LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING
แหล่งรวบรวมเหล่าช่างฝีมือที่จะมาเพิ่ม Spotlight ให้ชุมชนบ้านรุน และประวัติศาสตร์แก่อยุธยา ใน Private Cuisine แห่งใหม่โดย อ.บุญเสริม เปรมธาดา โครงการอันดำเนินต่อเนื่องจาก The Wine Ayutthaya
Photographer:
Tanapol Kaewpring
Writer:
Nada Inthaphunt
Special Thanks:
Boonserm Premthada
Bangkok Project Studio
Soraya Visitsopa
The Wine Ayutthaya
ทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารบนชั้นสอง
ระบบอุตสาหกรรมที่มีพิกัดบังคับ และความยืดหยุ่นของมือคนเดินทางมาเจอกัน
อยุธยาในสมัยก่อนนั้นเป็นแหล่งรวมช่างฝีมืออยู่จำนวนมาก ในปัจจุบันองค์ความรู้บางอย่างอาจยังพอหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นงานผลิตภัณฑ์พื้นเมืองอย่างมีดอรัญญิกที่ยังคงสืบต่อกันมา ทว่าวิชาที่เลือนไปพร้อมกับช่างฝีมือนั้นอาจแฝงอยู่ในหมู่บ้านซึ่งยังไม่มีคนรู้จัก มาในรูปแบบเมนูอาหารตำรับอยุธยาดั้งเดิมที่รู้จักอยู่ในกลุ่มรุ่นคุณป้าคุณยายวัยเดียวกัน องค์ความรู้จึงไม่แพร่หลายนัก เพราะแม้แต่คนกรุงเทพฯหรือชาวอยุธยาเองอาจไม่เคยลิ้มรสอาหารแบบนี้จากที่ไหนมาก่อน เรื่องความลึกลับของอาหาร และสถาปัตยกรรมจึงถูกนำไปเป็นสิ่งสร้างประสบการณ์ควบคู่กันเพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับพื้นที่
กำแพงของอาคารกลาสบล็อกสามเหลี่ยมวางตัวเหลื่อมกันบนแปลงที่ดินติดร้านอาหาร The Wine Ayutthaya ปิดกั้นทัศนียภาพในแบบชุมชนริมน้ำ เมื่อเดินผ่านทางเดินที่สอดแทรกอยู่ระหว่างอาคารซึ่งมีจุดตัดตามมุมและด้านข้างของอาคารจำนวนห้าหลัง กลายเป็นช่องทางเดินตรงกลางตั้งอยู่ท่ามกลาง Landscape ที่สอดเข้าข้างในข้างนอก สร้างความรู้สึกแปลกประหลาดเมื่อต้องตัดสินใจเดินเข้าหรือออกเพื่อจะเดินทางต่อ จนเมื่อออกมาถึงอีกฝั่งหนึ่งของกลุ่มอาคาร ทั้งทางเดินและผนังกลาสบล็อกจึงค่อยๆ เผยภาพวิถีริมแม่น้ำเจ้าพระยาสู่สายตา
ด้วยความที่อาหารดั้งเดิมของอยุธยาเป็นที่ลึกลับยังไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก หลังจากประสบความสำเร็จจาก The Wine Ayutthaya ตัวเจ้าของโครงการจึงอยากนำเสนออาหารจากภูมิปัญญา และความชำนาญของผู้สูงอายุในท้องถิ่น โดยผู้รับหน้าที่ออกแบบตัวสถาปัตยกรรมทั้งภายใน และภายนอกยังคงเป็นอาจารย์บุญเสริม เปรมธาดา ที่มีแนวคิดตั้งใจจะใช้สถาปัตยกรรมเป็นตัวนำทางทั้งสร้างมิติใหม่ให้กับพื้นที่ และชุมชน
การนำเสนอพื้นที่ของ The Artisans Ayutthaya จะมีความแตกต่างจากพื้นที่ลักษณะสี่เหลี่ยมทั่วไป ตัวอาคารของโครงการถูกออกแบบด้วยรูปสามเหลี่ยมที่ท้าทายการจัดสรรการใช้งานและยังเกิดพื้นที่ว่าง สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกลับให้เกิดขึ้นระหว่างสองพื้นที่นี้
พื้นที่เรขาคณิตที่ซ้อนอยู่ภายในตัวอาคารแต่ละหลังมีลักษณะที่แตกต่างกัน
“คุณรู้มั้ยว่า No Function is Many Function?”
อาจารย์บุญเสริมตั้งประเด็นถามที่ฉีกหลักการออกแบบการใช้งาน พร้อมให้คำอธิบายถึงสิ่งที่ต้องการสื่อสารออกมาผ่านอาคารหลังนี้
“จริงๆ แล้วอาคารที่เราต้องการเน้นประโยชน์ใช้สอยเยอะๆ บางครั้งเราอาจจะต้องทำพื้นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าจะทำพื้นที่ใช้สอยได้ แล้วมันจะสามารถนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงการใช้งานอื่นๆ การใช้งานที่ให้สิทธิแก่พฤติกรรมของผู้ใช้ที่จะเป็นผู้ออกแบบ”
นี่จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุสำหรับประสบการณ์ที่แตกต่างกันระหว่างพื้นที่ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อได้เดินทะลุจากภายนอกเข้าภายในอาคารแต่ละหลังแล้วจะพบพื้นที่ที่แตกต่างกันไป อันเป็นลักษณะแบบแปลนเรขาคณิตเต็มรูปบ้าง ไม่เต็มรูปบ้าง บางส่วนจะเป็นพื้นที่แบน และบางส่วนเปิดทะลุระหว่างชั้นหนึ่งและชั้นสอง ซึ่งทั้งหมดได้ซ้อนอยู่ในตัวอาคารสามเหลี่ยมแตกต่างกันไปในแต่ละหลัง โดยสามารถเดินผ่านทางเชื่อม และสะพานทะลุระหว่างอาคารแต่ละห้องได้ ในขณะที่ผู้สูงอายุก็สามารถเดินเชื่อมกันที่ชั้นล่างได้โดยไม่ต้องขึ้นชั้นสอง
การก่อสร้างตัว The Artisans Ayutthaya คือภาคต่อเนื่องแต่กลับกันของทั้งผลงาน Kantana Film and Animation Institute และ The Wine Ayutthaya ที่อาจารย์บุญเสริมเคยออกแบบมาก่อน โดยมีตัวแปรสำคัญที่วัสดุอุตสาหกรรมที่นำมาใช้ในงานคือเหล็กและกลาสบล็อก ทำให้เกิดการประยุกต์ที่ต้องอาศัยความเข้าใจผสมผสานเทคนิคการก่อสร้าง แปลงภาษางานก่ออิฐมาอยู่ในระบบหัวใจสำคัญที่ลิ้นและเดือย โดยให้ความสำคัญกับตัวรอยต่อ ซึ่งหากเปรียบกลาสบล็อกเป็นอิฐ ตัวมอร์ตาร์ที่เชื่อมระหว่างอิฐแต่ละก้อนจะเป็นเหล็กที่ถูกเชื่อมระหว่าง กลาสบล็อกแต่ละก้อนด้วยขนาด 5 เซนติเมตร จนเป็นโครงสร้างของตัวผนังที่สามารถรับน้ำหนักตัวมันเองได้มากขึ้น และแข็งแรงสามารถต้านรับแรงลมได้
กลาสบล็อกคือร่องลิ้นในขณะที่เหล็ก และไม้คือเดือยยึดกลาสบล็อกทุกก้อนเป็นผนัง และโครงสร้าง
คุณสมบัติของตัวกลาสบล็อกนั้นจะมีความขุ่น มีการบิดเบี้ยวของภาพ แต่แสงสามารถเข้ามาได้บางส่วน แม้จะเกิดความร้อนที่เข้ามาซึ่งเป็นเรื่องที่ได้เตรียมการโดยการใช้ต้นไม้ที่อยู่รอบๆ และแทรกอยู่ระหว่างอาคารช่วยกรองแสง ทั้งลดความร้อนของแดดที่จะปะทะวัสดุ โดยผนังอาคารได้ถูกออกแบบให้ทางด้านหน้าเป็นแผงผนังกลาสบล็อกทั้งผืน แล้วเพิ่มขนาดช่องเปิดของหน้าต่างที่เชื่อมทะลุอาคารแต่ละหลังให้ค่อยๆ เปิดขึ้น จนมาถึงอาคารหลังที่เห็นวิวแม่น้ำ ในขณะที่ตัววัสดุอุตสาหกรรมจะมีข้อบังคับด้านพิกัดความสูงเป็นตัวกำหนดซึ่งแตกต่างกับ The Wine Ayutthaya ที่สามารถกำหนดความสูงด้วยตัวเองได้ แต่เมื่อระบบอุตสาหกรรมเดินทางมาเจอช่างฝีมือ ระบบพิกัดมันก็ต้องยืดหยุ่น แล้วใครจะชนะ? บางทีเชื่อมเหล็กแล้วมันเกินก็ต้องขยายใหม่ มันคือสิ่งที่มาเจอกันระหว่างระบบของพิกัดที่บังคับ และระบบที่ยืดหยุ่นของมือคน
ประสบการณ์ของพื้นที่นั้นเกิดขึ้นทั้งระหว่างข้างใน และข้างนอก ค่อยๆ เพิ่มขนาดช่องเปิดจากด้านหน้าสู่ด้านใน เปลี่ยนวิธีการเข้าถึงวิวแม่น้ำที่แตกต่างจาก The Wine Ayutthaya ที่เผยให้เห็นทั้งหมดในทีเดียว
สิ่งสำคัญของการมี The Artisans Ayutthaya นั้นคือการได้เพิ่ม Spotlight ให้อยุธยาอีกครั้งหลังจากที่ The Wine Ayutthaya ได้เริ่มมาแล้ว ทั้งนี้เป็นการสร้างสถาปัตยกรรมให้คนได้เข้ามาสัมผัสในอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความแตกต่าง โดยมีรากเง้าจากอดีตเป็นตัวตั้งต้นในการที่จะคิด สะท้อนให้เห็นว่าในอดีตนั้นอยุธยามีความน่าสนใจ มีประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เรื่องราวช่างฝีมือที่แฝงอยู่ในอยุธยาได้เดินทางมาถึงปัจจุบัน ผ่านแนวคิดการผสมผสานระบบอุตสาหกรรม และงานช่างฝีมือที่แสดงความโดดเด่นของสองช่วงเวลา กลายเป็นภาคต่อของอยุธยาที่สื่อสารด้วยเรื่องราวภาษาสำหรับปัจจุบัน และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าอาหารนั้นจะเป็นส่วนเปลี่ยนแปลงเมืองได้
The Artisans Ayutthaya Private Cuisine แห่งใหม่โดย อ.บุญเสริม เปรมธาดา
/
ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ เป็นหนึ่งในย่านเศรษฐกิจ และ Hang-out Spot สุดฮอตของกรุงเทพฯ ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน และยังเป็นแหล่งรวมตัวของธุรกิจหลากหลายประเภท ตั้งแต่โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านริมถนน สถานบันเทิง ไปจนถึงธุรกิจร้านอาหารและบาร์ ไม่ว่าจะเดินเข้าซอกซอยหรือหันไปทางไหน เราก็มักจะต้องเจอเข้ากับร้านอาหารไม่สัญชาติใดก็สัญชาติหนึ่งเสมอ และเมื่อได้ยินว่ามีร้านอาหารสไตล์ Mediterranean แห่งใหม่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา เราก็เผลอคาดเดารสชาติของเมนู (จากประสบการณ์) ที่จะถูกจัดเสิร์ฟไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อย แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณได้มีโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์การกินดื่มและรสชาติอันแตกต่างของร้านอาหารแห่งนี้ด้วยตัวคุณเองแล้ว คุณต้องจะตกหลุมรักกับความเป็น Sababa ตั้งแต่คำแรกที่ได้ชิมแน่นอน
/
“น้ำ” และ “หุบเขา” องค์ประกอบของทรัพยากรธรรมชาติซึ่งใช้เวลาสั่งสมหลายร้อยปีจนเป็นผืนป่า แม่น้ำ และที่อยู่ของสัตว์นานาชนิด สิ่งเหล่านี้ล้วนกลมกลืนอยู่ในวิถีชีวิต และภูมิปัญญาการพึ่งพิงธรรมชาติอันเรียบง่ายของชาวอีสาน ท่ามกลางบริบทที่รายล้อมอย่างลึกซึ้งมาตั้งแต่อดีตนี้ จนทำให้ผู้ออกแบบไม่สามารถไม่หยิบยกเรื่องราวขึ้นมาสะท้อนความสมบูรณ์ผ่านร้านอาหาร “วารี วัลเล่ย์” จังหวัดขอนแก่น ที่รายล้อมไปด้วย แม่น้ำ ป่าไม้ และหุบเขาของตะวันออกเฉียงเหนือออกมาได้
/
ป้ายไฟนีออนฉาบแสงสีแดงและสีฟ้าลงไปบนผนังอาคารสีขาว ข้อความบนป้ายเขียนคำว่า “Shabu Lab” ผนังกระจกผืนใหญ่บริเวณชั้นล่างเผยให้เห็นพื้นที่ภายในซึ่งเป็นห้องสีขาวสะอาดตา โต๊ะตัวใหญ่เรียงรายเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่นี่คือห้องทดลองแห่งที่สองในการสร้างสรรค์วัฒนธรรมชาบูที่สดใหม่ ทั้งเรื่องรสชาติและบรรยากาศในการกิน
/
ปาร์ตีจบแล้วแต่ยังไม่อยากกลับบ้าน ต้องทำยังไง? สำหรับสายชิลล์ที่ชอบมีไนท์ไลฟ์ทุกวันก็คงรู้ดีว่า คืนนี้ต้องไปปิดจ็อบปาร์ตีที่ไหน
/
หากว่าความโดดเด่นคือไวยากรณ์หนึ่งทางการออกแบบสถาปัตยกรรม มันจะเป็นไปได้หรือไม่หากว่าปัจจัยดังกล่าวจะสามารถผสานตัวเข้ากับบริบทของพื้นที่โดยไม่กลายเป็นสิ่งแปลกปลอม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อชุมชนนั้นๆ มีประวัติศาสตร์และความเป็นมาในเชิงศาสนาอย่างเข้มข้น?
/
คุณรู้จักเขาแค่ไหน? คนที่เคยอยู่เคียงข้างเรายามหิว คนดีคนเดิมที่กลับไปกินเมื่อไหร่ก็อร่อยจนต้องเลียนิ้วทุกที! ไปทำความรู้จักเขาคนนี้ให้มากขึ้นกับ 9 สิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับผู้พัน Colonel Sanders และ KFC
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )