LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING

Kamthorn Paowattanasuk
Writer:
Tunyaporn Hongtong
ใครที่เคยมาพัทลุงคงรู้ดีว่าเพราะอะไร ถ้าขับรถล่องใต้ลงมาเรื่อยๆ คุณจะผ่านป่าเขาเขียวชอุ่ม สวนยางร่มครึ้ม และสวนปาล์ม ที่ช่วยทำให้บรรยากาศการขับรถรื่นรมย์มากเข้าไปอีก ถ้าบินมาลงตรัง คุณจะเห็นผืนป่าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา ส่วนหนึ่งเป็นของเทือกเขาบรรทัด ทัศนียภาพที่หาได้ยากเต็มทนแล้วทางภาคเหนือ ต้องขอบคุณสภาพอากาศร้อนชื้นฝนชุกที่ทำให้ป่าเขียวขนาดนี้ และที่ลืมไปไม่ได้อีกอย่างนั่นคือ ขอบคุณชาวใต้ พระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออะไรก็ตามที่ช่วยให้พื้นที่แห่งนี้รอดพ้นจากโครงการพัฒนาชาติหลากหลายที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนและผู้มีอำนาจ แต่กัดกร่อนธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและวิถีชาวบ้านไม่หลงเหลือ... อย่างน้อยๆ ก็รอดพ้นมาจนถึงวันนี้
แต่ก็ใช่ว่าป่าเขาเขียวเหล่านี้จะเป็นปอดแห่งเดียวของพัทลุงเสียเมื่อไร เพราะจังหวัดที่จัดเป็นเมืองท่องเที่ยวรองแห่งนี้ยังมีนาข้าว ป่าพรุ และทะเลสาบน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณพืชและสัตว์ อย่างหลังนี้เองที่เป็นจุด ท่องเที่ยวทางนิเวศวิทยาแห่งสำคัญของพัทลุงที่ดึงดูดคนรักธรรมชาติให้มาเยือน
ชื่อทะเลน้อย แต่ไม่ได้น้อยสมชื่อ เพราะมีผืนน้ำกว้างถึง 17,500 ไร่ และหากรวมพื้นที่ชุ่มน้ำโดยรอบก็มีขนาดถึง 285,625 ไร่ ครอบคลุมทั้งพื้นที่ในจังหวัดพัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช การล่องเรือหางยาวชมทะเลน้อยยามเช้าถือเป็น a must เมื่อมาพัทลุง หากนั่งเรือเข้ามาทางปากประ คุณจะรู้สึกถึง landscape ที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วก็เปลี่ยนเกือบทุกสิบนาทีที่เรือหางยาวแล่นไปด้วย จากดงกระจูด กง ทะเลบัวแดงที่โทนสีแดงกระจายอยู่บนผืนน้ำไกลสุดลูกหูลูกตา มาจนถึงลำคลองสายเล็กที่สองข้างทางเป็นพงหญ้า ที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง ป่าพรุ และสองข้างทางที่ครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ราวกับอยู่ในป่าอะเมซอน
ทะเลน้อยที่น้ำนิ่งสงบต่างจากทะเลสาบสงขลา ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่ง มันคือ wonderland ที่มนุษย์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวกว้างไกล และเงียบสงบ นกน้ำนานาพันธุ์กว่าแสนตัวอาศัยอยู่บนต้นไม้ พงไม้ ควายลงมาว่ายน้ำกินบัว กินสาหร่าย ทดแทนหญ้าที่ไม่เพียงพอ ยังไม่นับพรรณพืชอีกหลากหลายในพรุควนขี้เสี้ยนที่ทำให้ทะเลน้อยเป็น พื้นที่ชุ่มน้ำโลก (Ramsar site) แห่งแรกของประเทศไทย
ส่วนมากแล้ว นักท่องเที่ยวมักเลือกล่องเรือในทะเลน้อยเฉพาะในช่วงเช้า แต่หากใครมีเวลา แนะนำให้ลองล่องเรือในช่วงเย็นด้วย เพราะบรรยากาศที่ได้จะแตกต่างจากตอนเช้าอย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญ บนพื้นที่ชุ่มน้ำกว้างใหญ่ คุณจะพบเรือเพียงไม่กี่ลำ และบ่อยครั้งอาจผ่านเข้าไปยังร่องน้ำที่มีควายนอนแช่น้ำกันอยู่เป็นฝูง
ที่พักส่วนมากที่บรรยากาศดีมักตั้งอยู่ในบ้านปากประ ติดกับทะเลสาบสงขลาหรือไม่ก็ริมคลองปากประ โลเกชันตรงนี้นับว่าสะดวกต่อการล่องเรือตั้งแต่เช้ามืด เพราะออกจากที่พักก็ไปท่าเรือได้ใกล้ๆ คลองปากประยังเงียบสงบ และความที่มีลำน้ำสายต่างๆ ไหลมาบรรจบกันก่อนจะออกสู่ทะเลสาบสงขลา ที่นี่จึงเต็มไปด้วยปลานานาชนิด และที่ตามมาก็คือ “ยอยักษ์” ที่ชาวบ้านตั้งไว้เพื่อจับปลา
บนผืนน้ำเรียบนิ่งกว้างไกล “ยอยักษ์” ให้ความรู้สึกเหมือน art installation ขนาดใหญ่ ถ้านั่งเรือออกไปทางปากอ่าว เข้าสู่ทะเลสาบสงขลา คุณจะพบยอยักษ์มากมายเต็มผืนน้ำไปหมด นักถ่ายภาพหลายคนมักมายืนรอเก็บภาพ “ยอยักษ์ตักดวงอาทิตย์” อยู่บนสะพานข้ามคลอง แต่เราว่าความงามแบบนั้นมันแมสไป สู้ไม่ได้กับวันที่ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินอึมครึม มีแสงอาทิตย์ค่อยๆ ลอดผ่านเมฆ และมียอยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ตามจุดต่างๆ จนดู surreal - เหนือจริงแบบที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ
ล่องเรือคลองปากประยามเย็นเป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด เพราะบรรยากาศเงียบสงบ ยอยักษ์ยังคงปรากฏให้เห็น แต่ตั้งอยู่ริมสองฝั่งคลอง ตามบ้านของชาวบ้าน โดยมีนกน้ำหลายตัวเกาะอยู่บนยอ
หลาดใต้โหลด / ตลาดป่าไผ่
เอาใจ “สายกรีน” ด้วยตลาดสองแห่งในพัทลุง นั่นคือ หลาดใต้โหนด และ ตลาดป่าไผ่สร้างสุข ตลาดแห่งแรกเปิดเฉพาะวันอาทิตย์ตั้งแต่เช้าไปจนถึงบ่ายต้นๆ ตลาดที่สองเปิดเฉพาะวันเสาร์ สินค้าที่วางขายไม่แตกต่างกันมาก มีทั้งอาหารใต้ อาหารพื้นบ้าน ขนมหวาน (อร่อยและราคาย่อมเยามากทุกอย่าง) ผักผลไม้จากชุมชน และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติของทางใต้ สำหรับคนที่อยากได้ของฝากจากพัทลุง แนะนำเลยว่าต้อง “ปลาลูกเบร่” ปลาทอดตัวเล็กๆ ที่เพิ่งเก็บสดๆ มาจากยอ ตลาดทั้งสองแห่งยังเหมือนกันอีกอย่าง นั่นคือ หลาดใต้โหนดตั้งอยู่ในร่มเงาครึ้มของต้นไม้และต้นตาล (“หลาด”มาจากคำว่าตลาด ส่วน “โหนด” คือต้นตาลโตนด) ส่วนตลาดป่าไผ่แน่นอนว่ามีต้นไผ่สูงชลูดคอยให้ร่มเงา บรรยากาศทั้งสองแห่งร่มรื่นเขียวขจีมาก ที่สำคัญ ชาวตลาดเขาพยายามรณรงค์ลดการใช้พลาสติก หันมาใช้แพ็กเกจจิ้งธรรมชาติ เพราะฉะนั้นที่นี่คุณจะได้รับไก่ย่างกอแระที่ห่อมาในใบตองเขียว
จริงๆ แล้ว หลาดใต้โหนดเริ่มต้นมาจากการเป็น “บ้านนักเขียนกนกพงศ์” สถานที่ที่ นิยุติ สงสมพันธุ์ - พี่ชายของ กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ - นักเขียนซีไรต์ผู้จากไปก่อนวัยอันควร ตั้งใจสร้างให้เป็นสถานที่ที่ช่วยเผยแพร่ผลงานเขียนของกนกพงศ์ รวมทั้งเป็นที่รวมตัวของคอวรรณกรรมและศิลปินการแสดงพื้นบ้าน จนต่อมาค่อยๆ กลายเป็นตลาดที่มีคนในชุมชนเอาของมาขายกัน ดังนั้นใครมาแวะมาเที่ยวแบบกรีนๆ ที่ตลาดแห่งนี้แล้ว ไม่ควรพลาดทำความรู้จัก “นักเขียนเพื่อชีวิตคนสุดท้าย” คนนี้กันด้วย
TAKE A DEEP BREATH
/
การเดินทางไป Peru และ Bolivia สู่ดินแดนอินคาบนที่ราบสูงแห่งอเมริกาใต้ ไปมา 2 ประเทศ แต่เหมือนไปมาแล้วทั่วโลก (Ollantaytambo – Pisac Castel – Pisac Market – Salt Mine – Moray – Ollantaytambo – Rainbow Mt.)
/
การเดินทางไป Peru และ Bolivia สู่ดินแดนอินคาบนที่ราบสูงแห่งอเมริกาใต้ ไปมา 2 ประเทศแต่เหมือนไปมาแล้วทั่วโลก ( BKK – Lima – Cuzco – Ollantaytambo - Aguas Calientes – Machu Picchu )
/
ช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 2561 ได้เจอกับเอิ๊ก (มนัสชัย คงด่าน) เจ้าของโรงคั่วกาแฟ Coffeebark Homeroaster เลยถามถึงทริปหน้าหนาวประจำปีที่เขามักขับรถจากนนทบุรีไปเยี่ยมไร่กาแฟออร์แกนิกที่ภาคเหนือ เพราะหลิงอยากขี่มอเตอร์ไซค์ไปร่วมทริปกับเขาด้วย เอิ๊กเห็นดีเห็นงามและคันมืออยากขี่มอเตอร์ไซค์เช่นกัน งานนี้...รู้เรื่องทันทีค่ะ!!
/
ใครจะไปคิดว่าจะมีคนสร้างสระว่ายน้ำความลึก เท่ากับตึกสูง 7 ชั้น ภายในอาคารย่านใจกลางเมือง เพื่อที่เราจะสามารถดำน้ำลึก แบบสคูบาไดฟ์วิ่ง ได้ !!!
/
เกอเรเม่ / ปามุคคาเล / วิหารโซเฟีย / ยูชิสา กับความงามที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น
/
เที่ยวไอซ์แลนด์ ดินแดนที่เหมือนดาวอังคาร และมีสิ่งมหัศจรรย์มากกว่าแสงเหนือ
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )