยผู้เปี่ยมไปด้วยความเป็นศิลปะที่สุด ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่หมายรวมถึงในสากลโลก ยืนยันด้วยรางวัลสำคัญจากเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกหลายต่อหลายรางวัล ไม่ว่าจะเป็นรางวัลยอดเยี่ยมในการฉายสายรอง (Un Certain Regard) จากภาพยนตร์เรื่อง สุดเสน่หา (Blissfully Yours) (2002) และรางวัลขวัญใจคณะกรรมการ (Jury Prize) จากภาพยนตร์เรื่อง สัตว์ประหลาด! (Tropical Malady) (2004) จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ในปี 2002 และ 2004, หรือภาพยนตร์เรื่อง แสงศตวรรษ (Syndromes and a Century) (2006) ของเขาก็ได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัลสิงโตทองคำในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเวนิส ในปี 2006 และคว้ารางวัลกรังปรีซ์จากเทศกาลภาพยนตร์ Deauville Asian Film Festival ในปี 2007, และภาพยนตร์เรื่อง รักที่ขอนแก่น (Cemetery of Splendor) (2015) ของเขาก็คว้ารางวัลยอดเยี่ยมจากเวที Asia Pacific Screen Awards ในปี 2015, ที่สำคัญที่สุด อภิชาติพงศ์ยังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปาล์มทองคำ (Palm d’or) จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ครั้งที่ 63 ในปี 2010 จากภาพยนตร์เรื่อง ลุงบุญมีระลึกชาติ (Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives) (2010), และล่าสุด ภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องล่าสุดของเขาอย่าง Memoria (2021) ยังคว้ารางวัล Jury Prize ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 74 ในปี 2021 มาครองได้อีกครั้ง อีกทั้งยังได้รับเสียงวิจารณ์เชิงบวกอย่างท่วมท้นจากสื่อมวลชนนานาชาติ
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )