PZ Today นักออกแบบไทยในปารีส ที่เคยร่วมงานกับ VETEMENTS | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

PZ Today นักออกแบบไทยในปารีส ที่เคยร่วมงานกับ VETEMENTS

กระดาษรองนั่งโถชักโครกลวดลายไข่มุก ต่างหูจากที่รองแก้วน้ำ หรือเสื้อยืดปลอกหมอน สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงผลงานการออกแบบบางส่วน ที่เกิดจากไอเดียการพลิกแพลงข้าวของธรรมดาที่เราคุ้นเคย ให้กลายเป็นสินค้ารูปแบบใหม่ ที่มองแล้วชวนให้อมยิ้มของ PZ today หรือ เพชรชี่ – ณัฐณิชา โอภาสสุขสถิต นักออกแบบสาวไทย ผู้ที่โลดแล่นอย่างสนุกสนานไปพร้อมๆ กับขับเคลื่อนวงการดีไซน์ของเมืองปารีสด้วยงานดีไซน์สุดแปลก

  ย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เพชรชี่ตัดสินใจบินมาเรียนต่อที่ Institut Français de la Mode ที่ปารีส ด้วยสไตล์ในการออกแบบที่สนุก หลุดกรอบ ไม่เหมือนใคร ทำให้เธอเข้าไปทำงานกับทีมออกแบบของแบรนด์ดังอย่าง Vetements ทันทีหลังเรียนจบ ก่อนจะสร้างผลงานออกแบบมากมาย ตั้งแต่งานวิชวลดีไซน์, ออกแบบผลิตภัณฑ์, ลายพิมพ์แบบแสบๆ ในคอลเล็กชั่นเสื้อผ้า แม้กระทั่งเป็นนางแบบยืนโพสแบบเก๋ๆ เพชรชี่ก็เคยทำมาแล้วในคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2018

  ในตอนนั้นผลงานของเพชรชี่ก็นับว่าปังแล้ว แต่หลังจากที่เธอลาออกและเริ่มต้นสร้างจักรวาลของตัวเองขึ้นด้วยโปรเจ็กต์หนังสือส่วนตัวอย่าง PZ world นักออกแบบสาวคนไทยคนนี้ ก็เป็นที่รู้จักมากขึ้นในแวดวงออกแบบของปารีส เพราะสินค้าที่อยู่ในหนังสือเล่มนั้นได้วางจำหน่ายจริง ในร้านค้าดังระดับโลกอย่าง Dover Street Market ที่ Comme des Garçons เป็นเจ้าของ และที่ร้าน 10 Corso Como ในประเทศเกาหลี จนในที่สุดความฮอตที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง ก็ผลักดันให้เธอกลายเป็นคนไทยคนแรกที่ถูกเลือกจาก The British Fashion Council ให้เป็น 1 ใน 50 นักออกแบบคลื่นลูกใหม่ New Wave : Creative ประจำปี 2020

เบื้องหลังไอเดียในงานออกแบบผลิตภัณฑ์, วิชวลดีไซน์, Installation Art เหล่านี้จะเกิดขึ้นมาจากอะไร มาฟังคำตอบจากนักออกแบบสาวคนนี้ไปพร้อมๆ กันได้เลย

เห็นว่าทำงานหลากหลายตำแหน่งมาก ถามก่อนเลยว่าตอนนี้เพชรชี่กำลังทำอะไรอยู่บ้าง
เราเป็นคนชอบทำหลายอย่างมาก ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้สนใจอะไร และมีโอกาสอะไรให้ได้ลองให้ทำบ้าง ก็เหมือนกับชื่อบริษัท “PZ today” หรือ “พีซี วันนี้” ที่ตั้งในปารีสนี่ก็เข้าปีที่สามปี เรารับทำหลายๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับศิลปะและแฟชั่น บางวันก็คิดคอนเซ็ปต์ เตรียมงานสำหรับ Campaign หรือ Story ในนิตยสาร บางวันออกแบบกราฟฟิก, บางวันออกแบบหนังสือ, บางวันก็ออกแบบสินค้า, บางวันก็ออกแบบร้าน, Make an installation หรือ บางวันก็แค่นั่งทำบัญชีบริษัท คือรับทำทุกอย่าง “Whatever you want just come to us, we sell concept for living” เราขายคอนเซ็ปต์ที่มีเรื่องราว ซึ่งบางครั้งมันอาจจะแปลกเกินไปสำหรับบางแบรนด์ แต่ถ้าทำอะไรเดิมๆ มันก็ไม่สนุกสิ

ทำไมต้องตั้งชื่อว่า PZ today ด้วย
มันเริ่มมาง่ายมากเลยค่ะ ตอนแรกเราอยากจะใช้แค่ PZ (พีซี) ที่เป็นชื่อตัวเองนี่แหละค่ะ แต่พอไปสมัครโดเมนเว็บไซต์แล้ว PZ.com สั้นๆ ไม่ได้ เพราะว่ามันแพง (หัวเราะ) เราเลยต้องเพิ่มอะไรเข้าไปหน่อย แล้วมันก็จะมี Domain Suggestion ขึ้นมาให้เลือก เช่น PZ office, PZ Collaboration และ PZ today พอเห็นชื่อนี้แล้วเราก็รู้สึกใช่เลย และมันเหมือนกับการเล่นคำด้วย สมมติ เวลาเราไปติดต่อเรื่องงานกับใครสักคน ก็จะต้องพูดประมาณว่า “You have to contact PZ TODAY!” (เธอต้องติดต่อ พีซีวันนี้นะ! ) คำนี้มันเลยเหมือนเป็นการล้อเลียนเมล์บริษัท [email protected] และมันก็เชื่อมโยงกับการอยู่กับปัจจุบัน Not tomorrow, not yesterday

ขอย้อนกลับไปหน่อย เพชรชี่เริ่มเส้นทางออกแบบได้อย่างไร
คือมันออแกนิคมากๆ เลย น่าจะชอบออกแบบก่อนรู้จักคำว่าออกแบบเสียอีก ตอนเด็กๆ เวลาไปเดินจ่ายตลาดกับคุณพ่อคุณแม่ ก็ไปเจอตาข่ายโฟมคลุมผลไม้ เราก็แอบหยิบมา แล้วก็สะสมพวกของเหลือใช้อื่นๆ พวกเปลือกส้ม ขวดน้ำ แล้วพอถึงเทศกาลตรุษจีนที่อากงอาม่าจะมาบ้าน เราก็จะทำการแสดง ทำชุด ทำพร็อพต่างๆ จากของเหล่านั้นที่เราเก็บ เพื่อเอาแต๊ะเอีย น่าจะถูกปลูกฝังเรื่องนี้มาจากคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ เพราะคุณพ่อเป็นสถาปนิก และคุณแม่จะเป็นคนชอบแต่งตัวเปรี้ยวๆ ที่เปลี่ยนทรงผมทุกเดือน เราก็เลยได้ซึมซับเรื่องพวกนี้มาก เราเลยชอบแต่งตัวไปด้วยเลย แต่การแต่งตัวของเรามันจะไม่ได้เป็นแนวธรรมดาๆ นะ แต่เราจะแต่งตัวเป็นหมาดาเมเชี่ยนอะไรทำนองนั้น (หัวเราะ) มันจะมีความเพี้ยนๆ หน่อยแต่ก็ดีค่ะ เพราะพ่อแม่สนับสนุน เราถือว่าตัวเองโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่ พี่น้อง เพื่อน และผู้ใหญ่รอบข้างที่ผลักดันกันไปในทางที่สร้างสรรค์ ไม่ได้อยู่ในกรอบขนาดนั้น ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นว่าทำไมถึงออกแบบ

ถ้าลองให้นิยามการออกแบบของเพชรชี่ มันจะเป็นแบบไหน
นิยามหรอ.. มันมีความธรรมดามากๆ จนแบบ Oh my god! This is so basic! แต่ว่าจะมีความทวิสซ์ ให้รู้สึก เอ๊ะ! อ๊ะ! เหมือนกับสิ่งที่เคยเห็นมาก่อน แต่ว่าถูกเอามาทำใหม่ และงานออกแบบของเรามันมีความตลกร้าย เบาสมอง มีความ Genius Hack ในแบบไทยๆ ที่เราเห็นได้ตามท้องถนน คือประยุกต์สิ่งที่มีให้ใช้งานอย่างอื่นได้ เช่น กระดาษรองชักโครกบนเครื่องบิน ที่ใครก็คิดว่ามันสกปรก เราก็เอามาวาดสร้อยมุกลงไป เวลาเอาสวมเข้าไปก็จะเหมือนกับการสวมสร้อยคอให้กับโถชักโครก หรือสวมที่รองฝาชักโครกให้กับตัวเอง เอาภาพจำระหว่างของที่สกปรกกับของที่รวยมาผสมกัน แล้วกลายเป็นของใหม่ที่ใช้ได้จริง ซึ่งอันนี้เราก็ไปนำเสนอผ่าน Documentary ชื่อ The life of a toilet. โดยเราจับเพื่อนมาแต่งตัวเป็นชักโครกแล้วก็ถาม “What’s your job?” แล้วชักโครกก็จะตอบว่า “My job is take care of everybody shit” อะไรทำนองนี้ มีความ “Nonsense but totally Make Sense” (ไร้สาระแต่โคตรมีสาระ)

Toilet Seat cover Scarf

ดังนั้นความเรียบง่ายมันก็เลยกลายเป็นวิธีการทำงานของ PZ today ในทุกวันนี้ใช่ไหม
ใช่ค่ะ จริงๆ ส่วนมากเราทำงานจาก Google ค่ะ (หัวเราะ) สมมติอยากรู้เรื่องแมวก็พิมพ์ไปเลยว่า Cat แล้วดูว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง พอได้มาก็เอาไปทวิสซ์ต่อ บางครั้งงานก็เกิดมาจากประสบการณ์ที่เราไปเห็นมา ทำให้เรามองอะไรได้กว้างมากขึ้น ดังนั้นถึงจะบอกว่าเป็นความเรียบง่าย แต่งานของเราก็จะไม่กระจุกอยู่กับแต่ไอเดียเดิมๆ เป็นความธรรมดาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความธรรมดาในแบบไทย อเมริกา หรือญี่ปุ่น และเราเองก็เปิดโอกาสให้ทุกอย่างที่เข้ามากับเรา คือไม่ได้ปิดประตูไหนเลย เราเปิดกว้างทุกประตู หน้าต่างทุกบาน เปิดต้อนรับอากาศเข้ามา แล้วเราก็จะเลือกว่าจะเอาอากาศแบบไหนมาใช้ แต่บางทีมันก็จะมีมุมที่เรานึกไม่ออก วันนี้ไม่มีลมเข้ามาเลย แต่มันก็ต้องใช้ชีวิตต่อไปให้ได้ Keep Positive Energy ของตัวเองต่อไปให้ได้

หรือจริงๆ เพราะว่าเพชรชี่ไม่มีกรอบทางความคิด
“ไม่มีกรอบทางความคิด” I love that word! (หัวเราะ) คือเวลาเราทำงานปกติก็จะบ้าๆ บอๆ แบบไม่มีกรอบ แต่งานบางชิ้นเองก็ต้องมีกรอบเช่นกันนะ ซึ่งเราก็มองว่ามันเป็นเรื่องสนุก บางโปรเจ็กต์มีโจทย์เข้ามา เราชอบ เพราะเราจะได้นั่งคิดว่าจะเล่นอะไรกับโจทย์ที่ได้ แต่ถามว่าเป็นคนไม่มีกรอบทางความคิดจริงๆ ไหม คิดว่าน่าจะเป็นคำว่า Flexible มากกว่า เพราะเราเป็นคนใช้ชีวิตทำงานแบบยืดหยุ่นได้ตลอด

พอเห็นงานของเพชรชี่แล้วมันจะหลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดคำว่า “แปลก” ได้เลย
มันก็แปลกนะ คือทุกงานของเรา เราอยากสื่อเรื่องราวให้คนได้เข้าใจ ผ่านมุมมองของเราออกไป ซึ่งมันก็จะมีความแปลก เพราะเราเป็นคนมองอะไรแปลกๆ นึกออกใช่ไหม (หัวเราะ) แต่คำว่าแปลกมันอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ เราเลยจะระวังในการที่จะใช้ความแปลกนี้ให้มัน Balance และยังมีจุดที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่คนสามารถ Relate ได้

มีคนบอกบ้างไหมว่างานเพชรชี่แปลกเกินไป
คือมันก็คงจะมีคนรู้สึกแบบนั้นอยู่แหละ แต่เราไม่ได้สนใจว่ามันจะแปลกหรือไม่แปลก ตราบใดที่มันสร้างเสียงหัวเราะ อมยิ้มเล็กๆ หรือจุดประกายอะไรบางอย่างกับคนดูได้ I’m done.

หรือเพราะว่าปารีสเขาเปิดกว้างเรื่องศิลปะ
ใช่ มันอยู่ที่สังคมเลย เอาจริงๆ นะ เราจะบอกให้ว่าตอนเวลากลับไทย จะทำอะไรขึ้นมามันแอบยากกว่าที่ปารีส มันมีความต้องระวังหลายอย่างในเมืองไทย อันนี้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวไปแตะนู้นแตะนี่ กลายเป็นเริ่มสร้างกรอบให้ตัวเองแล้ว แต่ถ้าอยู่ที่ยุโรปมันค่อนข้างจะอิสระนิดนึง คนจะไม่มาตัดสินกัน ทำไมคุณทำแบบนี้ เขาจะพยายามทำความเข้าใจมากว่า ไม่ได้รีบตัดสินไปก่อน เหมือนกับการที่เราอยู่ในสถานที่ที่เปิดโล่งกว้าง เราก็จะสามารถวิ่งเดินไปง่ายมากกว่า

กลับกันถ้าเป็นที่ไทย เวลาทำงานแปลกๆ ออกมาก็จะไม่มีคนซื้อ ไม่มีคนเข้าใจ
ใช่ มันไม่มีคนซื้อ แล้วเราจะเอาเงินจากไหนในการทำงานต่อไป อันนี้คือประเด็น แต่ที่บอกว่าไม่มีคนเข้าใจ เราเชื่อว่ามีคนเข้าใจอยู่แล้ว แต่คนที่เข้าใจเขาอาจจะไม่ได้ซื้องานเราไง ดังนั้นเราจะทำให้คนที่เข้าใจ สามารถเอาไปบอกต่อหรือสนับสนุนต่อได้ไหม และในไทยเองก็ยังขาดการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เปิดกว้างให้กับคลื่นลูกใหม่ และการสนับสนุนที่เข็มแข็งมากพอ เพราะว่ามันเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ถ้าเด็กไม่มีคนสนับสนุน แล้วเขาจะไปต่อได้อย่างไรบนเส้นทางนี้ได้อย่างไร

เห็นว่ามีโปรเจ็กต์ PZ world ด้วย เริ่มต้นมาได้อย่างไร
PZ world มันเกิดขึ้นมาจากที่ว่าเรารู้จักกับสำนักพิมพ์ Idea Book ที่ลอนดอน จากตอนที่ยังทำงานที่ Vetements ซึ่งเราเป็นคนดูแลโปรเจ็กต์ ออกแบบ Vetements Book แล้วที่นี่เป็นคนตีพิมพ์ เป็นบุพเพสันนิวาส (หัวเราะ) เขาคงเห็นว่าเราเป็นคนตั้งใจทำงาน และเห็นอะไรพิเศษในตัวเรา พอเราออกจากที่ Vetements เราก็ทำงานฟรีแลนด์กับเขาอีก 2-3 งาน พอมาถึงวันหนึ่ง จำได้ว่ากำลังนั่งกินอาหารจีนกับเขาในลอนดอน เขาก็พูดขึ้นมาว่า “How about our next project is your book?” เราไม่เคยมีความคิดว่าจะทำหนังสือเป็นของตัวเองเลย เพราะเป็นคนเขียนไม่เก่ง ความคิดของเราไม่สามารถตกตะกอนเป็นคำพูดยาวๆ สวยๆ ได้ แต่พอเขามาเป็นคนเสนอเอง เราเลยรู้สึกว่าแล้วจะปฏิเสธทำไม มันเป็นประสบการณ์ เราเลยลองทำดู

ถ้าพูดถึงคอนเซ็ปต์หรือแนวคิดของ PZ world จริงๆ เลย มันคืออะไร
ก็คือ My World นี่แหละค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ มันล้อคำมาจากแคตตาล็อก PC World ของอังกฤษ ที่เป็นแคตตาล็อกของคอมพิวเตอร์ เราเลยทำแคตตาล็อกของคนที่อยู่ในจักรวาลของเราขึ้นมา เราชอบใครก็ชวนเขามาอยู่ในจักรวาลของเรา เช่น มี Drag Queen คนหนึ่งชื่อ Kim Chi ที่เคยแข่งใน Rupaul’s Drag Race แล้วเราก็ชอบคนนี้มาก ก็เลยไปอีเมลหาเขาว่า ‘I love you so much. Can you collaborate with us? Just send me five images of your food if you have a kitchen’ เพราะเรามองเขาแล้วรู้สึกว่าเขาเป็นคนกินของแล้วดูอร่อย แล้วเราก็เอาภาพที่เขาส่งมา เอาไปต่อเรื่องราว อย่างที่บอกว่าเราเขียนอะไรยาวๆ ไม่เก่ง เราเลยเลือกเขียนแค่แคปชั่นสั้นๆ แต่รู้เรื่อง ในที่สุดหนังสือเล่มแรกของเราเลยกลายเป็นการปู Creative Universe ของ PZ today โดยใน Universe ของเรา แน่นอนก็ต้องมีเพื่อนๆ และคนที่เราชื่นชอบ ที่เป็นแรงบันดาลใจในเรื่องต่างๆ ของเรา รวมแล้วประมาณ 55 คนในเล่มแรก หน้าตามันก็จะเหมือนกับแคตตาล็อกสินค้า ที่ของในนั้นอาจจะมีจริง หรือแค่แต่งขึ้นมาจากจินตนาการของพวกเรา ถือว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่เกิดมา โดยที่ไม่ได้คาดฝัน มันเลยกลายเป็นสิ่งที่ให้เราชอบทำหนังสือไปเลยค่ะ

แล้วสินค้าในเล่ม มันก็จะมีของที่ทำออกมาขายจริงๆ ด้วยใช่ไหม
ใช่แล้ว อย่างเล่มแรกก็จะมีประมาณ 5-6 ชิ้น และเล่ม 2 PZ world Wedding ก็จะมีประมาณ 6-7 ชิ้น ที่เรา Collaboration กับ Brand ต่างๆ และทำออกมาทำวางขายจริงพร้อมกับหนังสือ ขายที่ Dover Street Market ญี่ปุ่น อเมริกา อังกฤษ หรือ 10 Corso Como ที่เกาหลี เป็นการทำงานที่ใช้ Skill หลากหลายมากและสนุกดีค่ะ ใช้งบตัวเองไปเยอะมาก แต่หลังจากโปรเจ็กต์นี้แล้วมันก็มีทำให้มีอะไรใหม่ๆ เข้ามา ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าค่ะ

ชิ้นที่ชอบที่สุดคือ?
หู้ย เราชอบหมดเลยอะ

งั้นเปลี่ยนคำถามดีกว่า ถ้าให้เลือกเป็นสามชิ้นที่ชอบที่สุดละ
Pillow Case T-shirt อันนี้เป็นชิ้นแรกเลย เราได้ไอเดียมาจากที่ว่า เราเป็นคนที่ชอบใช้เสื้อยืดแทนปลอกหมอน พอใส่ไปมันก็ไม่พอดีหรอก (หัวเราะ) เราเลยคิดขึ้นมาว่า โลกนี้มันต้องมีคนที่อยากได้เสื้อยืดสำหรับทั้งปลอกหมอนกับคนในอันเดียวสิ! เราเลยไป Collab กับ HB Peace เพื่อนดูโอ้ชาวออสเตรเลีย จะบอกว่านี่เรานำเทรนด์ปลอกหมอนก่อน 1st Lockdown อีกนะ (หัวเราะ) พวกเราก็เลยเล่นเดินแบบโดยทำชุดจากปลอกหมอนเก่า มาตัด ใส่ แล้วเดินแบบ ถ่ายรูป แล้ว Print บนเสื้อยืดทรงปลอกหมอน เป็นเลย์เอ้าท์แบบหนังสือพิมพ์แบบพาดหัวว่า “Sleepless Fashion แฟชั่นที่ไม่มีการหลับใหล” ในคอลัมม์ก็จะอธิบายว่าได้คนนี้ใส่ปลอกหมอนจากไหน สไตล์อย่างไร เป็นข่าวหน้าหนึ่งแปะเป็นกราฟิกสนุกๆ

ชิ้นที่สองเป็นชิ้นจากเล่ม PZ world Wedding ธีมของหนังสือเล่มที่สอง จะเป็นเกี่ยวกับงานแต่งงาน เพราะว่าปีนั้นพี่สาวมีงานแต่งงาน แล้วเราก็รู้สึกว่าเออ ถ้าสมมติว่าถ้าคุณมาจ้าง PZ today ให้เป็น Wedding Organizer จะเป็นอย่างไร?! เลยเกิด PZ world Wedding ขึ้นมา ในเล่มก็จะมีหน้าหนึ่งที่เกี่ยวกับ Instant Propose (การขอแต่งงานแบบเร่งด่วน) เหมือนแบบกล่องพิซซ่าที่เขียนว่า ‘Will you Marry me’ หรือ ใช้หอมทอดแทนแหวน เราก็ได้ไอเดียว่า ถ้าเราก็เอาเสื้อยืดมาปริ้นท์แหวนเพชรวงใหญ่ แล้วอัดมันในรูปแบบของกล่องแหวนเพชร ตอนขอแต่งงานก็แค่เอากล่องนี้ไปโยนในน้ำ แล้วมันก็จะกลายเป็นเสื้อยืดรูปแหวนเพชรหลายกะรัด ที่เขียนว่า ‘Yes! I Do!’ เป็นที่มาของ Compressed Diamond Ring Box T-shirt ที่เรา Collab กับแบรนด์ญี่ปุ่น Doublet ส่วนชิ้นสุดท้ายก็คือชักโครกที่เล่าไปก่อนหน้านี้นี่แหละค่ะ ซึ่งอันนี้ก็ทำให้เราเห็นว่าบางทีแปลกเกินไป มันก็ไม่ค่อยมีคนซื้อว่ะ (หัวเราะ)

PZTODAY X DOUBLET Diamond ring Box Tshirt

ทำงานที่ปารีสมาประมาณ 7 ปี เคยเจอ Asian Hate บ้างหรือเปล่า
มีอยู่แล้ว ยิ่งคนฝรั่งเศสด้วยแล้วบางคนก็จะมีความเหยียดเชื้อชาติมาก โชคดีที่ตอนแรก เราฟังเวลาที่เขาพูดไม่ค่อยออกเลยปล่อยผ่านไป แต่พอเราอยู่มาสักพัก แข็งแรงขึ้น เราก็จะตอบโต้และพยายาม Educate เขา แล้วที่ตลกคือคนที่เหยียดยังแยกชาติเอเชียแต่ละชาติไม่ออกเลย คือในเมื่อคุณยัง Ignorance แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาเหยียดเชื้อชาติใส่เรา

แล้วอยากกลับมาทำงานที่ไทยบ้างหรือเปล่า
คิดตลอดเลยค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ เราเพิ่งกลับไทยมาตอนเดือนธันวาคม แล้วบินกลับตอนเมษายน คือเรากลับมาศึกษาเรื่องภูมิปัญญาและการประดิษฐ์คิดค้นของคนในท้องถิ่น เราเข้าไปศึกษาในหลายชุมชน ไปตอนแรกๆ ก็มีไอเดียเยอะแยะไปหมด แต่พอมาเห็นปัญหาจริงๆ เนี่ย มันใหญ่มากจนตกใจ มันงงไปเลยว่าจะทำอย่างไรต่อ เราเลยต้องถอยออกมาตั้งหลักก่อน ในตอนนี้มันเลยยังเป็นความท้าทายในหัวของเราอยู่ ว่ากลับไปไทยแล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร จะช่วยขับเคลื่อนไปในทิศทางไหน ซึ่งตอนนี้เราคงจะพูดให้ฟังไม่ได้ เพราะความคิดมันยังกระจาย ยังไม่เจอ The right direction

พอเข้าเลขสามแล้วเป้าหมายในชีวิตเปลี่ยนไปมากน้อยขนาดไหน
หู้ย.. เปลี่ยนไปเยอะมาก แล้วพอโดนโควิดมันก็มีการตกตะกอนอยู่ในบ้าน ค่อยๆ ใช้ชีวิต โทรหาพ่อแม่เยอะมาก โทรหาเพื่อน คือเราเห็นว่าอะไรที่สำคัญในชีวิตเราบ้าง แล้วเป้าหมายก็เริ่มเปลี่ยนเยอะมาก แต่ก็ยังไม่แน่นอนว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เหมือนอยู่ในช่วงหลังสงคราม มันยังทำอะไรไม่ได้เยอะ ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป

มีบทเรียนสำคัญอยากจะแชร์ส่งท้ายให้เด็กรุ่นใหม่ฟังไหม
อย่ากลัว อย่ากลัวในความคิดตัวเอง เราต้องกล้าที่จะทำ พูดหรือนำเสนอ อย่ากลัวที่จะแปลกแยก เราเองก็เรียนรู้จากเด็กรุ่นใหม่เหมือนกัน Simply just follow your heart.

    TAG
  • PZ Today
  • people
  • design
  • interview
  • fashion

PZ Today นักออกแบบไทยในปารีส ที่เคยร่วมงานกับ VETEMENTS

PEOPLE/INTERVIEW
4 years ago
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • PEOPLE/INTERVIEW

    คุยกับ Cupnoodle ผู้ที่ซื่อสัตย์และมั่นคงในดนตรีของตัวเอง ท่ามกลางความคิดแสนนานาจิตตัง บนเส้นทางสู่เป้าหมายชีวิตที่เรียกว่า “ศิลปิน”

    แค่ได้อ่านชื่อ ก็เชื่อว่าคิ้วของทุกคนคงต้องผูกกันเป็นปมด้วยความสงสัยแล้วว่า ‘บะหมี่ถ้วย ใช้ชื่อนี่เป็นชื่อศิลปินจริงดิ’, ‘มาทำเพลงเอาตลกหรือเปล่าเนี่ย’ บอกไว้ก่อนเลยว่า ไม่ ไม่ตลกเลย เพราะชีวิตที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังผลงานเพลงของ Cupnoodle หรือ “ซาช่า โจสท์” นั้น เต็มไปด้วยความพยายาม ความตั้งใจ จนบางครั้งก็ต้องยอมเสียสละบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้ได้ไขว่คว้าความฝันวัยเด็กในการเป็นศิลปิน ที่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านนั้น เธอแทบจะผ่านประสบการณ์การลงมือทำมาหมดทุกอย่างแล้วเพื่อเข้าใกล้วงการดนตรีให้ได้มากที่สุด (ซึ่งเยอะจนเราเชื่อว่าคงเขียนเล่าได้ไม่ครบ) แต่แม้จะมุ่งมั่นออกตัววิ่งบนเส้นทางนี้ไปด้วยความรวดเร็วมากเท่าไหร่ ซาช่า ที่ ณ ตอนนั้นใช้ชีวิตอยู่ที่ลอนดอน ก็ยังคงไม่เห็นเส้นชัยของตัวเองสักที

    EVERYTHING TEAMJune 2025
  • PEOPLE/INTERVIEW

    มองสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยในฐานะวัฒนธรรมที่มีชีวิตผ่าน ART TOYS เจาะลึกแนวคิดความสนุกจาก DUCTSTORE the design guru Co.,Ltd.

    ทันทีที่ Key Visual สถาปนิก’ 68 เผยแพร่ออกมา บทสนทนาปลุกสัญชาตญาณนักสืบในตัวทุกคนพร้อมใจกันทำงานแบบ Autopilot และระหว่างที่ตามหาเฉลยกันจริงจัง ทุกคนเริ่มหันมาตั้งคำถามต่อว่า Art Toys เกี่ยวข้องกับธีมงานอย่างไร รู้ตัวอีกทีวงสนทนาก็กระเพื่อมขยายกว้างขึ้น ส่งสัญญาณชัดว่า Key Visual ปีนี้เปิดฉากมาแบบสนุกเอาเรื่อง โดนเส้นกันสุดๆ

    EVERYTHING TEAMJanuary 2025
  • PEOPLE/INTERVIEW

    อุ้ม-วัลลภ รุ่งกำจัด นักแสดงภาพยนตร์อิสระ สู่เส้นทางของ Cannes Film

    วัลลภ รุ่งกำจัด หรือ อุ้ม นักแสดงที่เชื่อมโยงความเป็นมนุษย์กับโลกของภาพยนตร์ ผ่านการสร้างชีวิตให้ตัวละครต่าง ๆ ได้ออกมาโลดแล่นแสดงความรู้สึกทางอารมณ์ให้กับผู้ชม แม้เขาจะไม่ได้เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในวงกว้างเทียบเท่ากับนักแสดงกระแสหลัก แต่ในเวทีระดับโลก “อุ้ม” ได้พิสูจน์ตัวเองกับการเป็นนักแสดงที่มีความสามารถที่ยอมทุ่มเทหลาย ๆ สิ่ง ให้กับงานศิลปะด้านการแสดงในภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้อย่างสุดตัว

    EVERYTHING TEAM8 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    พูดคุยกับ “MAMIO” บนหน้ากระจกสะท้อนตัวตนที่ถูกซ่อนมาทั้งชีวิต “อาจใช้เวลานานถึง 30 ปี แต่ก็ดีกว่าไม่มีโอกาสได้รู้เลย”

    คงปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เราได้รู้จักกับเธอคนนี้ในชื่อของ พัด หรือที่ชอบเรียกติดปากกันว่า พัด ZWEED N’ ROLL เจ้าของเสียงทุ้มมีเสน่ห์ นักร้องและนักแต่งเพลงที่ฝากผลงานเพลงเศร้าเอาไว้ในวงการมากมาย อาทิ ช่วงเวลา, Diary, อาจเป็นฉัน และอีกมากมาย ไม่มีอะไรแน่นอนแม้กระทั่งตัวเราเอง ช่วงเวลาจึงได้พัดพาให้เรามาทำความรู้จักกับ “MAMIO” ในฐานะศิลปินใหม่จากค่าย Warner Music Thailand ซึ่งเป็นอีกตัวตนหนึ่งของคุณพัดที่ไม่เคยถูกปลดปล่อยออกมาเลยตลอดชีวิตการทำงานในวงการสิบกว่าปีที่ผ่านมา หรือถ้าจะให้ซื่อสัตย์กับตัวเองจริง ๆ ก็อาจจะเป็นทั้งชีวิตที่เกิดมาเลยเสียด้วยซ้ำ

    EVERYTHING TEAM8 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    THE ROARING SOUND OF BANGKOK EVILCORE

    Whispers เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่สะท้อนการเติบโตของวงการ Hardcore ในประเทศไทยอย่างแท้จริง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงกลุ่มเพื่อนที่หลงใหลในดนตรี เพราะนอกจากจะเป็นผู้เล่น พวกเขายังเป็นกำลังสำคัญที่คอยผลักดันซีนฮาร์ดคอร์ในบ้านเรามาโดยตลอด ประสบการณ์ที่สั่งสมทำให้เกิดเป็นสไตล์เฉพาะของ Whispers สร้างความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้พวกเขาก้าวไปสู่เวทีระดับสากล ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ใต้ดินของไทย แต่เสียงคำรามของพวกเขาก็ดังไปไกลถึงทวีปยุโรป มาพบกับเส้นทางดนตรีที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและการเปลี่ยนแปลง กับวงฮาร์ดคอร์ระดับบท็อปของ Southeast Asia

    EVERYTHING TEAM9 months ago
  • PEOPLE/INTERVIEW

    Nat Inksmith (ชณัฏฐ์ หวังบุญเกิด) มากกว่าความสวยงามคือการนำเสนอผลงานที่เป็นตัวตนผ่านศิลปะลายสัก

    ด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์และรูปแบบงานสักของเขา ที่เรารู้สึกแปลกประหลาดกว่างานสักอื่น ๆ (แปลกประหลาดในที่นี้คือความหมายในแง่ดีนะ) ก็เลยตัดสินใจส่งข้อความทักไปหา “พี่นัทครับ ผมขอสัมภาษณ์พี่ได้ไหม” “ได้ครับ” สั้น ๆ แต่จบ เรื่องราวทั้งหมดก็เลยเริ่มต้นขึ้นที่ร้าน CAVETOWN.TATTOO แถว ๆ ปิ่นเกล้า ซึ่งพี่นัทเป็นเจ้าของร้านแห่งนี้ บทสนทนาของเราเริ่มกันในช่วงเวลาบ่าย ๆ ของวันพฤหัส พอไปถึงร้านพี่นัทกำลังติดงานสักให้กับลูกค้าอยู่หนึ่งคน พอได้เห็นลายที่เขาสักต้องบอกว่าเท่มาก ๆ มันมีความเป็น Psychedelic บวกกับ Ornamental ผสมผสานกับเทคนิค Dotwork จนกลายเป็นงานศิลปะบนผิวหนังหลังฝ่ามือ เราถึงกับต้องถามคำถามโง่ ๆ กับลูกค้าที่ถูกสักว่า “เจ็บไหม” แน่นอนคำตอบที่ได้คือ “โคตรเจ็บ” เพราะจุดที่สักคือหลังฝ่ามือ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนร่ำลือกันว่าโคตรเจ็บ ระหว่างที่รอพี่นัทไปพลาง ๆ น้องแมคช่างภาพที่มีรอยสัก Full Sleeve เต็มแขนขวา ก็เริ่มกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปเก็บภาพระหว่างที่เขาสักไปด้วย พอสักเสร็จเรียบร้อยก็ปล่อยให้พี่เขาพักผ่อนกินน้ำ ปัสสาวะ (อ่านแยกคำนะอย่าอ่านติดกัน) ก่อนจะพูดคุย แต่เดี๋ยว ! ก่อนจะเริ่มบทสนทนา เราขอเกริ่นให้ฟังซักนิดนึงเกี่ยวกับชายคนนี้ก่อน

    EVERYTHING TEAM9 months ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )