LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING

Love Lies เรื่องรักจากคำหลอกของหญิงหม่ายและมิชฉาชีพ ผลงานการกำกับครั้งแรกของ Ho Miu Ki
ท่ามกลางลิสต์ภาพยนตร์ต่อสู้ระทึกขวัญ หรือภาพยนตร์ดราม่าเรียกอารมณ์ผู้ชม ใน Hong Kong Film Gala Presentation & Dynamic Cityscapes of Hong Kong Films “งานภาพยนตร์ฮ่องกงพลังหนังขับเคลื่อนเมือง กับนิทรรศการหนังฮ่องกง” ที่เดินทางกลับมาฉายในไทยอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังมีภาพยนตร์กลิ่นอายโรแมนติกอีกหนึ่งเรื่อง ที่น่าจับตามองไม่แพ้กันอย่าง Love Lies ที่นำเสนอความสัมพันธ์ของแพทย์หญิงหม่าย ที่รับบทโดย Sandra Ng Kwan-Yue (อู๋จินหยู) ผู้ร่ำรวย และมีหน้าที่การงานที่ดี ซึ่งบังเอิญตกหลุมรักกับวิศวกรชาวฝรั่งเศสวัยกลางคน ที่คอยหยอดคำหวานและคำห่วงใยผ่านแชทมาให้ตลอด จนกระทั่งเธอค้นพบความจริงว่าเบื้องหลังแชทเหล่านี้เกิดขึ้นด้วยคำลวงจากฝีมือเด็กหนุ่มมิชฉาชีพ ที่รับบทโดย MC Cheung (เอ็มซีเจิ้ง) ดังนั้นเรื่องราวต่อจากนี้ในภาพยนตร์จึงเป็นการค้นหาคำตอบของเธอในสมการความสัมพันธ์ครั้งนี้ว่าจะจบลงอย่างไร
ซึ่ง Love Lies เป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกภายใต้การกำกับของผู้กำกับหญิงรุ่นใหม่อย่าง Ho Miu Ki (ห่อหมิวเข่ย) ที่ก่อนหน้านี้เคยฝากในแวดวงภาพยนตร์ฮ่องกงในฐานะนักเขียนบทมาแล้วกับ The Mermaid หรือเงือกสาวปังปัง ที่เรียกเสียงตอบรับจากแฟน ๆ ชาวไทยได้อย่างล้นหลาม และแม้ว่าจะเป็นผลงานการกำกับครั้งแรก แต่ Love Lies ก็ได้รับคำชมจากผู้ชมฮ่องกงและต่างประเทศมาต่อเนื่อง ในด้านการเล่าเรื่องที่มีความเรียบง่ายแต่กลับสร้างความโรแมนติกได้อย่างน่าจดจำ จนทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า “แม้ความรักจะเกิดขึ้นจากคำลวง เรายังคงเรียกมันว่าความรักได้อยู่หรือเปล่า”
EVERYTHING ก็ไม่พลาดที่จะชวนห่อหมิวเข่อมาคุยกันถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก และการทำงานในฐานะผู้กำกับครั้งแรกของเธอ
การเปลี่ยนบทบาทจากนักเขียนบทภาพยนตร์ตลก สู่ผู้กำกับภาพยนตร์โรแมนติกเรื่องแรก มันมีความท้าทายสำหรับคุณบ้างหรือเปล่า
ห่อ : เมื่อก่อนบทที่ฉันเองเขียนก็มีความผสมผสานระหว่างภาพยนตร์รักและภาพยนตร์ตลกอยู่แล้ว พอได้มาเป็นผู้กำกับแล้ว ก็เลยไม่ได้รู้สึกถึงความยากมากขนาดนั้น สิ่งที่รู้สึกว่าท้าทายจริง ๆ คือเมื่อก่อนเราจะทำงานภายใต้การนำของผู้กำกับคนอื่นใช่ไหมคะ แต่คราวนี้เราได้้เป็นคนนำทีมแทนแล้ว เลยต้องมีการวางมาตรฐานในการทำงานเพื่อให้ทีมงานสามารถทำตามได้ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ยากอยู่เหมือนกันค่ะ แต่โชคดีที่ได้ทีมงานและเพื่อนร่วมงานที่ดี ทุกคนร่วมมือกันอย่างดีเลยทำให้เกิดภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ

อีกหนึ่งสิ่งที่ฉันได้ค้นพบหลังจากได้ลองทำหน้ากำกับครั้งแรกคือเรื่อง Multi-tasking ที่ผู้กำกับต้องมาคอยโฟกัสเรื่องหลาย ๆ เรื่องพร้อมกัน ซึ่งฉันก็รู้สึกดีใจนะคะที่ได้ลองทำในตอนอายุเท่านี้ เพราะหากได้ทำงานเป็นผู้กำกับในตอนที่ยังเด็กกว่านี้หรือมีประสบการณ์น้อยกว่าตอนนี้สัก 10 ปีที่แล้ว ฉันอาจจะไม่ได้ใจเย็น หรืออาจจะทำออกมาได้ไม่ดีเท่าตอนนี้ก็ได้

ทำไมถึงเลือกประเด็นเรื่องแก๊งมิจฉาชีพมาเล่าในภาพยนตร์เรื่องแรกของตัวเอง
ห่อ : จริง ๆ ฉันคิดว่าปัญหาเรื่องนี้มันเป็นปัญหาสำคัญของสังคม มันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันเลยด้วยซ้ำ และทุกคนต้้องเคยได้ยินได้เห็นข่าวทำนองนี้มาไม่น้อย แต่ฉันในฐานะผู้กำกับก็อยากลองใช้มุมมองของฉัน มาถ่ายทอดปัญหานี้ในอีกมุมหนึ่งบ้าง เพราะทุกคนก็ต้องเคยมีความเหงา มีความต้องการใครสักคนมาคุยด้วยอยู่แล้ว และพอเกิดปัญหาขึ้น แม้จะเป็นการโดยหลอกลวงก็ตาม แต่ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นที่ช่วยคลายเหงาไปได้แล้ว มันก็นับเป็นความรักจริง ๆ เหมือนกันนะ
ในมุมหนึ่งฉันก็คิดว่ามันก็เหมือนการที่เราได้ดูภาพยนตร์นี่แหละค่ะ คือเราก็รู้นะคะว่าสิ่งที่เรากำลังได้ดูอยู่ในภาพยนตร์ มันเป็นแค่เรื่องแต่ง แต่สุดท้ายเราก็รู้สึกกับเรื่องแต่งนั้นจริง ๆ ฉันเลยอยากให้ทุกคนลองคิดว่าแม้ความสัมพันธ์ ไม่ว่ามันจะเป็นแบบไหน เมื่อมันผ่านไปแล้ว และเราอาจจะเกลียดหรือไม่อยากนึกถึงมันอีก แต่ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นก็ยังคงเป็นความจริงอยู่เสมอ

ได้ยินว่าคุณ Sandra Ng Kwan-Yue (อู๋จินหยู) เป็นชื่อแรกเลยที่คุณอยากให้มารับบทหลัก และอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือนักร้องดาวรุ่งอย่าง Cheung Tin-Fu หรือ MC Cheung (เอ็มซีเจิ้ง) ที่เล่นประกบคู่ รับส่งอารมณ์กันได้อย่างดี ทำไมถึงตัดสินใจเลือกทั้งสองคนนี้
ห่อ : ฉันสนใจคุณอู๋จินหยูเพราะฝีมือด้านการแสดงของเธอที่ดีมาก ๆ อีกอย่างคือคาแรคเตอร์ตัวเอกหญิงเป็นแพทย์หญิงที่มีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่มาก ๆ เป็นคนจริงจัง แต่เมื่อมีความรักเธอกลับเลือกแสดงออกถึงความสุขอย่างเปิดเผย ซึ่งฉันรู้สึกมันมีความเหมือนกับคุณอู๋จินหยูมาก ๆ ในขณะที่คาแรคเตอร์ตัวหลักชาย ที่เป็นคนต้องมาหลอกลวงผ่านโทรศัพท์ในบทบาทที่ต้องปลอมตัวเป็นชายอายุเยอะ ๆ ฉันมองว่าคนที่ต้องมารับบทนี้ได้ ต้องเป็นคนที่เสียงเพราะ เอ็มซีเจิ้งก็เป็นนักร้องที่มีเสียงเพราะมากคนหนึ่ง ฉันเลยอยากให้เขารับบทนี้ อีกเหตุผลหนึ่งคือการหลอกลวงผ่านโทรศัพท์หรือการคุยแชทกัน เราไม่มีทางรู้เลยว่าอีกฝ่ายจะรูปร่างหน้าตา หรืออายุตรงตามที่บอกเราหรือเปล่า และพอภาพที่มองเห็นกับความจริงมันไม่ตรงแล้ว มันจะนำไปสู่เรื่องราวแบบไหน ฉันเลยอยากสร้างความสัมพันธ์ต่างวัยระหว่างผู้หญิงอายุเยอะกับเด็กหนุ่มขึ้นมาดูค่ะ
ผลตอบรับจากผู้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ห่อ : ผลตอบรับจากผู้ชมฮ่องกงถือว่าดีมาก ๆ เลยค่ะ พอตอนที่ได้โอกาสไปฉายในต่างประเทศ ก็มีคนเข้ามาชมตลอดว่าเล่าเรื่องความรักได้ดีมาก ๆ รวมถึงมุขตลกบางอย่างที่ถูกเล่าอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีความพิเศษมาก

ถ้าต้องอธิบายภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นประโยคสักหนึ่งประโยค คุณจะอธิบายว่าอย่างไร
ห่อ : “แม้เรื่องราวการโดนหลอกจะจบไปแล้ว แต่คนก็ยังจะคิดว่ามันคือความรู้สึกจริง ๆ ” เหมือนเป็นความรักดี ๆ ที่ฉันเคยมี
รู้สึกอย่างไรบ้างที่ Love Lies ได้มาฉายในประเทศไทย
ห่อ : ดีใจมากนะคะที่ได้มีโอกาสนำผลงานมาฉายในประเทศไทย เพราะจริง ๆ ฉันเองก็ชอบดูภาพยนตร์ไทยมาก โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ทำออกมาได้ดีมากหลาย ๆ เรื่องเลยค่ะ แค่ได้มีโอกาสนำมาฉายที่ไทยก็ดีใจมาก ๆ แล้วค่ะ

Love Lies เรื่องรักจากคำหลอกของหญิงหม่ายและมิชฉาชีพ ผลงานการกำกับครั้งแรกของ Ho Miu Ki
/
ถ้าเอ่ยชื่อของ เปโดร อัลโมโดวาร์ (Pedro Almodóvar) หลายคนอาจรู้จักเขาในฐานะผู้กํากับเจ้าของ ฉายา “เจ้าป้าแห่งวงการหนังสเปน” ที่นอกจากหนังของเขาจะเต็มไปด้วยลีลาอันจัดจ้าน เปี่ยมสีสัน เต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันแปลกประหลาดพิลึกพิลั่นพิสดารเหนือความคาดหมาย และถึง พร้อมไปด้วยศิลปะภาพยนตร์อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ด้วยความที่อัลโมโดวาร์หลงใหลในศิลปะอย่างลึก ซึ้ง ทําให้มักจะมีงานศิลปะปรากฏให้เห็นในหนังของเขาอยู่บ่อยครั้ง และนอกจากเขาจะหยิบงาน ศิลปะเหล่านั้นมาใช้ในหนังเพราะความหลงใหลและรสนิยมส่วนตัวอันวิไลของตัวเองแล้ว ในหลายๆ ครั้ง ผลงานศิลปะเหล่านั้นยังทําหน้าที่ในการช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว ขับเน้นบุคลิกภาพของตัวละคร และเป็นสัญลักษณ์ที่สัมพันธ์กับเนื้อหาในหนังอย่างแนบเนียน
/
ความสำเร็จด้านรายได้กว่า 100 ล้านเหรียญฮ่องกงของ A Guilty Conscience จากการกำกับของ แจ็ค อึ่ง (Jack Ng) สร้างปรากฏการณ์ใหญ่ที่นับได้ว่าเป็นความหวังใหม่ของอุตสาหกรรรมภาพยนตร์ของฮ่องกง และทำให้บรรยากาศของแวดวงนี้ดูจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในสายตาของแฟนหนังทั่วโลก พอ Hong Kong Film Gala Presentation หรือที่ในปีนี้ใช้ชื่อเต็มว่า Hong Kong Film Gala Presentation & Dynamic Cityscapes of Hong Kong Films “งานภาพยนตร์ฮ่องกงพลังหนังขับเคลื่อนเมือง กับนิทรรศการหนังฮ่องกง” ได้กลับมาจัดอีกครั้งในประเทศไทย ก็ทำให้ลิสต์ในปีนี้เต็มไปด้วยภาพยนตร์คุณภาพที่น่าจับตามองจากฝีมือการกำกับของผู้กำกับรุ่นใหม่ และจากพลังของนักแสดง
/
ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้สามารถเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะบอกเล่าแก่คนรุ่นหลังได้ว่าพวกเราซึ่งเป็นประชาชนภายในประเทศนี้ผ่านอะไรกันมา กำกับโดย “เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์” (เอก) ผู้กำกับภาพยนตร์อิสระจากสงขลา เอกเริ่มกำกับสารคดีสั้นเกี่ยวกับความตายของ กฤษณ์ สราญเศรษฐ์ ลุงของเขาในชื่อเรื่อง “คลื่นทรงจำ” (2561) ซึ่งได้รับรางวัลสารคดีสั้นยอดเยี่ยมในงานเทศกาลภาพยนตร์สารคดีนานาชาติ DMZ ที่ประเทศเกาหลีใต้ และได้เข้าฉายในเทศกาลต่างประเทศอีกหลายแห่ง และผู้กำกับอีกคน คือ “ธนกฤต ดวงมณีพร” (สนุ้ก) ผู้กำกับภาพยนตร์และผู้กำกับภาพ ที่ได้เข้าชิงรางวัลช้างเผือกจากเทศกาลภาพยนตร์สั้นแห่งประเทศไทยครั้งที่ 21 จากเรื่อง “ทุกคนที่บ้านสบายดี” (2560) และได้รับเลือกฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติไห่ หนาน
/
Inside (2023) หนังทริลเลอร์จิตวิทยาของผู้กำกับสัญชาติกรีซ วาซิลลิส แคตซูพิส (Vasilis Katsoupis) ที่เล่าเรื่องราวของของนีโม (วิลเลียม เดโฟ) หัวขโมยที่ลักลอบเข้าไปในเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของสถาปนิกชื่อดัง เพื่อขโมยงานศิลปะราคาแพงที่สะสมอยู่ในนั้น แต่ดันบังเอิญโชคร้ายถูกระบบนิรภัยขังอยู่ภายในคนเดียว ท่ามกลางงานศิลปะที่อยู่รายรอบ จนเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดอยู่ข้างใน โดยอาศัยข้าวของรอบตัว หรือแม้แต่งานศิลปะที่อยู่ในนั้นมาใช้เป็นเครื่องมือก็ตาม เรียกได้ว่าเป็น Cast Away เวอร์ชันอาชญากรก็ได้
/
ฮ่องกง เมื่อราวสิบยี่สิบปีก่อน นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามองมาก ๆ ในฐานะประเทศที่ส่งออกภาพยนตร์ออกสู่สายตาของประชาคมโลก ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ต่อสู้กำลังภายใน ภาพยนตร์มาเฟีย หรือแม้แต่ภาพยนตร์ชีวิตที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้งของหว่องกาไว จนเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของอุตสาหกรรมฮ่องกง แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทำให้ความคึกคักของภาพยนตร์ฮ่องกงเริ่มเงียบเหงามากขึ้นเรื่อย ๆ จนแฟนหนังฮ่องกงหลายคน ออกปากบ่นคิดถึงความรุ่งเรืองในอดีต ดังนั้นเมื่อเกิดปรากฏการณ์ความนิยมระดับ 100 ล้านเหรียญฮ่องกง ของภาพยนตร์อาชญากรรมอย่าง A Guilty Conscience ขึ้นมาแล้ว แสงที่เคยริบหรี่ก็อาจจะกลับมาสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง
/
นักธุรกิจชั้นนำหลายคนใช้เวลาว่างจากการทำงานไปกับความหลงใหลที่แตกต่างกัน บางคนใช้เวลาไปกับความหลงใหลในการท่องเที่ยวทั่วโลก บางคนใช้เวลาไปกับความหลงใหลในการล่องเรือตกปลา ขับรถซูเปอร์คาร์ หรือปาร์ตี้สุดเหวี่ยง แต่มีนักธุรกิจผู้หนึ่งที่มีความลุ่มหลงที่แปลกแตกต่างออกไป เขาผู้นี้คือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ผู้บริหารรุ่นที่สองของ โก๋แก่ แบรนด์ถั่วอบกรอบระดับแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง ต้น จุมภฏ รวยเจริญทรัพย์ ผู้หลงใหลในการทำหนังอย่างเข้าเส้น ลงลึกถึงกระดูกดำจนลุกขึ้นมาตั้งค่ายหนังอิสระของตัวเองในนาม โก๋ฟิล์ม ฝากผลงานหนังมันส์ๆ ดิบๆ ห่ามๆ ไม่แคร์ตลาด ไม่แยแสรางวัล ประดับวงการมาแล้วหลากหลายเรื่อง
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )