จิตรกรผู้เผยความลึกลับของความเป็นมนุษย์ Myrtille Tibayrenc | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

จิตรกรผู้เผยความลึกลับของความเป็นมนุษย์ Myrtille Tibayrenc
Writer: Panu Boonpipattanapong



   นับแต่อดีตกาลนานมา “ภาพวาด” หรือ “งานจิตรกรรม” มักทำหน้าที่เป็นภาพแทนของความเป็นจริง และภาพความเป็นจริงที่ถูกนำเสนอผ่านงานจิตรกรรมมากที่สุดก็คือภาพของมนุษย์ นอกจากงานจิตรกรรมจะทำหน้าที่บันทึกและแสดงถึงรูปร่างหน้าตาของมนุษย์ในห้วงขณะหนึ่ง ไม่ต่างอะไรกับกล้องถ่ายภาพแล้ว สิ่งที่งานจิตรกรรมสามารถทำได้มากกว่านั้นก็คือการแสดงถึงสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในของมนุษย์ได้เช่นเดียวกัน 

   ดังประโยคที่ว่า “ความลึกลับของความเป็นมนุษย์ถูกเปิดเผยอยู่ในงานจิตรกรรม” อันเป็นคำกล่าวของ มิร์ทิลล์ ทิแบย์เรงซ์ (Myrtille Tibayrenc) จิตรกรชาวฝรั่งเศส ผู้เติบโตและใช้ชีวิตในหลายประเทศ เธอเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ก่อนที่จะย้ายมาใช้ชีวิตและทำงานศิลปะในประเทศไทย มิร์ทิลล์วาดภาพด้วยเทคนิคที่ได้รับอิทธิพลจากงานจิตรกรรมคลาสสิค ผสานแรงบันดาลใจจากความลึกลับของความทรงจำที่มีอยู่ในภาพต้นแบบที่เธอเก็บสะสมเอาไว้ บ้างเป็นภาพที่เธอถ่ายเอาไว้เอง บ้างเป็นภาพในอินเตอร์เน็ต บ้างเป็นภาพเก่าแก่โบราณจากตำนานหรือเทพนิยายที่เธอคิดว่าน่าสนใจและกระทบใจเธออย่างมาก ภาพเหล่านี้สะท้อนสังคมและความเป็นอยู่ของมนุษย์ทั้งในอดีตและปัจจุบันโดยอัตโนมัติ 

   มิร์ทิลล์ใช้ตัวเองเป็นเหมือนฟิลเตอร์ที่กลั่นกรองความเข้าใจส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของมนุษย์อย่างไร้พรมแดน ภาพที่เธอเลือกมาแปรเปลี่ยนให้เป็นงานจิตรกรรมเหล่านี้ แสดงออกถึงความร่วมสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยความคลาสสิคไร้กาลเวลา แบบเดียวกับที่เราสัมผัสได้จากภาพวาดยุคโบราณ อันเป็นหลักฐานว่า ผู้คนที่มีชีวิตในอดีตกาลนานมาก็มีความหมกมุ่นลุ่มหลงแบบเดียวกับคนในยุคปัจจุบัน พวกเขามีความรัก, ความเกลียด, และกลัวความตายแบบเดียวกับที่พวกเราเป็น

มิร์ทิลล์เคยจัดนิทรรศการแสดงเดี่ยวและกลุ่มทั้งในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ มิร์ทิลล์ยังเป็นภัณฑารักษ์อิสระและผู้ก่อตั้งพื้นที่ทางศิลปะอย่าง Toot Yung Art Center ปัจจุบันเธอเป็นหนึ่งในศิลปินที่เข้าร่วมแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022 กับผลงานจิตรกรรมจัดวางชุด Iconostasis (2022) ที่ประกอบด้วยงานจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบ 45 ชิ้น ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแผงจิตรกรรมแท่นบูชาบนผนังของโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ ในยุโรป ที่เรียกว่า ไอโคโนสตาซิส (Iconostasis) ผลงานชุดนี้ถูกจัดแสดงเต็มผนังห้องแสดงงานชั้น 7 ของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ราวกับจะเปลี่ยนให้ห้องแสดงงานศิลปะแห่งนี้กลายเป็นศาสนสถาน หรือพื้นที่ทางจิตวิญญาณก็ไม่ปาน

   มิร์ทิลล์กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของผลงานชุดนี้ให้เราฟังว่า
   “ก่อนหน้านี้ฉันเคยอยากแสดงงานที่ BACC มานานแล้ว เมื่อ ดร. อภินันท์ โปษยานนท์ เชิญให้ฉันไปแสดงงานที่นั่น ในเทศกาลศิลปะ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022 ฉันรู้สึกดีใจมาก เหมือนฝันที่เป็นจริง ฉันเลยคิดถึงการทำงานที่ใหญ่กว่าที่ฉันเคยทำมา และพอดีในช่วงนั้นฉันได้พบกับผู้หญิงจากสตูดิโอแน่นหนาจากจังหวัดเชียงใหม่ที่ทำงานกับผู้หญิงจากชนเผ่าท้องถิ่นที่ทำผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ ซึ่งฉันสนใจมาก ฉันเลยขอให้เขาทำผ้าใบวาดภาพจากผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติให้ฉัน นี่เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการนี้ ฉันมีผ้าใบทอมือผืนใหญ่ ที่มีเฉดสีน้ำเงินครามและสีน้ำตาลมะเกลือที่สวยงาม”

   “หลังจากได้ผ้าใบ ฉันก็เริ่มเลือกนายและนางแบบมากมายหลายคนสำหรับวาดภาพ เพราะฉันต้องการให้แรงบันดาลใจของฉันเป็นอิสระ ในช่วงเวลานั้นฉันก็กำลังศึกษาเรื่องภาพวาดยุคกลางและยุคเรอเนสซองส์ เพราะมันเป็นความลุ่มหลงของฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉันสนใจภาพวาดทางศาสนา และความที่มันบรรยายถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมอย่างมาก อย่างเช่น ความศรัทธา, ความสงสัยใคร่รู้ และเรื่องราวทางจิตวิญญาณ ฉันรักที่ภาพวาดเหล่านี้สามารถแสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิดอันเป็นนามธรรมออกมาได้อย่างเรียบง่าย ฉันจึงต้องการใช้ภาษาของภาพวาดเหล่านี้พูดกับผู้คนในยุคปัจจุบันที่เข้ามาชมงานของฉัน เพื่อเชื่อมโยงพวกเขาเข้ากับความศรัทธาและเรื่องราวทางจิตวิญญาณอีกครั้ง” 

   “นายและนางแบบทุกคนเป็นเพื่อน ๆ ครอบครัวของฉัน ถึงฉันจะวาดภาพจากภาพถ่าย แต่ฉันก็ต้องการวาดจากภาพต้นแบบที่ฉันเป็นคนถ่ายเอง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางลิขสิทธิ์ แล้วมันก็ดีกว่า ตรงที่ฉันสามารถเลือกรูปร่างที่ฉันชอบ และท่าโพสที่ฉันต้องการได้ ดีกว่าภาพจากนิตยสาร ซึ่งฉันไม่ค่อยชอบท่าโพสเท่าไหร่ ฉันเคยใช้ภาพจากอินเตอร์เน็ตและนิตยสารบางครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันใช้แต่เพื่อน ๆ และครอบครัวของฉันเป็นแบบ” 

   “เหตุผลที่ฉันเลือกใช้ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ เพราะฉันต้องการเน้นย้ำประเด็นเกี่ยวกับระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม เพราะฉันคิดว่าสำคัญมาก และฉันคิดว่ามันยังเชื่อมโยงกับประเด็นเกี่ยวกับความศรัทธาและเรื่องราวทางจิตวิญญาณ เพราะฉันคิดว่าเรื่องราวทางจิตวิญญาณจะพบได้ภายในตัวของเรา ก็ต่อเมื่อในยามที่เราเชื่อมโยงกับธรรมชาติเท่านั้น ถ้าเราตัดขาดจากธรรมชาติอย่างสิ้นเชิง เราก็จะไม่สามารถค้นหาตัวตนหรือจิตวิญญาณของเราได้ นี่เป็นเหตุผลที่ความเป็นเมืองใหญ่ หรือวิถีการใช้ชีวิตสมัยใหม่ ทำให้เราตัดขาดจากตัวเองและจิตวิญญาณของเรา”

   “เวลาฉันวาดภาพนายและนางแบบ ฉันมักจะพูดคุยเล็กน้อยเพื่อบอกใบ้ให้พวกเขาโพสท่าที่ฉันอยากได้ หรือแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์อย่างที่ฉันต้องการ แต่โดยปกติฉันมักจะใช้นายและนางแบบที่ฉันรู้ว่าจะเหมาะกับภาพวาดของฉัน ฉันก็เลยไม่ต้องพูดคุยกับเขามากนัก”

   “โดยปกติฉันมักใช้นายและนางแบบหลายคน ที่โพสท่าให้ฉันถ่ายรูปอย่างแตกต่างหลากหลาย และฉันก็จะมีหลายร้อยภาพในคอมพิวเตอร์ ฉันก็จะใช้เวลาหลายวันเลือกว่าจะใช้ส่วนไหนของร่างกายพวกเขา อาจจะเป็นแค่มือ หรือแค่ใบหน้า สำหรับฉัน ฉันไม่ได้มองร่างกายเหล่านั้นเป็นมนุษย์อีกต่อไป หากแต่กลายเป็นสัญลักษณ์หรือบางสิ่งบางอย่างที่ฉันอยากจะวาดออกมา ดังนั้นจึงไม่สำคัญเลยที่ภาพที่ฉันวาดจะเหมือนหรือไม่เหมือนนายและนางแบบเหล่านั้นจริง ๆ”

   ในวงการศิลปะร่วมสมัย มิร์ทิลล์เป็นที่รู้จักในฐานะ “จิตรกรผู้วาดภาพมนุษย์” ผู้สำรวจหลากแง่มุมของความเป็นมนุษย์ผ่านงานจิตรกรรมได้อย่างลึกซึ้งถึงแก่นมากที่สุดคนหนึ่ง
   “เหตุที่ฉันลุ่มหลงหมกมุ่นในตัวมนุษย์ เพราะฉันเองก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน เพราะฉันคิดว่าเป็นสิ่งน่าสนใจที่สุดที่จะทำความเข้าใจวิถีทางของมนุษย์เรา ว่าทำไมเราถึงอยู่ที่นี่? อะไรที่เชื่อมโยงเราเข้าไว้ด้วยกัน และเราจะอยู่ด้วยกันอย่างสันติกว่าที่เป็นอยู่นี้ได้อย่างไร”

 “จริง ๆ ในช่วงเวลาที่ฉันเรียน งานจิตรกรรมไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ ตอนนั้นงานศิลปะคอนเซ็ปชวลอาร์ต ศิลปะจัดวาง และงานภาพถ่ายค่อนข้างเป็นที่นิยม ดังนั้นสมัยที่ฉันเรียนศิลปะฉันเลยไม่ค่อยได้ฝึกทำงานจิตรกรรมเท่าไหร่ ฉันเองก็ได้แต่ทำงานแบบคอนเซ็ปชวล เป็นภาพหุ่นนิ่ง และงานวิดีโอจัดวาง แต่ฉันเองก็หลงใหลงานจิตรกรรมเอามาก ๆ ดังนั้นการทำงานของฉันจึงเป็นเทคนิคส่วนตัวที่ฉันพัฒนาขึ้นมาด้วยตัวเอง จากการอ่านหนังสือศิลปะเกี่ยวกับจิตรกรชั้นครูในอดีต ฉันสนใจสาระสำคัญของงานจิตรกรรมในยุคเรอเนสซองส์และยุคกลาง ฉันรักเทคนิคที่ศิลปินเหล่านั้นเคยใช้มาก ๆ ฉันจึงศึกษาวิธีการเตรียมรองพื้นหรือการเตรียมแผ่นไม้สำหรับการวาดภาพแบบดั้งเดิม ฉันศึกษาสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองอย่างหนัก ทั้งจากการอ่านหนังสือและการไปดูงานที่พิพิธภัณฑ์ว่าศิลปินชั้นครูทำงานได้อย่างไร อะไรคือความลับเบื้องหลังการทำงานของพวกเขา”

  “เมื่อคุณจบจากสถาบันศิลปะ คุณไม่เคยได้รับการฝึกฝนให้เป็นศิลปินอาชีพ ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่คุณจะเดินเข้าไปนำเสนองานในหอศิลป์ เพราะคุณเป็นโนบอดี้ ประตูแห่งโอกาสไม่เคยเปิดให้คุณ เมื่อฉันเรียนจบปริญญา ฉันย้ายมาอยู่ประเทศไทย และฉันต้องการงานทำ เพราะฉันไม่มีวีซ่า และฉันอยากอยู่ที่นี่ต่อ พอดีฉันหางานทำได้ที่แผนกวัฒนธรรมของสมาคมฝรั่งเศส ฉันทำงานที่นั่นสามปี ฉันไม่มีเวลาทำงานศิลปะของตัวเองเลย และฉันเองก็รู้สึกประหม่าจนไม่เคยเอางานของฉันให้ใครดูเลย แต่ช่วงนั้นฉันก็ได้เจอศิลปินมากมาย เพราะฉันต้องทำงานกับศิลปินหลายคนที่ทำงานร่วมกับสมาคมฝรั่งเศส หรือสถานทูตฝรั่งเศส ฉันได้พบศิลปินไทยมากมาย และได้ทำงานเป็นภัณฑารักษ์ ท้ายที่สุดฉันก็ได้เปิดหอศิลป์ของตัวเอง (หอศิลป์ตูดยุง) และตลอดช่วงเวลานั้นฉันก็ไม่เคยเอางานของฉันให้ใครดูเลย ก่อนหน้านี้ฉันได้แต่แอบวาดภาพอย่างลับ ๆ เพราะฉันต้องการให้ภาพวาดของฉันเป็นอิสระ และมีความเป็นส่วนตัว โดยไม่ต้องแบกรับภาระจากคำวิจารณ์ใด ๆ และฉันไม่ต้องการตอบคำถามอะไรใคร ๆ การวาดภาพคือการปลดปล่อยตัวเองของฉัน”

   “จนวันหนึ่งในปี 2016 ฉันเริ่มวาดภาพสีน้ำมันชิ้นเล็ก ๆ บนผ้าใบ และฉันชอบมันมาก ในที่สุดฉันก็มีความมั่นใจในตัวเองพอที่จะเอาภาพไปเสนอให้คุณเชน สุวิกะปกรณ์กุล เจ้าของแกลเลอรี่เซรินเดีย (Serindia Gallery) เพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน และเป็นคนที่ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจที่จะเอางานไปเสนอให้ดู และถามว่าเขาคิดอย่างไรกับงานของฉัน คิดว่าฉันพอจะแสดงงานที่แกลเลอรีของเขาได้ไหม เขาเปิดดูงานฉันไปสามหน้า เขาก็บอกว่า แน่นอนมีมี่ เธอแสดงงานที่นี่ได้ มันสวยมาก (หัวเราะ)”

   “หลังจากฉันหยุดทำแกลเลอรี ฉันมีเวลาวาดภาพมากขึ้น ฉันมีสตูดิโอที่สวยมากที่เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลตัวเมือง ไม่ค่อยมีใครแวะเวียนมาเท่าไรนัก ทำให้ฉันมีช่วงเวลาที่สงบสุข พอฉันได้ทำงานศิลปะและเป็นศิลปิน มันเหมือนฉันได้ปลดปล่อยตัวเอง เพราะฉันอยากเป็นศิลปินตั้งแต่ฉันเป็นเด็ก ๆ มันเป็นความฝันของฉันอย่างแท้จริง”

   นอกจากมิร์ทิลล์จะเป็นภัณฑารักษ์และเจ้าของแกลเลอรีที่จัดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะของศิลปินอย่าง ตะวัน วัตุยา, ธาดา เฮงทรัพย์กุล และ ปิยะรัศมิ์ ปิยะพงศ์วิวัฒน์ เป็นครั้งแรก ราวกับเป็นผู้เปิดประตูสู่วงการศิลปะให้แก่ศิลปินเหล่านี้ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินร่วมสมัยผู้เติบโตก้าวไกลในระดับสากลไปแล้ว ผลงานของเธอเองก็ไม่ต่างอะไรกับประตูที่เปิดสู่ประสบการณ์อันลึกลับของความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน
   “ฉันรักที่จะมองในแง่นั้นนะ เพราะฉันคิดว่าเป็นหน้าที่สูงสุดในฐานะมนุษย์ที่เราจะมีน้ำใจให้กันและกันและมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้คนเท่าที่จะทำได้”

   มิร์ทิลล์ยังกล่าวถึงความรู้สึกในการเป็นหนึ่งในศิลปินที่ร่วมแสดงงานในเทศกาลศิลปะครั้งใหญ่เคียงบ่าเคียงไหล่ศิลปินระดับโลกเป็นครั้งแรกว่า
   “การแสดงงานในเทศกาลศิลปะ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022 เป็นอะไรที่ท้าทายมาก ๆ และฉันมีความสุขมาก ฉันรักที่จะได้ทำงานจิตรกรรมจัดวางในพื้นที่กว้างใหญ่เช่นนี้ นี่เป็นสิ่งที่ฉันฝันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แต่ฉันก็ยังรักที่จะทำงานจิตรกรรมชิ้นเล็ก ๆ ที่เป็นเหมือนวัตถุลี้ลับ ฉันรักแนวคิดเกี่ยวกับรูปเคารพ หรือเครื่องรางของขลัง บางสิ่งบางอย่างที่เล็กมาก ๆ ที่ทุกคนสามารถเก็บเอาไว้ใกล้ ๆ ตัว วางไว้บนหัวนอน ฉันรักพลังงานรอบ ๆ วัตถุเหล่านี้ ฉันรักที่จะสำรวจงานจิตรกรรมในฐานะวัตถุเล็ก ๆ ที่ลี้ลับเช่นนี้”

   จากคำบอกเล่าของคนใกล้ชิด มิร์ทิลล์เป็นศิลปินที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ ซึ่งต่างกับความประณีตละเมียดละไมที่ปรากฏให้เห็นในผลงานแต่ละชิ้นของเธออย่างสิ้นเชิง
   “เวลาทำงาน ฉันทำงานเร็วมาก ๆ แต่ฉันก็ต้องใช้เวลาเตรียมการนานมากด้วย ทั้งเตรียมวัตถุดิบ เตรียมนายและนางแบบ เตรียมภาพถ่าย ฉันเป็นคนที่ต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนทำงาน ถ้าทุกอย่างไม่เรียบร้อยสมบูรณ์แบบ ฉันจะทำงานไม่ได้เลย สตูดิโอของฉันต้องสะอาดสุด ๆ อารมณ์ฉันต้องดี ปลอดโปร่ง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเตรียมพร้อม แล้วฉันจะเริ่มต้นทำงานได้รวดเร็วสุด ๆ อย่างงานชิ้นใหญ่ที่แสดงในบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022 ฉันวาดเสร็จภายในเวลาแค่เดือนเดียว การวาดภาพเปรียบเหมือนพิธีกรรมและการทำสมาธิของฉัน ฉันตื่นทุกๆ วันตอนเช้าตรู่ และเริ่มต้นทำงานเป็นเวลาห้าถึงหกชั่วโมงต่อวัน หลังจากนั้นฉันก็กินอาหารและทำสวน เวลาวาดภาพฉันใช้ชีวิตไม่ต่างอะไรจากนักบวชเลย”

   นอกจากการเข้าร่วมแสดงผลงานในเทศกาลศิลปะ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022 แล้ว เมื่อปลายปีที่ผ่านมา มิร์ทิลล์ยังเข้าร่วมแสดงผลงาน และเป็นภัณฑารักษ์รับเชิญในเทศกาลศิลปะ Mango Art Festival ในโกดัง De Siam Antiques ที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 2 - 5 ธันวาคม 2022 ที่ผ่านมาอีกด้วย

   “งานที่ฉันทำที่ Mango Art Festival มันท้าทายมาก ๆ และฉันก็ชอบความท้าทาย ตอนแรกที่คุณท็อป - ไผทวัฒน์ จ่างตระกูล กับ พี่บี - สุชาย พรศิริกุล มาชวนฉันแสดงงาน ฉันบอกว่าฉันไม่อยากทำ เพราะงานเยอะและยุ่งมาก ๆ แต่พอพวกเขาให้ฉันดูพื้นที่แสดงงานที่โกดัง De Siam Antiques ฉันก็ไม่อาจปฏิเสธพวกเขาได้ พื้นที่ช่างน่าอัศจรรย์มาก ๆ ฉันเลยตกลงใจแสดงงาน ฉันเองก็รักที่จะแสดงงานในพื้นที่แปลก ๆ เสมอ ก่อนหน้านี้ฉันเคยแสดงงานในส้วมสาธารณะ ฉันเคยแสดงงานในเซ็กส์คลับ การแสดงงานในพื้นที่แบบ White Cube บางทีก็ดีอยู่นะ แต่ฉันคิดว่ามันยังท้าทายและสนุกไม่พอสำหรับฉัน นอกจากจะแสดงงานของตัวเองแล้ว ฉันยังทำหน้าที่เป็นภัณฑารักษ์ในพื้นที่ที่ฉันดูแลที่นั่น โดยเชิญศิลปินเกือบ 40 คน มาร่วมแสดงงานด้วย”

   ถึงแม้ผลงานของมิร์ทิลล์จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกทางจิตวิญญาณราวกับเป็นภาพวาดทางศาสนาในโบสถ์คาทอลิก แต่ในขณะเดียวกันมันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความอีโรติกเย้ายวนทางเพศอย่างล้นเหลือหรือบางครั้งจะแจ้งเลยด้วยซ้ำ

   “ฉันชอบศิลปะอีโรติก และงานของฉันเองก็เต็มไปด้วยความอีโรติกมาก ๆ ฉันคิดว่ามันเป็นหัวข้อที่ดีที่จะพูดถึง เพราะถ้าเราพูดถึงเรื่องนี้น้อยเกินไป และเมื่อเรื่องเซ็กส์ถูกกดทับปิดกั้นมาก ๆ มันจะทำให้จิตใจของมนุษย์เสียหายอย่างมาก ฉันต้องการเปิดหัวข้อเหล่านี้ให้ถูกพูดถึงมากขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้คือความเป็นมนุษย์มาก ๆ ฉันต้องการเขย่ากฎเกณฑ์และข้อห้ามของสังคม ยิ่งในพื้นที่สาธารณะแบบนี้ ยิ่งน่าสนใจที่เราจะทำให้ผู้คนได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่พวกเขาไม่ค่อยได้พูดถึงในชีวิตประจำวันเท่าไร”

   “ท้ายที่สุด ฉันหวังว่าผลงานของฉันจะกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชม ฉันหวังว่าพวกเขาจะใช้หัวใจสัมผัสกับผลงาน ฉันจะรู้สึกดีมาก ถ้าผู้คนทุกชนชั้นจะรู้สึกจับใจกับงานของฉัน ไม่ใช่แค่คนที่ฉลาด มีการศึกษาสูง หรือคนที่มีความรู้เกี่ยวกับศิลปะเท่านั้น ฉันหวังว่าแม่บ้านที่มาทำความสะอาดหอศิลป์ หรือเด็ก ๆ ที่เข้ามาดูงานจะรู้สึกจับใจกับงานของฉัน เป้าหมายของฉันเวลาทำงานก็คือ ฉันหวังว่าทุกคนจะรู้สึกว่างานของฉันมีเสน่ห์ หรือแม้แต่น่าตื่นตระหนก ฉันอยากให้พวกเขาสัมผัสกับผลงานของฉันด้วยอารมณ์ความรู้สึกจริง ๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น”
   ปัจจุบัน ผลงาน Iconostasis (2022) ของ มิร์ทิลล์ ทิแบย์เรงซ์ กำลังจัดแสดงใน เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022 ในห้องแสดงงานชั้น 7 ของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2023

    TAG
  • Myrtille Tibayrenc
  • art
  • exhibition
  • interview
  • people

จิตรกรผู้เผยความลึกลับของความเป็นมนุษย์ Myrtille Tibayrenc

PEOPLE/INTERVIEW
January 2023
CONTRIBUTORS
Panu Boonpipattanapong
RECOMMEND
  • PEOPLE/INTERVIEW

    มองสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยในฐานะวัฒนธรรมที่มีชีวิตผ่าน ART TOYS เจาะลึกแนวคิดความสนุกจาก DUCTSTORE the design guru Co.,Ltd.

    ทันทีที่ Key Visual สถาปนิก’ 68 เผยแพร่ออกมา บทสนทนาปลุกสัญชาตญาณนักสืบในตัวทุกคนพร้อมใจกันทำงานแบบ Autopilot และระหว่างที่ตามหาเฉลยกันจริงจัง ทุกคนเริ่มหันมาตั้งคำถามต่อว่า Art Toys เกี่ยวข้องกับธีมงานอย่างไร รู้ตัวอีกทีวงสนทนาก็กระเพื่อมขยายกว้างขึ้น ส่งสัญญาณชัดว่า Key Visual ปีนี้เปิดฉากมาแบบสนุกเอาเรื่อง โดนเส้นกันสุดๆ

    EVERYTHING TEAMJanuary 2025
  • PEOPLE/INTERVIEW

    อุ้ม-วัลลภ รุ่งกำจัด นักแสดงภาพยนตร์อิสระ สู่เส้นทางของ Cannes Film

    วัลลภ รุ่งกำจัด หรือ อุ้ม นักแสดงที่เชื่อมโยงความเป็นมนุษย์กับโลกของภาพยนตร์ ผ่านการสร้างชีวิตให้ตัวละครต่าง ๆ ได้ออกมาโลดแล่นแสดงความรู้สึกทางอารมณ์ให้กับผู้ชม แม้เขาจะไม่ได้เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในวงกว้างเทียบเท่ากับนักแสดงกระแสหลัก แต่ในเวทีระดับโลก “อุ้ม” ได้พิสูจน์ตัวเองกับการเป็นนักแสดงที่มีความสามารถที่ยอมทุ่มเทหลาย ๆ สิ่ง ให้กับงานศิลปะด้านการแสดงในภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้อย่างสุดตัว

    EVERYTHING TEAM6 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    พูดคุยกับ “MAMIO” บนหน้ากระจกสะท้อนตัวตนที่ถูกซ่อนมาทั้งชีวิต “อาจใช้เวลานานถึง 30 ปี แต่ก็ดีกว่าไม่มีโอกาสได้รู้เลย”

    คงปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เราได้รู้จักกับเธอคนนี้ในชื่อของ พัด หรือที่ชอบเรียกติดปากกันว่า พัด ZWEED N’ ROLL เจ้าของเสียงทุ้มมีเสน่ห์ นักร้องและนักแต่งเพลงที่ฝากผลงานเพลงเศร้าเอาไว้ในวงการมากมาย อาทิ ช่วงเวลา, Diary, อาจเป็นฉัน และอีกมากมาย ไม่มีอะไรแน่นอนแม้กระทั่งตัวเราเอง ช่วงเวลาจึงได้พัดพาให้เรามาทำความรู้จักกับ “MAMIO” ในฐานะศิลปินใหม่จากค่าย Warner Music Thailand ซึ่งเป็นอีกตัวตนหนึ่งของคุณพัดที่ไม่เคยถูกปลดปล่อยออกมาเลยตลอดชีวิตการทำงานในวงการสิบกว่าปีที่ผ่านมา หรือถ้าจะให้ซื่อสัตย์กับตัวเองจริง ๆ ก็อาจจะเป็นทั้งชีวิตที่เกิดมาเลยเสียด้วยซ้ำ

    EVERYTHING TEAM6 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    THE ROARING SOUND OF BANGKOK EVILCORE

    Whispers เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่สะท้อนการเติบโตของวงการ Hardcore ในประเทศไทยอย่างแท้จริง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงกลุ่มเพื่อนที่หลงใหลในดนตรี เพราะนอกจากจะเป็นผู้เล่น พวกเขายังเป็นกำลังสำคัญที่คอยผลักดันซีนฮาร์ดคอร์ในบ้านเรามาโดยตลอด ประสบการณ์ที่สั่งสมทำให้เกิดเป็นสไตล์เฉพาะของ Whispers สร้างความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้พวกเขาก้าวไปสู่เวทีระดับสากล ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ใต้ดินของไทย แต่เสียงคำรามของพวกเขาก็ดังไปไกลถึงทวีปยุโรป มาพบกับเส้นทางดนตรีที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและการเปลี่ยนแปลง กับวงฮาร์ดคอร์ระดับบท็อปของ Southeast Asia

    EVERYTHING TEAM7 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    Nat Inksmith (ชณัฏฐ์ หวังบุญเกิด) มากกว่าความสวยงามคือการนำเสนอผลงานที่เป็นตัวตนผ่านศิลปะลายสัก

    ด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์และรูปแบบงานสักของเขา ที่เรารู้สึกแปลกประหลาดกว่างานสักอื่น ๆ (แปลกประหลาดในที่นี้คือความหมายในแง่ดีนะ) ก็เลยตัดสินใจส่งข้อความทักไปหา “พี่นัทครับ ผมขอสัมภาษณ์พี่ได้ไหม” “ได้ครับ” สั้น ๆ แต่จบ เรื่องราวทั้งหมดก็เลยเริ่มต้นขึ้นที่ร้าน CAVETOWN.TATTOO แถว ๆ ปิ่นเกล้า ซึ่งพี่นัทเป็นเจ้าของร้านแห่งนี้ บทสนทนาของเราเริ่มกันในช่วงเวลาบ่าย ๆ ของวันพฤหัส พอไปถึงร้านพี่นัทกำลังติดงานสักให้กับลูกค้าอยู่หนึ่งคน พอได้เห็นลายที่เขาสักต้องบอกว่าเท่มาก ๆ มันมีความเป็น Psychedelic บวกกับ Ornamental ผสมผสานกับเทคนิค Dotwork จนกลายเป็นงานศิลปะบนผิวหนังหลังฝ่ามือ เราถึงกับต้องถามคำถามโง่ ๆ กับลูกค้าที่ถูกสักว่า “เจ็บไหม” แน่นอนคำตอบที่ได้คือ “โคตรเจ็บ” เพราะจุดที่สักคือหลังฝ่ามือ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนร่ำลือกันว่าโคตรเจ็บ ระหว่างที่รอพี่นัทไปพลาง ๆ น้องแมคช่างภาพที่มีรอยสัก Full Sleeve เต็มแขนขวา ก็เริ่มกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปเก็บภาพระหว่างที่เขาสักไปด้วย พอสักเสร็จเรียบร้อยก็ปล่อยให้พี่เขาพักผ่อนกินน้ำ ปัสสาวะ (อ่านแยกคำนะอย่าอ่านติดกัน) ก่อนจะพูดคุย แต่เดี๋ยว ! ก่อนจะเริ่มบทสนทนา เราขอเกริ่นให้ฟังซักนิดนึงเกี่ยวกับชายคนนี้ก่อน

    EVERYTHING TEAM7 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    KIKI กับการเดินทางก้าวต่อไปของความคิดสร้างสรรค์บนเส้นทางดนตรี

    ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีวงดนตรีสัญชาติไทยที่ชื่อ KIKI ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในวงที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง ก็เพราะด้วยเสียงเพลงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และการนำเสนอแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนถึงตัวตนของพวกเขาได้อย่างชัดเจน

    EVERYTHING TEAM8 months ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )