Mars on Earth. The Journey to Iceland. | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

INTRODUCTION
 สิ่งแรกที่หลายๆ คนต้องนึกถึงการไปท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ ก็คือการไปดูแสงเหนือ แต่ถ้าเที่ยวไอซ์แลนด์ตอนไม่มีแสงเหนือล่ะ จะไปทำไม ? จริงๆ แล้ว การท่องเที่ยวไอซ์แลนด์สามารถทำได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากสภาพ ภูมิประเทศ และ อากาศ ที่จะแตกต่างกันไป ในแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกัน มีโอกาสในการเห็นแสงเหนือที่ต่างกัน แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีอยู่ตลอดทั้งปี เพียงแต่ช่วงเวลาที่จะเห็นแสงเหนือได้ ท้องฟ้าจะต้องมืดสนิทพอซึ่งในช่วงหน้าร้อนเองนั้น มีช่วงเวลาที่ท้องฟ้าจะมืดสนิทอยู่น้อยมากๆ เช่นเดือนสิงหาคมที่พวกเราเดินทางไปกัน ท้องฟ้าจะมืดในเวลากลางคืนเพียงแค่สามชั่วโมงเท่านั้น (เที่ยงคืนถึงตีสาม) นอกนั้นก็จะสว่างตลอดทั้งวัน ทั้งคืน ทำให้โอกาสในการเห็นแสงเหนือมีน้อยมากๆ ในช่วงหน้าร้อน ด้วยเหตุผลที่ว่ามาข้างต้น การเลือกไปไอซ์แลนด์เพื่อไปดูแสงเหนือส่วนใหญ่จะไปกันในหน้าหนาว
ซึ่งก็คือช่วงเวลาระหว่างเดือน ตุลาคม จนถึงเดือน กุมภาพันธ์ แน่นอนว่าการไปเที่ยวในหน้าหนาว สภาพภูมิประเทศต่างๆ จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทั้งหมด น้ำตก และ ธารน้ำต่างๆ ก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง รวมถึง อากาศที่ค่อนข้างจะหนาวมากๆ ในขณะเราท่องเที่ยว เมื่อได้ข้อมูลและเปรียบเทียบสภาพภูมิประเทศ และอากาศแล้ว การไปเที่ยวในช่วงหน้าร้อนก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะแทนที่จะเห็นหิมะเต็มไปหมดทุกที่ เราจะได้เห็นสภาพภูมิประเทศที่สวยงามแบบชัดเจน ภูเขาและหญ้าสีเขียวเข้มตลอดทั้งสองข้างทาง น้ำตกที่ไหลแรง สวยงามตลอดทั้งสาย และที่สำคัญอากาศที่เดินท่องเที่ยวได้อย่างสบายๆ โดยที่ไม่หนาวจนเกินไป
SILFRA DIVING
Silfra คือเส้นทางน้ำที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Þingvellir เพียงแค่ 30 นาที ไม่ไกลนักจาก Reyjavik เมือง หลวงของไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นเป็นสถานที่เดียวในโลกที่จะสามารถให้คุณดำน้ำในช่องแคบ ที่เป็นรอยแยก ระหว่างเปลือกโลกสองทวีปได้ ขณะที่เราลงไปในน้ำ หน้าผาฝั่งซ้ายจะเป็นเปลือกโลก North America Plate ส่วนฝั่งขวาเป็น Eurasian Plate ที่นี่มีให้เลือกดำทั้ง Snorkel และ Scuba Dive แต่หลังจากที่คุยกับทางไกด์แล้วก็ค้นพบว่า ที่นี่ไม่จำเป็นต้องดำแบบ Scuba (น้ำลึก) ก็ได้เพราะความใสของน้ำ มองเห็นชัดมากๆ ไม่ค่อย ต่างกันเท่าไหร่
ซึ่งกิจกรรมนี้เท่าที่เห็นมาคนไทยที่มาท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้มาลง เนื่องจากต้องใช้เวลา หากมาเป็นหมู่คณะ ก็มักจะจบที่การเกรงใจกันที่จะต้องรอ และก็ต้องเดินผ่านไปแบบอดเสียดายไม่ได้ บ้างก็อาจจะคิดว่าเป็นกิจกรรมที่อันตรายเกินไป ซึ่งแท้จริงๆ แล้ว การดำน้ำแบบ Snorkel ที่ Silfra ไม่ต่างจากการดำน้ำตื้นดูปะการังที่เมืองไทยเลย เพราะการใส่ Dry Suit จะทำให้ตัวคุณลอยตลอดเวลาโดยไม่ต้องใส่ชูชีพ แค่ใส่หน้ากากกับท่อ Snorkel แล้วก้มหน้าดูใต้น้ำ ก็จะได้สัมผัสกับผาหิน รอยแยก พร้อมน้ำใสๆ สีฟ้าที่ละลายมาจากภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งความสวยงามใต้น้ำที่นี่ ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในโลกการดำน้ำที่นี่ต้องซื้อ Tour ผ่านบริษัท Agency ที่ผ่านการรับรองจากการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์เท่านั้น โดยแต่ละรอบที่ดำน้ำจะมี Instructor คอยบรรยาย และประกบไปด้วยตลอดเวลา มีความปลอดภัยสูงมากๆ และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิง คนแก่ หรือ เด็กๆ ก็มีให้เห็นในตลอดการดำน้ำใน Silfra ข้อเสียของดำน้ำที่นี่ก็คือ ถึงแม้จะมี Dry suit ที่ป้องกันอุณหภูมิจากน้ำที่เย็นจัดถึงสององศาแล้ว ส่วนที่เราจะต้องโดนน้ำก็คือบริเวณผ่ามือ และใบหน้า ซึ่งสร้างความหนาวเย็นแบบสุดๆ ให้เหมือนกัน
GLACIER HIKING
Glacier หรือ ภูเขาน้ำแข็ง เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากหิมะที่ตกเป็นระยะเวลานานกว่า 1000 ปี ทับถมกันและอัดแน่นกันจนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง Glacier จะมีการเคลื่อนตัวตลอดเวลาเนื่องจากน้ำแข็งจะค่อยๆ ละลาย และไหลลงจากยอดเขาลงมาสู่แม่น้ำ หรือมีก้อนน้ำแข็งใหญ่ๆ ที่หลุดลงมาจากภูเขา และลอยออกสู่ทะเล หรือที่เราเรียกกันว่า Iceberg นั่นเอง
การปีนภูเขาน้ำแข็ง หรือ Glacier Hiking ในไอซ์แลนด์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่เช่นกันกับกิจกรรมหลายๆ อย่างที่นี่ ที่จำเป็นต้องซื้อ Tour ผ่านบริษัท Agency ที่ผ่านการรับรองจากการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์เท่านั้น ซึ่งไกด์ทัวร์ที่นี่ Friendly และทำให้ทัวร์สนุกมากๆ แต่ละคนถูกเทรนมาให้อธิบาย และแทรกมุกตลกตลอดการเดินทาง ถึงแม้เราจะมาในหน้าร้อน แต่ Glacier ที่นี่มีอยู่ตลอดทั้งปี และมีอยู่ 3-4 ที่หลักๆ ที่เราสามารถเลือกที่จะไปได้ในแต่ละเมือง Skaftafell เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ได้รับความนิยม และตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ Iceland ใกล้ๆ กับเมือง Vik และมีการเปิดให้บริการพาทัวร์ Glacier Hiking ที่ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม. ต่อรอบ หลังจากทำการจองทัวร์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ก็ได้เวลาของการเริ่มออกเดินไปทางไปยัง Glacier เป้าหมายหลักของเรา ซึ่งระดับความยากในการปีน Glacier ที่นี่ถือว่าอยู่ในระดับที่ง่าย ไม่มีความชันอะไรมากมาย เพียงแต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินบนน้ำแข็งเท่านั้นเอง เริ่มจากการเดินจากพื้นราบไต่เนินเขาที่เป็นดินไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณเขาที่เริ่มเป็นน้ำแข็ง
ก่อนจะเริ่มเดินขึ้นสู่บริเวณ Glacier เราจะได้รับแจก Ice Crampons หรือพื้นหนามที่เอาไว้รัดกับรองเท้า เพื่อการเกาะยึดที่ดีในการเดินบนน้ำแข็ง นอกจากความสวยงามของภูเขาน้ำแข็งและทัศนียภาพมุมสูงรอบๆ ภูเขาแล้ว สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากการมาไอซ์แลนด์ในครั้งนี้คือ ไอซ์แลนด์มีแหล่งนี้ที่บริสุทธิ์มากๆ จากน้ำแข็งที่ละลาย จาก Glacier นี่แหละ ถือเป็นสินค้าส่งออกของไอซ์แลนด์อย่างนึงที่สร้างชื่อให้ประเทศ และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ ที่นี่เมื่อเราอยู่บนภูเขาน้ำแข็งคือการก้มลงกินน้ำที่ไหลอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งรสชาติดีมากๆ ให้ความรู้สึกบริสุทธิ์ และสดชื่นมากๆ
ICE CAVE UNDER THE VOLCANO
ถ้ำน้ำแข็งหรือ Ice Cave เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่เราพลาดไม่ได้กับการมาในทริปนี้ การเกิดของถ้ำน้ำแข็งที่นี่ เกิดจากการหิมะที่ตกทับถมกันลงมาแล้วเกิดเป็นถ้ำต่างๆ ที่เกิดขึ้นเองตามความสวยงามของธรรมชาติ และจะละลายหายไปอย่างรวดเร็ว ตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วง นั่นทำให้การเที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่นี่ “ขึ้นอยู่กับดวง” โดยที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ขนาดของถ้ำและความสวยงามจะมากน้อยขนาดไหน โดยที่ในทุกๆ วัน ทีมงานสำรวจถ้ำของ Agency ท่องเที่ยวที่นี่ จะไปสำรวจและตามหาถ้ำใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวจนกว่าตัวถ้ำจะหายไป หรือจนกว่าจะหาถ้ำใหม่ที่สวยกว่าได้
แต่ละถ้ำเองก็จะมีความแตกต่างกันในช่วงหน้าร้อนและหน้าหนาว แน่นอนว่าหน้าหนาวมีทางเลือกในการเที่ยวถ้ำน้ำแข็งที่มากกว่า และสวยงามกว่า ซึ่งถ้ำน้ำแข็งที่เราเดินทางมาในวันนี้เป็นถ้ำใกล้ๆ กับเมือง Vik นำทางโดยไกด์ของ Agency ที่เราจอง Tour มากันก่อนหน้านี้แล้ว การเดินทางไปยังถ้ำน้ำแข็ง ต้องเดินทางโดยรถ 4WD ผ่านภูมิประเทศที่ค่อนข้างจะขรุขระ รถทั่วไปไม่สามารถเข้าไปได้ จนกระทั่งไปถึงบริเวณตีนเขา ที่เป็นดินสีดำปกคลุมทั้งหมด
หลังจากลงจากรถแล้ว เราต้องใส่ Crampon ที่รองเท้าทุกคนเพื่อที่จะสามารถเดินตะลุยในพื้นที่ดิน และ หินขรุขระได้ง่าย และช่วยให้เราเดินในถ้ำข้ำแข็งได้ง่ายขึ้น ไกด์อธิบายว่า ถ้ำน้ำแข็งที่เรามานี้อยู่ในบริเวณ Volcano หรือ ภูเขาไฟที่ยังไม่สงบดี พร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่อ แต่เค้าบอกว่าไม่ต้องห่วงถ้าภูเขาไฟปะทุ เรายังมีเวลา 2 ชม ในการหนีออกมา (สร้างความตื่นเต้นให้เราในการทัวร์ครั้งนี้เล็กน้อย) หลังจากปีนและมุดเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งได้แล้ว พบว่าถ้ำนี้มีขนาดค่อนข้างเล็กมากๆ ประกอบกับฝนที่ตกค่อนข้างหนักตลอดเวลา ทำให้การเดินทางค่อนข้างลำบาก ภายในถ้ำนอกจากเราจะเห็นแสงสีฟ้าที่ลอดผ่านผนังน้ำแข็งแล้ว ตลอดข้างทางยังมีน้ำที่ท่วมและไหลแรงมากๆ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาทำให้น้ำแข็งละลาย เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่สวยงาม และประทับใจในทริปนี้
JOKULSARLON
ว่ากันว่า ประเทศแห่งนี้ถูกตั้งชื่อว่า Iceland ก็สาเหตุมาจากก้อนน้ำแข็งใหญ่ๆ ใสๆ ที่เรียงรายอยู่ตามชายหาดสีดำ ความสวยงาม ความใสของก้อนน้ำแข็งก้อนมหึมา ที่ไม่น่าจะพบบ่อยนักบนชายหาด แต่กลับมีให้เห็นที่นี่ เราเดินมาถึงอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของไอซ์แลนด์ ที่มีชื่อว่า Jökulsárlón
ที่นี่เป็นเหมือนบึงน้ำขนาดใหญ่ ที่มีก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาลอยน้ำอยู่เต็มไปหมด ถึงแม้จะเป็นช่วงหน้าร้อนก็ตาม เราก็ยังสามารถมาเที่ยวชมน้ำแข็งที่นี่ได้อย่างสวยงาม ก้อนน้ำแข็งแหล่านี้เกิดจากการละลายของน้ำแข็งบนภูเขา Glacier หล่นลงมาในบึงน้ำ และ ลอยลอดสะพานออกไปสู่ทะเล และน้ำแข็งบางส่วนก็ถูกคลื่นในทะเลซัดกลับมาอยู่บนชายหาด เป็นที่มาของก้อนน้ำแข็งที่เรียงให้เราเห็นอยู่บนชายหาด Diamond Beach ใกล้ๆ กับบึงนั่นเอง
กิจกรรมการท่องเที่ยวที่นี่คือการนั่งรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ลงไปทัวร์ในบึงเพื่อชมน้ำแข็ง Iceberg อย่างใกล้ชิด น้ำแข็งเหล่านี้มีอายุมากกว่า 1000 ปี และบางก้อนก็ละลายแตกให้เราเห็นต่อหน้าต่อตาเลยทีเดียว ความสวยงามของทัศนียภาพที่นี่ ทำให้ Jökulsárlón กลายเป็น Top Destination ที่คนมาไอซ์แลนด์เกือบทุกคนไม่น่าจะพลาด
บทสรุป
ไอซ์แลนด์สร้างความประหลาดใจให้กับเราในหลายอย่างๆ ประเทศนี้มีประชากร 3 แสนคน มีสนามฟุตบอลเพียงไม่กี่แห่ง แต่สามารถไปฟุตบอลโลกได้ ประเทศนี้ที่มีขนาดเล็กเพียง 103,000 ตารางกิโลเมตร แต่กลับมีน้ำตกมากกว่า 10,000 แห่ง นั่นเท่ากับว่าทุกๆ 10 ตารางกิโลเมตร จะมีน้ำตก 1 อัน ซึ่งตลอดระยะเวลาการเดินทาง เราก็จะได้เห็นน้ำตกทั้งเล็กและใหญ่ ตลาดสองข้างทางจริงๆ เรียกได้ว่ามีมากจน บางจุดก็สวยไม่ได้รับความสนใจซะด้วยซ้ำ สถาพภูมิประเทศตลอดสองข้างทาง “ไม่มีต้นไม้ใหญ่” มีแต่ภูเขาโล้นๆ ที่เต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว หรือต้นไม้ที่สูงไม่เกิน 1 เมตรเท่านั้น เนื่องจากสภาพของพื้นดินที่เกิดจากการะเบิดของภูเขาไฟ ทั้งเกาะจึงเต็มไปด้วยลาวา และ พื้นดินที่ไม่ลึกพอ ที่จะทำให้ต้นไม้ใหญ่เจริญเติบโต ไม่แปลกใจที่หลายๆ คนจะเรียกที่นี่ว่า ดาวอังคาร เพราะมันเหมือนอยู่อีกโลกนึงเลย โลกที่สภาพภูมิประเทศแตกต่างจากประเทศอื่นๆ นโลก
    TAG
  • travel
  • lifestyle
  • trip
  • style

Mars on Earth. The Journey to Iceland.

TRAVEL/ESCAPE
7 years ago
CONTRIBUTORS
Anupong Kuttikul
RECOMMEND
  • CULTURE&LIFESTYLE/ESCAPE

    TAKE A DEEP BREATH

    ใครที่เคยมาพัทลุงคงรู้ดีว่าเพราะอะไร ถ้าขับรถล่องใต้ลงมาเรื่อยๆ คุณจะผ่านป่าเขาเขียวชอุ่ม สวนยางร่มครึ้ม และสวนปาล์ม ที่ช่วยทำให้บรรยากาศการขับรถรื่นรมย์มากเข้าไปอีก ถ้าบินมาลงตรัง คุณจะเห็นผืนป่าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา ส่วนหนึ่งเป็นของเทือกเขาบรรทัด ทัศนียภาพที่หาได้ยากเต็มทนแล้วทางภาคเหนือ ต้องขอบคุณสภาพอากาศร้อนชื้นฝนชุกที่ทำให้ป่าเขียวขนาดนี้

    Tunyaporn Hongtong6 years ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/ESCAPE

    เราหนีไปดวงอาทิตย์: ถึง Rainbow Mt. ใจเราต้องนิ่ง

    การเดินทางไป Peru และ Bolivia สู่ดินแดนอินคาบนที่ราบสูงแห่งอเมริกาใต้ ไปมา 2 ประเทศ แต่เหมือนไปมาแล้วทั่วโลก (Ollantaytambo – Pisac Castel – Pisac Market – Salt Mine – Moray – Ollantaytambo – Rainbow Mt.)

    EVERYTHING TEAMApril 2019
  • CULTURE&LIFESTYLE/ESCAPE

    เราหนีไปดวงอาทิตย์: เดินทางทรหดแล้วไปหยุดที่ MACHU PICCHU

    การเดินทางไป Peru และ Bolivia สู่ดินแดนอินคาบนที่ราบสูงแห่งอเมริกาใต้ ไปมา 2 ประเทศแต่เหมือนไปมาแล้วทั่วโลก ( BKK – Lima – Cuzco – Ollantaytambo - Aguas Calientes – Machu Picchu )

    EVERYTHING TEAMApril 2019
  • CULTURE&LIFESTYLE/ESCAPE

    เสียงมอเตอร์ไซค์ในหุบเขากับไร่กาแฟของชาวปกาเกอะญอ

    ช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 2561 ได้เจอกับเอิ๊ก (มนัสชัย คงด่าน) เจ้าของโรงคั่วกาแฟ Coffeebark Homeroaster เลยถามถึงทริปหน้าหนาวประจำปีที่เขามักขับรถจากนนทบุรีไปเยี่ยมไร่กาแฟออร์แกนิกที่ภาคเหนือ เพราะหลิงอยากขี่มอเตอร์ไซค์ไปร่วมทริปกับเขาด้วย เอิ๊กเห็นดีเห็นงามและคันมืออยากขี่มอเตอร์ไซค์เช่นกัน งานนี้...รู้เรื่องทันทีค่ะ!!

    Ling BhiradaMarch 2019
  • CULTURE&LIFESTYLE/ESCAPE

    NEW DIVING EXPERIENCE in the middle of the city ประสบการณ์ใหม่กับการดำน้ำใจกลางเมืองในไต้หวัน

    ใครจะไปคิดว่าจะมีคนสร้างสระว่ายน้ำความลึก เท่ากับตึกสูง 7 ชั้น ภายในอาคารย่านใจกลางเมือง เพื่อที่เราจะสามารถดำน้ำลึก แบบสคูบาไดฟ์วิ่ง ได้ !!!

    EVERYTHING TEAMFebruary 2019
  • CULTURE&LIFESTYLE/ESCAPE

    From Dust Till Dawn

    เกอเรเม่ / ปามุคคาเล / วิหารโซเฟีย / ยูชิสา กับความงามที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น

    Meamtarn ChuenangkoolJanuary 2019
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )