PETER HOOK ผู้พาดนตรีโพสต์-พังก์ของ Joy Division สู่งานทดลองแบบนุ่มนวลที่เต็มไปด้วยเครื่องสาย | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

PETER HOOK ผู้พาดนตรีโพสต์-พังก์ของ Joy Division
สู่งานทดลองแบบนุ่มนวลที่เต็มไปด้วยเครื่องสาย

การมาเยือนเมลเบิร์นหน้าหนาวนี่มัน Loser อะไรแบบนี้ อันที่จริงก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก ตอนที่รู้ว่าเรายังสามารถจองตั๋ว Peter Hook presents Joy Division Orchestrated ทัน หลังจากที่ได้ข่าวว่าทางแบนด์ได้ยกเลิกคอนเสิร์ตและเหลือแค่เพียงสองโชว์เท่านั้น คือที่ซิดนีย์ และเมลเบิร์น การทำโปรเจทก์นี้ของฮุคและวงออร์เคสตร้าไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น ล่าสุดคอนเสิร์ตที่ Royal Albert Hall ที่ลอนดอนก็เพิ่งขายบัตรหมดเกลี้ยง

หลังจากการจากไปของ Ian Curtis ในวันที่ 18 พฤษภาคม 1980 Joy Division ก็แยกย้ายไปทำงานของตัวเอง สมาชิกในวงอีกสามคนที่เหลือ ได้แก่ เบอร์นาร์ด ซัมเนอร์, สตีเฟน มอร์ริส และ ปีเตอร์ ฮุค ได้ก่อตั้งวงขึ้นมาใหม่นามว่า New Order แต่ลำพังกำลังของพวกเขาทั้งสามคนดูท่าจะไม่พอ พวกเขาต้องการคนที่มีความสามารถทางดนตรีมาเล่นคีย์บอร์ดให้ และคนที่คุ้นเคยกันดีโดยการพิจารณาจากทั้งหมด พวกเขาเลยให้ จิลเลี่ยน กิลเบิร์ต (Gillian Gilbert) เข้ามาทำให้ New Order สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

นั่นเป็นเรื่องราวคร่าวๆที่หลายคนอาจจะรู้แล้วเกี่ยวกับวง และ ฮุค ซึ่งหลังจากนั้นเขาตัดสินใจออกจากวง และ เริ่มต้นทำโปรเจกท์มากมายของตัวเอง ไม่ว่าจะเขียนหนังสือที่ชื่อ The Hacienda: How Not to Run a Club หรือ Substance: Inside New Order

ความน่าสนใจในการปรับเพลงของ Joy Division และ New Order ให้กลายเป็นงานคลาสสิกพร้อมกับวง Sydney’s Metropolitan Orchestra รวมทั้งนักร้องรับเชิญที่เราได้ยินมาว่า นี่อาจจะทำให้เรารู้สึกได้ว่าเคอร์ติสยังมีชีวิตอยู่

บรรดาคืนวันอาทิตย์ ฝนโปรย แต่ผู้คนขวักไขว่ที่หน้างาน
สถานที่จัดคือที่เดียวกับที่เราไปฟัง Thurston Moore In Conversation ที่เพิ่งได้เขียนถึงเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้คนเริ่มทยอยเข้าไปในฮอลล์ และแน่นอนว่าโซนด้านหน้าเต็มหมดทุกที่

โชว์เริ่มตรงเวลา ไฟในห้องเริ่มค่อยๆสลัวลง เสียงเปียโนดังขึ้นพร้อมการปรากฎตัวของฮุคและนักร้องรับเชิญ อินโทร Love Will Tear Us Apart ดังขึ้นและที่ขึ้นมาพร้อมกับเพลงนี้ก็คือ Bastien Marshall นักร้องนำของวงโพส-พั้งค์ ที่ชื่อ Detachments

เสียงบาริโทนทุ้ม ท่ายืนชักกระตุก ทำให้เราขนลุก และนี่คือน้ำเสียงและลีลาที่เราคุ้นเคยในเพลง Isolation และ Disorder ถึงแม้ว่าจะไม่เหมือนเสียทีเดียว เสียงเครื่องสายที่งดงามจับหัวใจ เปลี่ยนความหม่นและเกรี้ยวกราด ให้กลายเป็นความละมุนที่ยังคงพลังงานมหัศจรรย์ของ Joy Division อยู่โดยการคุมวงดนตรีของ Tim Crookes

เมื่อสิ้นสุดเพลงแรกมาร์แชลเดินลงเวทีไปพร้อมกับไมโครโฟนของเขา ฮุคแนะนำนักร้องขึ้นมาอีกคนที่เธอร่วมออกทัวร์ในโปรเจ็กท์นี้อย่าง Mica Millar ความนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความหนักแน่นทำให้เราได้สัมผัสถึงงานอย่าง Atmosphere ของ Joy Division อีกมุมหนึ่ง ที่ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูหดหู่อย่างน่าประหลาด

งานฮิตทยอยเล่นอย่างปราณีตบรรจงและไพเราะจนหัวใจเราเต้นตุบตับตลอดเวลา
ไม่ใช่แค่เสียงของบรรดาเครื่องสาย แต่หากเรายังคิดถึงซาวด์กีต้าร์และดรัมแมชชีนหยาบๆ อย่างที่มันควรจะเป็น นี่คือสิ่งที่เราได้ยินจากโชว์นี้เช่นกัน ความเก๋าในการเล่นเบสของฮุคยังคงมีลีลาเหมือนเมื่อ 40 กว่าปีก่อน ถึงแม้ว่าจะดูเหนื่อยอ่อนไปบ้าง เขาเลยต้องเดินไปเดินมาบนเวที และปล่อยให้แบ็คอัพเล่นแทนอยู่บางช่วง แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่าติติงอะไร

เพลงอย่าง New Dawn Fades, A Means To The End หรือ Heart and Soul และจบช่วงเบรคแรกกับเพลงที่ต้องยอมรับว่าพลังเสียงของมิลล่าร์สะกดทุกคน ณ ตรงนั้นอยู่จริงๆ ด้วยเพลง She’s Lost Control

หลังจากพักเบรค 15 นาที คนนั่งข้างๆเราหายไป อย่างไร้ร่องรอย
เริ่มต้นช่วงที่สอง ด้วยงานปล่อยของจากวงออเคสตร้าและมิลล่าร์อีกครั้ง สำหรับโชว์นี้ ต้องขอบคุณในความเป็นอมตะของ Joy Division ไม่ว่าเพลงอะไรก็ตามที่เราได้ยินอยู่ตรงหน้านี้ มันคือเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์ในวงการดนตรีของโลกใบนี้

ชายสูงวัยที่สะพายเบสสีแดงตรงหน้า คือผู้ก่อตั้งวงโพสต์-พังก์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ไม่มีใครแทน และไม่มีใครเหมือนจบช่วงที่สองด้วย Decades และกลับทยอยเข้าหลังเวทีไป แต่เสียงอื้ออึงของคนดูข้างล่าง เป็นเครื่องหมายบอกว่า “กลับมาก่อนโว้ย ลืมเพลงอะไรไปหรือเปล่า?”

ปิดท้ายอย่างสมบูรณ์แบบกับ Love Will Tear Us Apart อีกครั้ง เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่าเราจะต้องร่ำลากันแล้วจริงๆ ฮุคบอกว่าถึงแม้ว่าเขาจะมีเวลาซ้อมกันไม่นานและด้วยสถานการณ์ต่างๆ ทำให้ต้องยกเลิกไปหลายเมือง แต่การทัวร์ออสเตรเลียครั้งนี้ เขารู้สึกว่าโปรเจทก์นี้ของเขามันวิเศษมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่เกิน 2 นาที ทุกคนกลับขึ้นมาบนเวทีอีกรอบ คราวนี้ที่นั่งข้างล่างเริ่มลุกขึ้นยืนและเทไปยืนด้านหน้าเวที และบรรดาเพลงที่เรารอคอยอย่าง Digital ในเวอร์ชั่นออร์เคสตร้าเริ่มบรรเลง ต่อด้วย Transmission ที่ตอนนี้ทุกคนในฮอลล์ลุกขึ้นยืนกันหมดแล้ว เราต่างกำลังสมมติตัวเองว่า เราอยู่ในคอนเสิร์ตจริงๆ ของ Joy Division เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว สิ่งที่มองเห็นได้ตอนนี้คือ ด้านล่างกลายเป็นทะเลมนุษย์ไปเรียบร้อย
และทำให้เราน้ำตาไหล นั่นก็คือการเล่นเพลงที่ดีที่สุดของ New Order อย่าง Ceremony เหมือนเป็นการขอบคุณที่ทุกคนยังอยู่ตรงนี้ เป็นแฟนๆ ที่เหนียวแน่นของวงไม่ว่าจะในนามของ Joy Division, New Order หรือแม้กระทั่งคนที่ติดตามทุกผลงานของฮุคเองก็ตาม

“ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากพานักดนตรีทุกคนข้างหลังผมและทีมงานแพ็คใส่กระเป๋ากลับลอนดอน”

เขาทิ้งท้ายไว้อย่างอบอุ่นและจบโชว์อย่างแทบไร้ที่ติสำหรับค่ำคืนนี้ เรียกได้ว่าใครที่เป็นแฟนๆ Joy Division คุณจะไม่รู้สึกพลาดอะไรไป สิ่งเดียวที่คงเป็นไปไม่ได้คือ การเห็นชายหนุ่มเสียงร้องทรงพลังอย่าง เอียน เคอร์ติส กลับมายืนอยู่ตรงที่ๆ เขาควรจะยืนอีกครั้ง

Setlist : Love Will Tear Us Apart (Intro) /Atmosphere/Day of the Lords/A Means to an End/Isolation/Disorder/Heart and Soul/Twenty Four Hours/Higher Higher Higher Love/Rachel’s Song/Atrocity Exhibition/Insight/Dead Souls/She’s Lost Control/Funeral March (Interlude)/Shadowplay/These Days/Love Will Tear US Together/The Eternal/Decades

Encore: Digital/Transmission/Ceremony/Love Will Tear Us Apart

    TAG
  • Joy Division
  • PETER HOOK
  • New Order
  • culture
  • lifestyle

PETER HOOK ผู้พาดนตรีโพสต์-พังก์ของ Joy Division สู่งานทดลองแบบนุ่มนวลที่เต็มไปด้วยเครื่องสาย

CULTURE/MUSIC
6 years ago
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “INDIE UNDERRADAR” เพลงดีที่ถูกลืม EP_5 By MMdestro

    Check this out

    EVERYTHING TEAM8 months ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “INDIE UNDERRADAR” เพลงดีที่ถูกลืม EP_4 (Japanese Indie special) By MMdestro

    Check this out

    EVERYTHING TEAMa year ago
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “คงมี (Maybe I Hope)” เพลงใหม่ดี ๆ จากวง THE JUKKS ที่ปลดล็อคความรู้สึกให้ผู้ฟังได้เกิดใหม่

    เมื่อเสียงดนตรีคืออวัยะวะชิ้นที่ 33 ของวง “The Jukks” จึงไม่แปลกใจที่แม้ผ่านเวลาไปเกือบ ๆ 13 ปี (จากอัลบั้มแรกจนถึงซิงเกิลปัจจุบัน) พวกเขาเหล่าศิลปินจากค่ายเพลงห้องเล็ก ก็ยังสื่อสารกับทุกคนในทุกช่วงเวลา ผ่านเสียงดนตรีที่สะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ของวง ด้วยเนื้อหา แนวคิด และมุมมองทางดนตรีใหม่ ๆ ได้อย่างมีสไตล์ และยังโดดเด่นด้วยการใช้ภาษาในการเขียนเพลง

    EVERYTHING TEAMApril 2024
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “INDIE UNDERRADAR” เพลงดีที่ถูกลืม EP_3 By MMdestro

    Check this out

    EVERYTHING TEAMApril 2024
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “INDIE UNDERRADAR” เพลงดีที่ถูกลืม EP_2 By MMdestro

    Check this out

    EVERYTHING TEAMMarch 2024
  • CULTURE&LIFESTYLE/MUSIC

    “INDIE UNDERRADAR” เพลงดีที่ถูกลืม EP_1 By MMdestro

    Check this out

    EVERYTHING TEAMFebruary 2024
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )