LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING
การเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวในต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยาก อยากให้คุณลองสักครั้ง แล้วจะติดใจจนอยากไปอีกเรื่อยๆ หลิงชอบขี่ไปนอกเมืองหรือชนบทไกลๆ และทุกครั้ง...ถ้าไม่ขี่เลยก็ขี่หลงจนได้เจอที่แปลกใหม่แบบไร้นักท่องเที่ยวเป็นของแถมเสมอ
ทริปนี้ไป 10 วัน (10-20 กรกฎาคม 2019) กับเพื่อนเก่าสมัยมัธยม ตามแผนที่วางไว้คือเช่ารถขับเที่ยววนลูปลงไปทางใต้ของเพิร์ธ (Perth-Albany-Pemberton-Margaret River-Perth) แต่หลิงอยากเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวสักวันแบบไปเช้า-เย็นกลับ เลยปักหมุดไปที่เดอะ พินนาเคิลส์ (The Pinnacles) ส่วนเพื่อนๆ ก็เช่ารถเกีย แกรนด์ คาร์นิวัล 7 ที่นั่งขับไปด้วยกัน ตอนแรกกะจะเช่าขี่ตลอดทั้งทริป แต่ด้วยงบที่จำกัดจึงขี่แค่วันเดียว และก็ตัดสินใจไม่ผิด เพราะการไปกับเพื่อนๆ หลายคนแล้วมีเราขี่มอเตอร์ไซค์อยู่คนเดียวมันไม่สนุกเท่าไหร่ เราไม่ได้คุยกับใครเลยระหว่างเดินทาง

จากตัวเมืองเพิร์ธไปยังเดอะ พินนาเคิลส์ (The Pinnacles) ระยะทาง 193 กม. ขึ้นไปทางเหนือตามทางหลวงหมายเลข 60 หรือถนนอินเดียน โอเชี่ยน ไดรฟ์ (Indian Ocean Drive) ซึ่งเลาะไปตามริมฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ตอนขี่จะได้เห็นทะเลหรือชายฝั่งบ้างเป็นบางช่วงแบบไกลๆ ผ่านชุมชนเป็นระยะ ที่เหลือจะเป็นทุ่งหญ้าริมฝั่งและมีป้ายระวังจิงโจ้ตลอดเส้นทาง เพราะอาจกระโดดตัดหน้ารถได้
ที่นี่จำกัดความเร็วสูงสุดที่ 110 กม./ชม. ซึ่งสามารถทำได้ในบางช่วงเท่านั้น ส่วนใหญ่จะจำกัดที่ 70-90 กม./ชม. จึงใช้เวลาประมาณ 2 ชม.กว่าเกือบ 3 ชม.แบบแวะพักระหว่างทางด้วย ถนนอินเดียน โอเชี่ยน ไดรฟ์เป็นทางตรงอย่างเดียวยาวๆ เลยค่ะ ชั่วโมงแรกก็ตื่นเต้นสนุกดีอยู่หรอกนะ แต่พอขี่ไปสักพักก็เริ่มเบื่อ วิวเดิมๆ ทางตรงเดิมๆ จากนั้นก็เริ่มเมื่อยไหล่และขามากๆ ดีว่าเบาะนุ่มนั่งสบาย นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงขี่เจ้า Honda Rebel แถมขี่ทางไกลอีกด้วย มันเมื่อยกว่าขี่ Triumph Bonneville ของตัวเองมากกกก อาจเป็นเพราะท่านั่งที่ชันเข่าสูงกว่าหน่อยหรือหลิงไม่ชินเองก็ไม่รู้
ฤดูหนาวที่ประเทศออสเตรเลียจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม หลิงไปช่วงเดือนกรกฎาคม ที่เพิร์ธจะอุณหภูมิ 18-20 องศาระหว่างวัน กลางคืนเลขตัวเดียวต่ำกว่า 10 นิดหน่อย ขี่ช่วงกลางวันก็เย็นสบายดีเพราะมีแดดช่วยคลายหนาวเวลาขี่ปะทะลม ถนนหนทางก็ดีงามเป็นที่สุด คนใช้รถใช้ถนนเคารพกฎจราจรเป็นอย่างดี ถือว่าปลอดภัยสำหรับการขับขี่ทีเดียวค่ะ
HELP ME If You Can
ลานซลิน (Lancelin) เป็นจุดท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างทางไปเดอะ พินนาเคิลส์ ห่างจะตัวเมืองเพิร์ธราว 130 กม. จากทางหลวงหมายเลข 60 ตัดเข้าถนน Lancelin ไปประมาณ 8 กม. เราตั้งใจมากินล็อบสเตอร์ริมทะเลเป็นมื้อเที่ยงกันที่นี่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไปเที่ยวที่เนินทรายลานซลิน (Lancelin Sand Dunes) เพื่อเล่นกระดานทรายหรือนั่งรถ 4WD ในทะเลทรายกัน พวกเราไม่ได้แวะไปที่นั่น ได้แต่แวะที่หาดลานซลิน (Lancelin Beach) ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ระแวกนี้จะได้เห็นนักเซิร์ฟขับรถ 4WD มีเซิร์ฟบอร์ดติดรถจนชินตา ใกล้ๆ ลานจอดรถหลิงเห็นทางที่รถโฟร์วีลวิ่งเข้าไปในหาดอีกด้านหนึ่ง ที่ปากทางมีป้ายบอกว่าเฉพาะรถ 4WD เท่านั้น จึงขอปลีกตัวจากเพื่อนๆ ขี่เข้าไปตามทางเท่าที่เห็นรอยล้อรถยนต์บนทางทรายแน่นๆ
พอถึงชายหาด ทางเริ่มหายกลายเป็นหาดทรายนิ่มๆ จึงจอดรถเดินเล่นถ่ายรูปสักพัก ระหว่างนั้นมีรถผ่านไปมาอยู่ 2-3 คัน เสร็จแล้วพอจะกลับหัวรถออกเท่านั้นแหละ ล้อหน้าดันติดหล่มทรายซะงั้น ดีว่ารถไม่หนักมาก หลิงดึงรถอยู่ 4-5 ครั้งแต่ก็ดึงไม่ขึ้น จะโทรเรียกเพื่อนๆ ก็ขับรถเข้ามาไม่ได้เพราะไม่ใช่ 4WD แถมตอนนั้นไม่มีรถผ่านมาเลยสักคัน ในใจนึก “สมน้ำหน้า อยากมาคนเดียวดีนัก” สักพักกลัวจะหมดแรงประคองรถไม่ไหว เลยพักให้หายเหนื่อยเพื่อรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายและต้องดึงทีเดียวให้ขึ้น ถ้าไม่ได้ก็ต้องรอจนกว่าจะมีคนผ่านมาช่วย

“เอาวะ! พร้อมนะคะ” หนึ่ง-สอง-สาม ดึงงงงงงง!!! ล้อขยับขึ้นจนเกือบจะหลุดออกมาแล้ว...แต่ไม่สำเร็จ จังหวะนั้นเองมีสองพ่อลูกขับรถจี๊ปผ่านมาพอดี หลิงรีบโบกมือขอความช่วยเหลือ HELP! HELP!! ช่วยด้วยค่าาา เขารีบจอดรถลงมาช่วยดึงมอเตอร์ไซค์ขึ้นจากหล่ม คือแบบว่า...ดึงทีเดียวขึ้นเลยจ้า นี่เรากินข้าวน้อยไปใช่มั้ย
“เธอมาทำอะไรคนเดียวตรงนี้?!” เขาถาม “นั่นสิคะ ไม่รู้เหมือนกัน นี่ก็ยังอยากตบกะโหลกตัวเองอยู่เลยค่ะ ฮ่าๆ”

แพะเมืองผีที่ The Pinnacles
เดอะ พินนาเคิลส์ มีลักษณะคล้ายแพะเมืองผี จ.แพร่ แต่ที่นี่เป็นทะเลทรายกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา มีพื้นที่ราว 2 ตร.กม. เต็มไปด้วยเสาหินปูนรูปร่างหลากหลายนับพันต้นกระจัดกระจายอยู่ไปทั่ว บางต้นสูงถึง 5 เมตรก็มี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาตินัมบัง (Numban National Park) เปิดทุกวัน 9:30-16:40 น. สามารถเดิน ขับรถ หรือขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปได้ มีเส้นทางวนรอบ 4 กม. ควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยตั้งแต่ด้านนอกเพราะด้านในไม่มี เตรียมน้ำดื่ม ทาครีมกันแดด หมวก หรือเสื้อแขนยาวกันแดดไปด้วยก็ดีค่ะ ไม่แนะนำร่มเพราะลมแรงมาก แดดก็แรงมากเช่นกัน ไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้หลบร้อน กฎระเบียบที่แจ้งไว้และมีป้ายบอกคือ ห้ามปีนป่ายเสาหินเหล่านี้ เพราะจะทำให้สึกกร่อนเสียหาย แต่ก็ไม่วายที่จะเห็นนักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปยืนไปนั่งเพื่อถ่ายรูปกัน แม้ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยควบคุม แต่นักท่องเที่ยวก็ควรเคารพกฎเนอะ รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ขับและจอดในเส้นทางที่กำหนดซึ่งมีเพียงก้อนหินวางเรียงกั้นไว้ สามารถเดินเข้าไปในพื้นที่ได้ แต่ก็อย่าเผลอเดินเพลินออกไปไกลจนกลับมาที่เส้นทางหลักไม่ถูกละกัน ไม่งั้นได้กินข้าวลิงแน่ๆ ค่ะ ระหว่างขี่รถเล่นอยู่ในนั้นหลิงเจอจิงโจ้ป่าออกมาหาอาหารกินด้วย เวลาเจอคนมันจะยืนนิ่งๆ หรือบางทีก็ไม่สนใจมนุษย์เราสักเท่าไหร่ แล้วก็กินพืชผลแบบไม่สนใจอะไร เราก็อย่ากระโตกกระตากหรือเผลอวี้ดว้ายกระตู้ฮู้ไปนะคะ เดี๋ยวมันตกใจอาจกระโดดถีบเข้าให้ (มั้ง?)
มาเที่ยวนอกเมืองแบบนี้จะได้เจอจิงโจ้บ่อยเหมือนเจอวัวควายริมถนนบ้านเรา ทั้งมาเดี่ยว เป็นกลุ่มเล็กบ้าง กลุ่มใหญ่บ้าง แต่เป็นจิงโจ้ป่าที่อาศัยร่วมกันกับคนในชุมชน คนในพื้นที่จะไม่รบกวนเขา นักท่องเที่ยวก็ห้ามรบกวนเช่นกัน จะมีป้ายห้ามให้อาหารสัตว์และห้ามส่งเสียงดังเพื่อจะได้ไม่รบกวนสัตว์ป่า เพื่อให้เขาหากินและใช้ชีวิตตามธรรมชาตินั่นเอง


มืดค่ำ สั่นสะท้าน
เนื่องจากเป็นฤดูหนาว ขากลับช่วงเย็นพอเริ่มมืดค่ำอุณหภูมิก็ลดต่ำลงเรื่อยๆ จาก 18 ค่อยๆ เหลือ 9-10 องศา พวกเราตกลงกันว่าจะขับและขี่รวดเดียวยาวๆ ราว 2 ชม.ครึ่งโดยไม่แวะพักใดๆ เพราะยิ่งดึกจะยิ่งหนาว ยิ่งอันตราย (อาจเจอจิงโจ้ตัดหน้ารถ) ระหว่างทางมืดค่ำนั้นมีฝรั่งขี่สวนมาคันหนึ่ง หลิงโบกมือทักทาย เซย์ Hi! อยู่ในหมวกกันน็อค “หนาวมั้ยเพื่อน กรูเมื่อยและหนาวมากกกกค่าาา” ในขณะที่ตัวกำลังแข็งชา ภาพเบื้องหน้าคือเพื่อนๆ ห้าคนที่นั่งเปิดฮีตเตอร์อุ่นๆ กินขนม พูดคุยกันสนุกสนานอยู่ในรถ อยากจะตีอกชกหัวตัวเองเป็นที่สุด หาใครมาขี่แทนก็ไม่ได้ ร้องไห้หนักมากกกกก...

“หนาวจะตายอยู่แล้ววววว น้องแก้วไยไม่เห็นใจบ้าง รับรักพี่หน่อยน้องนาง เห็นใจพี่บ้างเถิดแม่คู้นนนนนนนน…”
สองทุ่มครึ่งก็ถึงร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ สภาพตัวเองตอนนั้น...ตัวสั่น ปากเขียว เล็บเขียว หิวก็หิว หนาวก็หนาว ลงจากรถคือเดี้ยงไปเลยค่ะ แทบเดินไม่ได้ ปวดขาระดับ 10 กะโหลก แถมเสื้อที่ใส่ก็ไม่กันลมด้วย ทนขี่จนถึงที่หมายได้ยังไงก็ยังงงตัวเองเหมือนกัน ก่อนคืนรถหลิงโทรแจ้งทางร้านไปว่าจะคืนล่าช้าเพราะกลับไปไม่ทันก่อนร้านปิด ทางร้านอธิบายวิธีคืนรถก็คือ ให้จอดข้างรถบรรทุกหลังคาปิดที่จอดอยู่หน้าร้านซึ่งจะมีช่องเล็กๆ ข้างท้ายรถให้หย่อนกุญแจคืน - ง่ายมาก! คืนรถปุ๊บก็ไปกินมื้อค่ำที่ร้านอาหารจีนใกล้ๆ นั้นทันที ตัวหลิงยังสั่นไม่หยุด มือสั่นปากสั่นจนฟันกระทบกัน เพื่อนๆ ตกใจจนต้องรีบหาชาอุ่นๆ มาให้ดื่มจนอาการดีขึ้น
ทริปหนึ่งวันแบบขาไปสนุกสนาน ขากลับอย่างทรมานก็จบลงด้วยประการฉะนี้ค่ะ อยากขี่มอเตอร์ไซค์ดีนักใช่มั้ย จัดไปให้สาสม - วันเดียวพอ 555
Tips:
- ขี่มอเตอร์ไซค์ที่ออสเตรเลียต้องใช้ใบขับขี่สากล: เตรียมเอกสาร - 1) สำเนาใบขับขี่ พร้อมตัวจริง 2) สำเนาพาสปอร์ต 3) รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 รูป 4) ค่าธรรมเนียม 505 บาท - ไหนๆ ก็ไปทำแล้ว แนะนำให้ทำสองอย่างเลย ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ (เตรียมสำเนาใบขับขี่ไปทั้งสองอย่าง) ค่าธรรมเนียมเท่าเดิม บัตรมีอายุ 1 ปีนับจากวันที่ออกบัตร อย่าลืมย้ำเจ้าหน้าที่ว่า ‘มอเตอร์ไซค์’ หลายคนเจอเหมือนกันคือ เจ้าหน้าที่มักลืมด้วยความเคยชินจะแสตมป์ช่องสำหรับรถยนต์มาให้ เพราะไม่ค่อยมีคนทำจักรยานยนต์ และมันคือใบเดียวกัน แค่แสตมป์ช่อง A: จักรยานยนต์ ช่อง B: รถยนต์ ส่วนช่องอื่นๆ ก็รถใหญ่ รถบรรทุก ว่ากันไป
- การเติมน้ำมัน: ต้องเติมเอง รูดบัตรเครดิตที่เครื่องจ่ายน้ำมัน หรือจ่ายด้วยเงินสดที่แคชเชียร์ แจ้งหมายเลขเครื่องจ่ายและระบุจำนวนเงิน
- จองมอเตอร์ไซค์ล่วงหน้า เท่าที่หาได้ใกล้สุดจากที่พักใจกลางเมืองคือที่ CR Motorcycle Rental
www.crmotorcyclerental.com.au ห่างออกไปราว 20 กม. มีหลายยี่ห้อให้เลือกตามกำลังเลยค่ะ หลิงเลือก Honda CMX 500 Rebel ค่าเช่า $150 (24 ชม.) มาที่นี่จบที่เดียวแบบครบวงจร เจ้าของชื่อโคดี้ (Cody Russel) ซึ่งใจดีและยืดหยุ่นมากๆ คืนรถเกินเวลาก็ไม่ปรับอะไร จะรับรถกี่โมง คืนรถกี่โมง จะอะไรแบบไหนถ้าทำได้เขายินดีหมด พร้อมประกันอุบัติเหตุ และควรซื้อประกันความเสียหายต่อตัวรถเพิ่มด้วยค่ะ เผื่อมีอุบัติเหตุต้องซ่อมรถจะได้ไม่จ่ายหัวโต ถ้าจำไม่ผิดคือ $20 เพื่อความสบายใจ
- เช่ารถยนต์ได้ที่เคาน์เตอร์เช่ารถในสนามบินได้เลย หาข้อมูลและจองล่วงหน้า รับและคืนรถที่สนามบินเช่นกัน และต้องคาดเข็มขัดทุกที่นั่ง
- Keep Left Unless Overtaking ขับชิดซ้าย ยกเว้นแซง
- Overtaking Lane 3km Ahead ถนนแซงได้อีก 3 กม.
- ห้ามแซงคือห้ามแซง ที่นี่ขับรถตามกันยาวเป็นขบวนจนกว่าจะถึงช่วงที่แซงได้เท่านั้น
- ห้ามจอดข้างทางถ่ายรูปริมถนนถ้าไม่มีไหล่ทาง
Story: Ling Bhirada
Photo: Ling Bhirada, Janrat K.
The Pinnacles AUSTRALIA: 1 Day Trip บิดเที่ยวทะเลทรายพินนาเคิลส์ ออสเตรเลีย
/
ทริปนี้เป็นการรวมเพื่อนพี่น้องที่รักจากทุกสารทิศของไทยก็ว่าได้ ทั้งมาคนเดียว มาเป็นคู่ มาเป็นกลุ่ม เกือบทั้งหมดเป็นสายขี่ มีสายกล้องจากหาดใหญ่มาด้วย 1 คู่ พอพวกเรามาเจอกันความหรรษาบ้าบอก็เกิดขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจที่สุดและยังคงคิดถึงอยู่เสมอ
/
ถ้าคุณไม่เคยเดินทางคนเดียว หลิงอยากให้คุณลองสักครั้ง ไม่ว่าจะที่ไหน ด้วยวิธีใดก็ตาม ไม่ต้องมีคำถาม ไม่ต้องหาคำตอบ การเดินทางจะทำให้เราค้นพบคำตอบจากทุกคำถามในใจเรา
/
ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา EVERYTHING ได้มีโอ กาสร่วมทริปไปกับ MG แบรนด์รถสัญชาติอังกฤษ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1924 เพื่อเที่ยวชมสถานที่ขึ้นชื่อ ณ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน พร้อมกับรถยนต์คู่ ทริปอย่าง NEW MG HS ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน ด้วยรูปร่างโฉบเฉี่ยวสะดุดตา ผสมผสานความหรูหรากับ ความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ตัวถังโค้งมนแบบ British Shoulder Line กระจังหน้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก กลุ่มดาวบนท้องฟ้า ห้องโดยสารกว้างขวางสไตล์รถ SUV ทุกๆ การดีไซน์นี้ยิ่งเสริมให้ประสบการณ์ในทริปนี้สมบูรณ์ แบบมากขึ้น
/
Check this out
/
Check this out
/
Check this out
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )