LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING

ปรัชญาความเป็นมนุษย์และชีวิต
ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง Surrealism Art
ของ Taweechob
ดีเทลมากมายที่อัดแน่นอยู่ในผลงาน ที่ทำให้เราสนอกสนใจอยากพูดคุยกับนักวาดภาพประกอบเจ้าของผลงาน แต่เมื่อได้มีโอกาสได้เริ่มต้นถามคำถามกับ Taweechob หรือ “เฮาส์ - ทวีชอบ ปิ่นทอง” แล้ว เรากลับค้นพบว่าผลงานสไตล์ Surrealism Art ที่แอบแฝงด้วย Pop Art ของเขานั้น อัดแน่นไปด้วยวิธีมองโลก ปรัชญาความคิดที่สะท้อน “ชีวิต” ของสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ออกมาได้อย่างน่าสนใจ นี่จึงทำให้ลายเส้นและ Shape, Form ที่เกิดขึ้นมาจากความพยายาม ความทะเยอทะยานพัฒนาตัวเองให้แข็งแรง และความบ้าพลังของคนรุ่นใหม่อย่างเขา มีเอกลักษณ์มากกว่าที่ตาเห็น เราจึงไม่แปลกใจเลยที่ผลงานของ Taweechob จะได้มีโอกาสไปจัดแสดงหน้านิตยสาร และนิทรรศการมากมาย ทั้งในและต่างประเทศ
เรามองเห็นความเป็น Surrealism ที่ผสมกับ Pop Art อยู่ในผลงานของ Taweechob แต่จริง ๆ แล้วคุณมองผลงานของตัวเองว่าเป็นศิลปะในรูปแบบไหน
ผมยังไม่อยากนิยามว่าตัวเองอยู่ในกรอบหรือสไตล์ไหน ผมมองว่าผลงานของผมเป็นการผสมผสานหลาย ๆ สิ่งให้เข้ากัน เพราะผมชอบการได้ทดลองและเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง ผลงานในตอนนี้เลยเหมือนอยู่ในขั้นตอนของการทดลองและค้นหาอยู่ครับ ผมไม่ค่อยสนใจผลลัพธ์มากเท่าที่ผมสนใจการสร้างสรรค์และความสุขระหว่างที่ทำมันมากกว่าครับ ซึ่งนี่ก็ทำให้ผลงานของผมเป็นเหมือนกับ Artwork ที่ทำให้ผู้คนมามอง แล้วทดลองตีความในรูปแบบของตัวเอง ให้ผู้ชมได้คิดว่า นี่เป็นสิ่งที่ฉันเห็นในแบบของตัวเขาเอง และรู้สึกไปตามสิ่งที่ตัวเองนิยามออกมาเองครับ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกแบบไหนก็ตาม เหมือนเวลาฟังเพลงแล้วเราอินไปกับมัน เลยร้องออกมาในแบบของเรา หรืออย่างบางคนที่ไม่รู้เนื้อเพลงเลย แต่ก็อินกับเพลง ๆ นั้นครับ

คุณค้นหาความเป็นตัวเองในผลงานได้อย่างไร ท่ามกลางยุคที่เราต่างก็ได้รับอิทธิพลจากสื่อ ผู้คน สังคม หรือปัจจัยรอบข้างอื่น ๆ
ผมเริ่มต้นจากการทำครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราอยากเก่งหรือดี ในด้านใดด้านหนึ่ง เราต้องเริ่มจากการฝึกถ้าไม่ฝึกเราจะรู้ได้ยังไงว่าผลงานจะออกมาแบบไหน ถ้าอยากเก่งก็ต้องให้เวลากับสิ่ง ๆ นั้น อุทิศเวลาจิตวิญญาณให้กับสิ่ง ๆ นั้นเลย ซึ่งมันอาจจะทำให้เราสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตในส่วนอื่น ๆ ไปครับ คล้ายกับการตีดาบ ที่เราต้องตีและลับความคมไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะคมและฟาดฟันทุกอย่างได้ และความเป็นตัวเอง ผมมองว่ามันคือการที่เรา Comfortable with yourself. เหมือนการที่เราสามารถสบายใจที่ได้เป็นตัวเอง บางครั้งผมเองก็ยังสับสนกับตัวตนของตัวเองอยู่ เพราะเคยมีคนบอกว่าผมบ้า ลึกลับ หรือหลุดโลก ซึ่งผมเคยคิดการที่คนอื่นบอกว่าคนนี้บ้า อาจเป็นเพราะเขาไม่เห็นในสิ่งที่คน ๆ นั้นเห็น แล้วตัดสินจากแค่จากแค่สิ่งที่เขาแสดงออกมา จริง ๆ ผมคิดว่าเราบ้าได้ครับแต่มันต้องบ้าในทางที่ดีและไม่ส่งผลเสียต่อคนอื่น ผมคิดว่า Genius ส่วนใหญ่ก็บ้าในสิ่งที่เขาทำกันหมดทุกคนครับเช่น Ad ตัวนึงที่ผมชอบมากของ Apple - Think diffrent “Here’s to the crazy ones, the misfits, the rebels, the troublemakers, the round pegs in the square holes ... the ones who see things differently -- they’re not fond of rules, and they have no respect for the status quo.

“ปรัชญาชีวิต และแนวคิดเรื่องมนุษย์” มวลความคิดที่อัดแน่นในผลงานของ Taweechob
ผมมองว่าสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างผลกระทบต่อสังคมและโลกนี้ได้มากครับในระยะยาว มากกว่าการทำตาม ๆกัน และไม่ได้ออกมาจาก Heart and soul จริง ๆ ผมมองว่าปัจจุบันโลกนี้เคลื่อนที่ไปไวมาก ทำให้บางครั้งเราลืมที่จะหยุดชะลอ และให้ความสำคัญกับปัจจุบัน ความสุขในชีวิต รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างทางครับ ยกตัวอย่างจากผลงานอย่าง “Tiny Little Human” เป็นภาพที่มีคนตัวเล็ก ๆ ยืนรวมกันเป็นรูปร่างหัวใจ ถ้าลองสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าทุกสิ่งมีชีวิตในภาพนี้ กำลังใช้ชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง พวกเขาเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ผมเชื่อว่าทุก ๆ คนต้องใช้ความรักในการมีชีวิต ไม่ว่าคุณจะตกหลุมรักใครสักคน หรือรักในสิ่งที่คุณทำ เราถึงจะสามารถมีชีวิตอยู่บนโลกได้


ผลงานในช่วงปีล่าสุดของคุณเต็มไปด้วยดีเทลของ Element จำนวนมากในผลงาน ต่างจากผลงานในช่วงแรก ๆ อะไรทำให้คุณหันมาสนใจเล่นสนุกกับดีเทลเหล่านี้มากขึ้น
ผมรู้สึกหลงใหลในทุกสิ่งทุกอย่างรอบ ๆ ตัว จนผมอยากลองเอามาตีความออกมาเป็น Shape, Form หรือสีที่ต่างจากที่เราเห็นกันทั่ว ๆ ไป ทำให้มันดูสนุกและให้ความรู้สึก Feel good แก่ผู้ที่ชม และผมอยากให้คนทั้งโลกสามารถเอางานเหล่านี้ของผมไปใช้ได้ ผมเลยตัดสินใจแจก Element เหล่านี้ฟรีให้ทุกคน Download โดยจะต้องบริจาคก่อนจึงจะได้เอางานผมไปใช้ทำอะไรก็ได้ครับ ผมมองว่าบางครั้งผมถูกสาบเหมือนเป็น curse ที่ติดตัวมาบางครั้งผมโลกส่วนตัวสูงเกินไปมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเกินไปจนบ่อยครั้งมันเดือดร้อนคนอื่นเหมือนความเห็นแก่ตัวเองมันติดมาพร้อมกับสิ่งที่ทำให้ผมแปลกแยกแตกต่างไม่เหมือนคนอื่น เช่น ตอนผมเด็ก ๆ ผมก็เป็นคนที่แปลกแยกที่สุดและดูไม่เข้ากับคนอื่นเวลาที่มีงานกลุ่มผมก็จะไม่มีกลุ่มและถูกเลือกเป็นคนสุดท้ายตลอดซึ่งผมมองว่าผมควรสังเกตคนรอบ ๆ ตัวและใส่ใจคนอื่นมากขึ้น gift บ้างเพราะการให้อะไรบางอย่างกับคนอื่นจะทำให้เราได้ความสุข Gratification ที่ไม่สามารถหาจากไหนบนโลกนี้ได้แล้ว เวลาที่เราให้อะไรใครไป มันจะทำเราจะรู้สึกดีและอิ่มอกอิ่มใจ โดยที่ผลตอบแทนจะกลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่าไปเลยครับ

แรงผลักดันเบื้องหลังผลงานกว่า 2,600 ชิ้น
ความรัก ความบ้าพลัง และวินัย บวกกับความสม่ำเสมอ ผสมกับความหลงใหล และความชอบครับ ผมใช้ความรักในการทำงานและใช้ชีวิตครับ มีคน ๆ หนึ่ง เคยบอกกับผมว่าเราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีความรัก ผมคิดว่าความรักคือความมุ่งมั่น ความพากเพียรที่จะผ่านช่วงเวลาที่ดีและเลวร้ายไปกับใครสักคน หรือบางสิ่งที่คุณรักจริง ๆ ผมคิดว่าคนเราจะไม่มีอะไรเลยหากปราศจากความรัก เพราะหากปราศจากความรักสักเล็กน้อย มนุษย์ก็ไม่เหมาะสมกับการมีชีวิตอยู่ ความรักต่อบิดามารดา ต่อเพื่อนพี่น้อง ต่อเพื่อนร่วมงาน และต่อประเทศชาติ มนุษยชาติมีชีวิตอยู่ได้ด้วยความรัก หากปราศจากมัน เราก็กลายเป็นเศษหินที่ดำรงอยู่แต่ภายในใจว่างเปล่าและตายจากไปนานแล้วครับ

คุณมีโอกาสได้นำผลงานของตัวเองไปโชว์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำงานร่วมกับแบรนด์หรือองค์กรที่เป็นที่รู้จักมากมาย ถือว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง
ผมมองว่าสิ่งที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จ คือการที่ผมช่วยเหลือคนอื่นได้โดยที่ผมไม่ลำบาก และสามารถทำให้ชีวิตของคนอื่นดีขึ้นได้ อยากทำให้คนอื่นมีความสุขได้มากกว่านี้ สามารถแชร์ความรู้ที่ผมมีให้กับผู้อื่นนำไปใช้และประสบความสำเร็จได้เหมือนผม และผมมองว่าตัวเองล้มเหลวและพลาดสิ่งที่สำคัญที่สุดไป นั้นคือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เพื่อน ๆ การเอาใจใส่ต่อคนที่เรารัก ครอบครัว และการคุยกับคนอื่นให้มากขึ้น รวมถึงการให้พื้นที่ส่วนตัวต่อคนอื่นให้มากขึ้นครับ ซึ่งผมมองว่าผมต้องใช้เวลานานพอสมควรที่จะต้องพัฒนาสิ่งเหล่านี้ให้ดีขึ้นครับ ผมยังเต็มไปด้วยจุดด้อยมากมายที่ต้องปรับอีกเยอะ เพราะผมมองว่าการประสบความสำเร็จทางด้านการงาน แต่ล้มเหลวทางด้านความสัมพันธ์มันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตเรามีความสุขได้หรอกครับ

ปรัชญาความเป็นมนุษย์และชีวิต ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง Surrealism Art ของ Taweechob
/
ทันทีที่ Key Visual สถาปนิก’ 68 เผยแพร่ออกมา บทสนทนาปลุกสัญชาตญาณนักสืบในตัวทุกคนพร้อมใจกันทำงานแบบ Autopilot และระหว่างที่ตามหาเฉลยกันจริงจัง ทุกคนเริ่มหันมาตั้งคำถามต่อว่า Art Toys เกี่ยวข้องกับธีมงานอย่างไร รู้ตัวอีกทีวงสนทนาก็กระเพื่อมขยายกว้างขึ้น ส่งสัญญาณชัดว่า Key Visual ปีนี้เปิดฉากมาแบบสนุกเอาเรื่อง โดนเส้นกันสุดๆ
/
วัลลภ รุ่งกำจัด หรือ อุ้ม นักแสดงที่เชื่อมโยงความเป็นมนุษย์กับโลกของภาพยนตร์ ผ่านการสร้างชีวิตให้ตัวละครต่าง ๆ ได้ออกมาโลดแล่นแสดงความรู้สึกทางอารมณ์ให้กับผู้ชม แม้เขาจะไม่ได้เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในวงกว้างเทียบเท่ากับนักแสดงกระแสหลัก แต่ในเวทีระดับโลก “อุ้ม” ได้พิสูจน์ตัวเองกับการเป็นนักแสดงที่มีความสามารถที่ยอมทุ่มเทหลาย ๆ สิ่ง ให้กับงานศิลปะด้านการแสดงในภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้อย่างสุดตัว
/
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้เราได้รู้จักกับเธอคนนี้ในชื่อของ พัด หรือที่ชอบเรียกติดปากกันว่า พัด ZWEED N’ ROLL เจ้าของเสียงทุ้มมีเสน่ห์ นักร้องและนักแต่งเพลงที่ฝากผลงานเพลงเศร้าเอาไว้ในวงการมากมาย อาทิ ช่วงเวลา, Diary, อาจเป็นฉัน และอีกมากมาย ไม่มีอะไรแน่นอนแม้กระทั่งตัวเราเอง ช่วงเวลาจึงได้พัดพาให้เรามาทำความรู้จักกับ “MAMIO” ในฐานะศิลปินใหม่จากค่าย Warner Music Thailand ซึ่งเป็นอีกตัวตนหนึ่งของคุณพัดที่ไม่เคยถูกปลดปล่อยออกมาเลยตลอดชีวิตการทำงานในวงการสิบกว่าปีที่ผ่านมา หรือถ้าจะให้ซื่อสัตย์กับตัวเองจริง ๆ ก็อาจจะเป็นทั้งชีวิตที่เกิดมาเลยเสียด้วยซ้ำ
/
Whispers เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่สะท้อนการเติบโตของวงการ Hardcore ในประเทศไทยอย่างแท้จริง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงกลุ่มเพื่อนที่หลงใหลในดนตรี เพราะนอกจากจะเป็นผู้เล่น พวกเขายังเป็นกำลังสำคัญที่คอยผลักดันซีนฮาร์ดคอร์ในบ้านเรามาโดยตลอด ประสบการณ์ที่สั่งสมทำให้เกิดเป็นสไตล์เฉพาะของ Whispers สร้างความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้พวกเขาก้าวไปสู่เวทีระดับสากล ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ใต้ดินของไทย แต่เสียงคำรามของพวกเขาก็ดังไปไกลถึงทวีปยุโรป มาพบกับเส้นทางดนตรีที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและการเปลี่ยนแปลง กับวงฮาร์ดคอร์ระดับบท็อปของ Southeast Asia
/
ด้วยลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์และรูปแบบงานสักของเขา ที่เรารู้สึกแปลกประหลาดกว่างานสักอื่น ๆ (แปลกประหลาดในที่นี้คือความหมายในแง่ดีนะ) ก็เลยตัดสินใจส่งข้อความทักไปหา “พี่นัทครับ ผมขอสัมภาษณ์พี่ได้ไหม” “ได้ครับ” สั้น ๆ แต่จบ เรื่องราวทั้งหมดก็เลยเริ่มต้นขึ้นที่ร้าน CAVETOWN.TATTOO แถว ๆ ปิ่นเกล้า ซึ่งพี่นัทเป็นเจ้าของร้านแห่งนี้ บทสนทนาของเราเริ่มกันในช่วงเวลาบ่าย ๆ ของวันพฤหัส พอไปถึงร้านพี่นัทกำลังติดงานสักให้กับลูกค้าอยู่หนึ่งคน พอได้เห็นลายที่เขาสักต้องบอกว่าเท่มาก ๆ มันมีความเป็น Psychedelic บวกกับ Ornamental ผสมผสานกับเทคนิค Dotwork จนกลายเป็นงานศิลปะบนผิวหนังหลังฝ่ามือ เราถึงกับต้องถามคำถามโง่ ๆ กับลูกค้าที่ถูกสักว่า “เจ็บไหม” แน่นอนคำตอบที่ได้คือ “โคตรเจ็บ” เพราะจุดที่สักคือหลังฝ่ามือ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนร่ำลือกันว่าโคตรเจ็บ ระหว่างที่รอพี่นัทไปพลาง ๆ น้องแมคช่างภาพที่มีรอยสัก Full Sleeve เต็มแขนขวา ก็เริ่มกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปเก็บภาพระหว่างที่เขาสักไปด้วย พอสักเสร็จเรียบร้อยก็ปล่อยให้พี่เขาพักผ่อนกินน้ำ ปัสสาวะ (อ่านแยกคำนะอย่าอ่านติดกัน) ก่อนจะพูดคุย แต่เดี๋ยว ! ก่อนจะเริ่มบทสนทนา เราขอเกริ่นให้ฟังซักนิดนึงเกี่ยวกับชายคนนี้ก่อน
/
ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีวงดนตรีสัญชาติไทยที่ชื่อ KIKI ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในวงที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง ก็เพราะด้วยเสียงเพลงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และการนำเสนอแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนถึงตัวตนของพวกเขาได้อย่างชัดเจน
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )