LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING
DESIGN:----
ARCHITECTURE
Sleepless Residence
Sleepless Residence
เมื่อต้องออกแบบบ้านริมน้ำให้นักแต่งเพลง สถาปนิกจาก WARchitect เปลี่ยนทะเลสาบให้เป็นเวทีคอนเสิร์ตแล้วเปิดให้ทุกมุมในบ้านรับชมการแสดงของริ้วคลื่นอย่างทั่วถึงบนอัฒจันทร์ที่ลดหลั่นไล่ระดับไม่บดบังกัน
จู่ๆ ช่องบันไดแคบๆ ซึ่งเป็นทางเข้าหลักก็เปิดออกสู่ลานโล่งที่เต็มไปด้วยแมกไม้เรียงรายแผ่กิ่งก้านใบออกมาอาบแสงแดดอุ่นๆ ด้านหน้าคือห้องนั่งเล่นซึ่งมีผนังกระจกผืนใหญ่เผยให้เห็นมุมมองเหนือทะเลสาบที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง ที่นี่คือ Sleepless Residence บ้านของ ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์ นักแต่งเพลงชื่อดังเจ้าของอัลบั้ม Sleepless Society และบทเพลงประกอบละครอื่นๆ อีกมากมาย ผลงานการออกแบบของธาวิน หาญบัญเศรษฐ ผู้ก่อตั้งสำนักงานสถาปนิก WARchitect

จากโจทย์ที่ต้องออกแบบบ้านซึ่งมีห้องทำงานสำหรับทำเพลง มีสวนอยู่กลางบ้าน แต่งแต้มสีสันด้วยบรรยากาศสไตล์ Loft และสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินริมทะเลสาบได้อย่างเต็มที่ ทีมสถาปนิกจาก WARchitect ออกแบบบ้านหลังนี้โดยสร้างอาคารและสวนที่ค่อยๆ เรียงรายไต่ระดับกันขึ้นมาตามแนวตลิ่งริมน้ำ พร้อมกับนำเหล็ก ไม้ กระจก และอิฐมาผสมผสานสร้างสรรค์บรรยากาศ Vintage Loft ที่มีเอกลักษณ์ตามแบบของตัวเอง
เพื่อให้ทุกพื้นที่ในบ้านได้รับวิวทะเลสาบอย่างทั่วถึง สถาปนิกจึงออกแบบให้แต่ละห้องอยู่ในตำแหน่งที่สูงต่ำลดหลั่นกันไปคล้ายที่นั่งบนอัฒจันทร์ ในขณะที่ทะเลสาบเปรียบเสมือนเวทีแสดงคอนเสิร์ต ระเบียงริมน้ำก็เป็นที่นั่งแถวหน้า ลำดับต่อมาเป็นสวนน้ำตก สระว่ายน้ำ ห้องนั่งเล่น สวนกลางบ้าน และมีห้องนอนบนชั้นสองอยู่ในแถวหลังสุด แต่ไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใด ทุกพื้นที่ในบ้านสามารถรับชมบรรยากาศสงบผ่อนคลายของทะเลสาบได้อย่างทั่วถึงโดยไม่มีการบดบังกัน “เวลาเราไปดูคอนเสิร์ต ที่นั่งจะเป็น Slope คนที่อยู่ที่สูงๆ เวลามองลงมาก็จะไม่ติดหัวคนที่มานั่งข้างหน้า” ธาวินกล่าว “อันนี้ก็เลยเป็น Main Idea ที่เหมือนกับว่า Landscape ของบ้านมันถูกพับขึ้นมาจากน้ำ”


แนวคิดการจัดระเบียบพื้นที่ในบ้านให้ลดหลั่นกันแบบอัฒจันทร์ได้รับการถ่ายทอดออกมาสู่การวางผังอาคารแบบ Split Level ซึ่งพื้นแต่ละชั้นค่อยๆ ไต่ระดับกันขึ้นไปจากชั้นล่างสู่ชั้นบนอย่างต่อเนื่อง

จากที่จอดรถ การเดินทางเข้าสู่พื้นที่ภายในเริ่มต้นจากช่องบันไดเล็กๆ ซึ่งมีปลายทางอยู่ที่สวนบนเนินกลางแจ้งและห้องนั่งเล่น เมื่อเข้าไปภายในบ้าน พื้นที่ในส่วนต่างๆ อยู่ในระดับซึ่งค่อยๆ สูงขึ้นไปตามความลาดของเนินสวน ตั้งแต่ห้องออกกำลังกาย ห้องนอนแขก ไปจนถึงห้องนอนใหญ่บนชั้นสอง ซึ่งพื้นที่แต่ละห้องนี้เรียงตัวโอบล้อมเนินจนเกิดเป็นพื้นที่สวนกลางบ้าน
สวนกลางบ้านมีลักษณะเป็นเนินสูงขึ้นไปคลุมที่จอดรถด้านหน้าทำให้เกิดมมุมมองที่น่าสนใจ จากห้องนั่งเล่นสามารถเห็นแนวต้นไม้ที่เรียงซ้อนสูงต่ำต่างกันได้อย่างมีมิติ ในขณะเดียวกัน เมื่ออยู่ในสวนก็สามารถมองย้อนกลับไปเห็นสระว่ายน้ำและทะเลสาบที่อยู่อีกฟากของห้องนั่งเล่นได้เช่นกัน “ถ้า Court อยู่กับพื้นแบนๆ เวลาเรามองไปก็จะทะลุลำต้นของต้นไม้แล้วก็ไปเจอที่จอดรถ แต่สวนแบบนี้เรามองแล้วเห็นต้นไม้ที่มากกว่าปกติ” วินกล่าว “จากฝั่งต้นไม้ เราก็สามารถมองไปเห็นผิวน้ำของทะเลสาบได้ด้วย”

นอกจากสวนบนเนินกลางบ้านแล้ว พื้นที่ตลิ่งริมน้ำก็ได้รับการออกแบบเป็นสวนแบบขั้นบันไดโดยจุดสูงสุดของสวนจะลดต่ำลงไปจากสระว่ายน้ำเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยๆ ไต่ระดับลงไปตามแนวตลิ่งจนถึงระเบียงริมทะเลสาบ ทำให้เกิดภาพลวงตาเมื่อมองจากภายในบ้านที่ดูคล้ายกับว่าผิวน้ำในสระนั้นเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกับน้ำทะเลสาบ “สระว่ายน้ำของบ้านนี้ ผิวน้ำจะ Continue กับทะเลสาบ” ธาวินเล่า “แต่ถ้าเราเดินไปใกล้ๆ ก็จะเห็นว่ามีสวนที่ลงบันไดไปอีก การที่เราทำแบบนี้ทำให้สวนไม่มาบังความเชื่อมต่อของผิวน้ำแบบ Overflow”

หลังจากที่วางแนวคิดด้านภูมิสถาปัตยกรรมในส่วนต่างๆ ของบ้านเอาไว้ ทั้งสวนบนเนินกลางบ้านและสวนริมตลิ่งที่ลดลั่นเป็นขั้นบันได สถาปนิกได้ชักชวนทีมออกแบบภูมิทัศน์จาก ‘กิ่งก้านใบ’ มาเติมเต็มพื้นที่สีเขียวด้วยการเลือกเฟ้นต้นไม้ที่เหมาะสมกับสวนของบ้านหลังนี้ “ผมวาง Terrain บันไดแต่ละขั้นและ Deck ริมน้ำเอาไว้ แล้วผมก็หล่อปูนเอาทิ้งไว้ให้เป็นรูป แล้วพอกิ่งก้านใบเขามา ด้วยความเป็นมืออาชีพเขาก็เลือกเอาต้นไม้เข้ามาเสียบๆ ก็สวยเลย” ธาวินเล่า “เขาเลือกต้นไม้มาลง ทั้งต้น Silver Oak ต้นหมากเม่า แม้กระทั่งน้ำตกก็เป็นไอเดียของเขา”


ความลดหลั่นไล่ระดับของพื้นที่ส่วนต่างๆ ไม่เพียงทำให้ทุกจุดในบ้าน Sleepless Residence สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบได้อย่างทั่วถึงเท่านั้น ในทางกลับกัน เมื่อเจ้าของบ้านออกมาใช้เวลาอยู่ที่ระเบียงริมน้ำแล้วมองย้อนกลับเข้าไปในบ้าน เขาก็สามารถมองเห็นส่วนต่างๆ ของบ้านในมุมมองที่สวยงามด้วยเช่นกัน “เจ้าของเขาชอบไปนั่งเล่นที่ระเบียงริมน้ำ ดังนั้น มุมที่มองกลับมาต้องสวยด้วย” ธาวินกล่าว “จากตรงนี้เขาก็จะเห็นน้ำตก เห็นสวนที่เป็นขั้นบันได มองกลับไปจะเห็นสวนกลางบ้านต่อเนื่องกับสวนริมน้ำด้วย พื้นที่มันไหลทะลุบ้านขึ้นไป”
การเลือกใช้วัสดุและองค์ประกอบในการตกแต่งบ้านหลังนี้เกิดจากการวิเคราะห์ความชื่นชอบของเจ้าของบ้าน ทั้งจากการพูดคุยและสังเกตจากข้าวของเครื่องใช้ในบ้านหลังเดิมและห้องทำงานซึ่งมีการตกแต่งแบบVintage Loft “ผมรู้สึกว่าอะไรที่เป็น Loft และเป็น Vintage มันจะค่อนข้างไม่มีระเบียบ” คุณวินกล่าว “ซึ่งผมมองว่าพี่หนึ่งเป็นคนที่มีความเนี้ยบและมีความหรูหรามากกว่าที่จะเป็น Loft ที่ดิบๆ ไปเลย ผมก็เลยตีความว่า Loft ที่เขาอยากได้มันก็คือ เหล็ก อิฐ กระจก ปูน ไม้ซีดๆ ซึ่งเราสามารถเอามาจัดระเบียบให้ดูโมเดิร์น ดูหรูได้ อันนี้ก็เลยกลายเป็น Mood ของบ้านนี้”

เพื่อสร้างบ้านสไตล์ Loft ที่ผสมผสามความ Vintage เข้าไปแต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราและดูทันสมัยในเวลาเดียวกัน การใช้เหล็ก ไม้ อิฐ และปูนในการออกแบบส่วนต่างๆ มีการจับคู่สีและแบ่งสัดส่วนของวัสดุแต่ละชนิดอย่างลงตัว “สุดท้ายแล้วสัดส่วนของไม้เหลือน้อยที่สุด คือเป็นแค่ระเบียง ผมมองว่าถ้าเราจะทำบ้านที่มีสีโทนร้อนอยู่บ้าง เราไม่ควรเอาสีน้ำตาลของไม้มาชนกับอิฐ เพราะมันเป็นของที่รู้สึกแบบเดียวกัน” ธาวินอธิบาย “ถ้าอิฐเป็นสีส้ม ไม้ควรเป็นสีเทา เพราะฉะนั้น ระเบียงไม้ริมทะเลสาบเลยเป็นสีเทา แล้วผนังในบ้านที่เป็นกรวดล้างก็เป็นสีเทา เพราะเราอยากขับให้อิฐเป็นพระเอก”
การใช้อิฐเป็นพระเอกในการออกแบบบ้าน Sleepless Residence มีการแบ่งอิฐที่ใช้ออกเป็นสองส่วน โดยที่ในแต่ละส่วนใช้อิฐต่างชนิดกันและมีแนวทางในการใช้อิฐที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง


อิฐส่วนแรกอยู่ที่ผนังด้านหน้าบ้านบริเวณชั้นสองซึ่งตรงกับตำแหน่งของห้องนอนใหญ่ ด้วยการใช้อิฐที่มีหน้าตัดเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสและมีรูปทรงยาวมาวางเอียง 45 องศาสลับไปมา ทำให้เกิดรูปแบบกำแพงกึ่งโปร่งกึ่งทึบที่ดูมีมิติน่าสนใจ รูปแบบการก่อลักษณะนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผนังอิฐผืนใหญ่โดยไม่ต้องมีเสาและคานเอ็นมาคั่น อีกทั้งการก่อแบบเว้นช่องนี้ยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายในบ้านโดยที่ยังสามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้ในเวลาเดียวกัน “เราวางอิฐ Pattern นี้ต่อเนื่องไปถึงมุมของอาคาร มันก็เลยเป็นการเข้ามุมที่เป็นเอกลักษณ์” ธาวินกล่าว “หน้าบ้านเป็นโรงเรียน ตอนเช้าก็มีคนผ่านไปผ่านมา กำแพงนี้ก็ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอนด้วย แล้วในเวลากลางคืน การออกแบบ Lighting มีไฟซ่อนอยู่ข้างหลัง พอเรายิงไฟออกมาจากข้างหลัง อิฐมันก็จะเหมือนกับมีแสงส่องออกมาในตัวเอง เลยเกิดเป็นก้อนระยิบระยับ ซึ่งตัวนี้เองที่ช่วยไม่ให้คนเข้าไปสนใจห้องนอน”

เมื่อเข้ามาภายในบ้าน การใช้อิฐที่บริเวณห้องนั่งเล่นมีรูปแบบที่แตกต่างออกไป ทั้งชนิดของอิฐที่ใช้และแนวทางในการก่อ ด้วยการพลิกแพลงนำกระเบื้องอิฐมาใช้ในลักษณะกลับด้านและเรียงต่อกันในแนวตั้ง กำแพงอิฐสีส้มที่ห้องนั่งเล่นจึงมีลวดลายและผิวสัมผัสที่แปลกใหม่ซึ่งการก่อด้วยอิฐจริงไม่สามารถทำได้ “เมื่อใช้อิฐปลอมทั้งที ก็ต้องก่อแบบที่อิฐจริงทำไม่ได้” ธาวินเล่า “เราใช้อิฐที่หนาหนึ่งเซนติเมตรและผิวเรียบ กับอิฐที่หนาสองเซนติเมตรและมีแง่งๆ เอาไว้เกาะกับปูน เราพลิกมันออกมาข้างนอก เกิดเป็นอิฐเรียบปะทะกับอิฐที่เป็นแง่ง แล้วก็ก่อแนวตั้งเลย เกิดเป็นผนังที่มีเอกลักษณ์ เวลาแสงจากทิศตะวันตกที่มันผ่านทะเลสาบเข้ามา เงาต้นไม้ก็จะมาทอดอยู่บนนี้ก็เกิดเป็น Pattern ที่แปลกตา”
ผนังอิฐบริเวณนี้สูงต่อเนื่องจากห้องนั่งเล่นขึ้นไปถึงชั้นสองซึ่งเป็นตำแหน่งของห้องทำงานที่มีเครื่องดนตรีสำหรับการแต่งเพลง ผนังกระจกของห้องนี้ได้รับการออกแบบให้เว้นระยะเข้าไปโดยเหลือพื้นที่ไว้เป็นระเบียงด้านข้างเพื่อเพิ่มมิติในการเชื่อมต่อบรรยากาศจากภายนอกเข้าไปสู่ภายใน “ชั้นสองเป็นห้องทำงานที่อยู่บนห้องนั่งเล่น ตรงริมผนังฝั่งอิฐจะเป็นมุมที่วางเปียโน” ธาวินกล่าว “ผมคิดว่ามันโรแมนติกดีที่นั่งเล่นเปียโนอยู่แล้วก็เห็นแสงสาดลงมาไล้ที่ผนัง ก็เลยเว้นผนังตรงนั้นเป็นระเบียง ไม่ทำบ้านออกไปชิดติดกำแพง”

จากห้องนอนบนชั้นสองบริเวณหน้าบ้านซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังกำแพงอิฐกึ่งทึบกึ่งโปร่ง สู่สวนเปิดโล่งบนเนินกลางบ้าน ห้องนั่งเล่นบรรยากาศ Vintage Loft ริมสระว่ายน้ำไร้ขอบ สวนน้ำตกริมตลิ่ง และชานไม้ริมน้ำ ไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใดในบ้าน ที่ Sleepless Residence ผู้อยู่อาศัยสามารถเอนตัวลงนอนแล้วทอดสายตาออกไป ปล่อยให้ริ้วคลื่นในทะเลสาบค่อยๆ ขับกล่อมบทเพลงของสายน้ำประสานกับเสียงดนตรีของสังคมนอนไม่หลับได้อย่างลงตัว
Architecture Firm : WARchitect Interior & Lighting : WARchitect
Landscape Firm : Ginggaanbai (กิ่ง ก้าน ใบ)
Website : https://www.facebook.com/ WARchitect
Contact e-mail : [email protected]
Firm Location : Hachi serviced apartment / ladprao soi3 / jatujak district / Bangkok Completion Year: 2020 Gross Built Area: 570 Project location: Sammakorn village , Bangkok
Clients: Narongvit Techatanawat (ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์)
Design Team(WARchitect): Thawin Harnboonseth (ธาวิน หาญบุญเศรษฐ) / Photsawat apariman (พศวัต อปริมาณ)
Photo credits: Rungkit Charoenwat (รุ่งกิจ เจริญวัฒน์)
Sleepless Residence I บ้านบนอัฒจันทร์ริมตลิ่งที่เปิดรับวิวของริ้วคลื่นในทะเลสาบโดย WARchitect
/
ถึงแม้ในตอนนี้เราจะขอนำเสนอผลงานออกแบบบ้านอีกครั้ง แต่บ้านหลังนี้ก็แตกต่างจากบ้านธรรมดาทั่วๆ ไป เพราะเป็นสถานที่ที่เป็นแนวความคิดแบบ บ้าน+น้ำ ที่สร้างขึ้นเพื่อครอบครัวที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตอยู่กับน้ำ ด้วยการสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง งาน+ความชอบ+การผักผ่อน+การฝึก+การสอน+ธรรมชาติ ด้วยการยกพื้นที่สำหรับดำน้ำมาไว้ในตัวบ้าน เพื่อให้คนที่รักการดำน้ำมาทำกิจกรรมกัน ทั้งการฝึกซ้อม การเรียนการสอน ทบทวนการดำน้ำ รวมถึงโชว์รูมจำหน่ายอุปกรณ์ดำน้ำ ภายในตัวบ้านชั้นล่าง ส่วนชั้นบนคือพื้นที่ส่วนตัวที่เป็นเหมือนบ้านของเจ้าของที่อาศัยอยู่บนห้วงน้ำ
/
ในตอนนี้เราขอนำเสนอผลงานออกแบบบ้านอันโดดเด่นอีกครั้ง ของสถาปนิกสัญชาติไทยอย่าง NTHAA กับผลงานออกแบบบ้านที่แฝงตัวแนบเนียนกับธรรมชาติอย่าง “บ้านฤดูฝน” วิลล่าพักตากอากาศ ในพื้นที่เขตบ้านยางปู่โต๊ะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ในขนาดพื้นที่ใช้สอย 142 ตารางเมตร ที่ออกแบบสำหรับการเข้าพักทุกช่วงฤดู เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้สัมผัสกับประสบการณ์ของ “ฤดูแห่งการฟื้นฟูทางธรรมชาติและสุนทรียแห่งฝน” โดย เบล ณัฐพัชร์ ธนปุณยนันท์ หนึ่งในสถาปนิกผู้ออกแบบบ้านจากสตูดิโอสถาปัตยกรรม NTHAA กล่าวถึงความเป็นมาของบ้านหลังนี้ว่า
/
ถึงแม้วงการสื่อสารมวลชนโดยทั่วไปจะจับตาและสนใจในงานออกแบบสถาปัตยกรรมโครงการใหญ่ๆ อย่างการออกแบบสํานักงาน, พิพิธภัณฑ์, วิหาร, ศาสนสถาน ไปจนถึงอาคารรัฐสภาต่างๆ หากยังมี งานสถาปัตยกรรมที่โครงการไม่ใหญ่นัก แต่ถือว่าเป็นปัจจัยสําคัญอันจําเป็นสําหรับมนุษย์ที่สุดอย่าง หนึ่ง นั่นก็คือ ที่อยู่อาศัยที่เราเรียกกันว่า “บ้าน” นั่นเอง
/
“Pong House” บ้านที่พร้อมเปิดสเปซมากที่สุดสำหรับการเชื่อมปฏิสัมพันธ์สู่ธรรมชาติ และเผยมุมมองน้อยที่สุดสู่พื้นที่สาธารณะ เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยมี ‘คอร์ตยาร์ต’ เป็นหัวใจของบ้าน ในการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวเข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย ภายใต้ดีไซน์ที่คลี่คลายสู่ความเรียบง่าย และพร้อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยสบายใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยในทุกมุมของบ้าน
/
“One for the Road” หรือ “วันสุดท้าย . . ก่อนบายเธอ” ภาพยนตร์ไทยที่สร้างกระแสตั้งแต่ก่อนเข้าฉาย และได้ผลตอบรับที่ดีทั้งจากตัวหนัง ผู้อำนายการสร้าง ผู้กำกับ บท เพลง นักแสดง ไปจนถึงบ้านของนักแสดงนำซึ่งมีเอกลักษณ์ และถูกพูดถึงมากกว่าเจ้าของ ไอซ์ซึ หรือ คุณณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ เลือกการปลูกบ้านขึ้นใหม่จากสถาปนิกที่เขาเลือกเอง JUNSEKINO A+D เพื่ออาศัยอยู่กับแฟนและแมว
/
HOUSE 362 ของครอบครัวพงษ์สุรพิพัฒน์ อันเป็นฝีมือการออกแบบของเพื่อนสถาปนิกอย่าง จูน เซคิโน จาก Junsekino Architect and Design / Junsekino Interior Design ที่นอกจากจะสวยงามด้วยเค้าโครงสถาปัตยกรรมอันเรียบง่ายแล้ว ยังสร้างการเชื่อมโยงให้สมาชิกภายในบ้าน ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างไร้ขอบเขตผ่านดีไซน์ประตู หน้าต่างบานเลื่อน และหน้าต่างบานกระทุ้งของ Double Space อันเป็นพื้นที่หัวใจหลักของบ้าน
By TOSTEM
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )