TYMM HOUSE:เปิดบ้านหลังใหม่ของครอบครัว “สุธรรมซาว” เพื่อการเรียนรู้ประสบการณ์ผ่านสถาปัตยกรรม | IAMEVERYTHING.CO

LOOKING ON EVERYTHING ?

EXPLORE ON EVERYTHING

Photographer:
Mc Suppha-riksh Phattrasitthichoke

Writer:
Rujira Jaisak

Special Thanks:
Kwanchai Suthamsao
   ไม่จำเป็นที่บ้านจะต้องมีฟังก์ชั่นสำเร็จรูปทุกอย่างครบ หากในที่สุดเราพบว่า ประสบการณ์ การใช้ชีวิต วิธีคิด และแม้แต่ทัศนคติของเราเองในวันนี้ยังพร้อมเปลี่ยนแปลงได้ตลอด บ้านหลังใหม่ (หลังที่ 3) ของครอบครัว “สุธรรมซาว” ในตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ จึงเน้นการเรียนรู้ประสบการณ์ผ่านงานสถาปัตยกรรมที่เหมาะสมในช่วงเวลาหนึ่ง
   Tui / Yok / Martin / Milin 2016 หรือ “TYMM” คือชื่อเรียกของบ้าน ที่ตั้งตามนิกเนมของสมาชิกในครอบครัว ประกอบด้วยคุณตุ่ย - ขวัญชัย พร้อมด้วยภรรยา คุณชวันภัช และลูกๆ อีกสองคน น้อง “ของหยก” และน้อง “ของขวัญ”
อาคารทรงเรขาคณิตถูกตัดด้วยเส้นมุมเฉียงของหลังคาสร้างฟอร์มที่ดูแปลกตา ภายใต้มุมมองภายนอกของบ้านที่มีทั้งเปิดโล่ง ปิดทึบ และซีทรู ให้เกิดการผสมผสานกลมกลืนระหว่างมิติต่างๆ
   “ผมเปลี่ยนบ้านมาหลายหลัง ตั้งแต่เป็นโสด จนมีครอบครัว ตอนนี้ยิ่งมีลูกด้วย วิธีคิดเกี่ยวกับฟังก์ชั่นของบ้านยิ่งต้องเปลี่ยนไปหมด” ก่อนนี้ตึกแถวอาจเคยเป็นบ้านที่ลงตัวสำหรับชีวิตสถาปนิกวัยทำงานอย่างเขา แต่เมื่อเริ่มสร้างครอบครัว และมีลูกแฝดชายหญิงเป็นสมาชิกใหม่ จึงต้องขยับขยายขนาดพื้นที่ และดีไซน์ฟังก์ชั่นใหม่ เป็นที่มาของการทำบ้านหลังใหม่ บนผืนดินที่มีต้นไม้ใหญ่ ใกล้เมืองเชียงใหม่ และเงียบสงบ พร้อมแนวคิดว่า “บ้านต้องมีอะไรที่พิเศษกว่าเดิม”
   มากกว่าแนวคิดของการสร้างความงามจากสัจจะวัสดุ แต่พื้นที่ของบ้านถูกจัดสัดส่วนให้มีพื้นที่ส่วนกลางมากกว่าพื้นที่ส่วนตัว และมีพื้นที่กึ่งกลางแจ้ง ที่เชื่อมต่อกันระหว่างภายในและภายนอก เพื่อให้สมาชิกครอบครัวออกมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมร่วมกันในพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้น แม้แต่ภายในห้องนอนของพ่อแม่ ก็ถูกแบ่งย่อยเป็นสองห้องนอนเล็ก สำหรับลูกชายลูกสาววัย 2 ขวบด้วย
ส่วนของบันไดเกิดจากความตั้งใจทดลองใช้วัสดุเหล็กชนิดเดียวเท่านั้น เพื่อให้เกิดความแตกต่างขัดแย้งจากภาพลักษณ์ของบันไดที่เคยเห็น พร้อมดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกเบาบางและลอยตัว ด้วยการลดทอนให้เหลือแต่โครงเส้นที่จำเป็น
   “ชีวิตวัยเด็ก” เป็นอีกสิ่งที่เขานึกถึงในการออกแบบสำหรับลูกๆ ที่กำลังเติบโตเข้าสู่วัยเรียนรู้ “ผมสร้างห้องใต้หลังคาไว้เป็นสเปซสำหรับการเล่นและเรียนรู้ที่หาไม่ได้จากโรงเรียนแน่ๆ เขาอาจจะเล่นกางเต๊นท์ในบ้านได้ หรือจะจำลองเป็นฐานแบบวิชาลูกเสือก็ได้ เราอยากให้บ้านนี้มีพื้นที่เด็กให้เล่นสนุกตามจินตนาการ ได้สร้างประสบการณ์ และเป็นเรื่องเล่าในชีวิตวัยเด็กให้กับเขาได้”
   ไม่ใช่แค่เด็กๆ แต่รวมถึงทุกคนในบ้าน ก็ต้องเรียนรู้กับการใช้งานพื้นที่ต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ จนถึงอุปกรณ์ และงานระบบภายในบ้าน ที่เป็น Smart Home ด้วย “ที่แน่ๆ บ้านหลังนี้ไม่มีสวิตช์ไฟฟ้า ดังนั้นทั้งผู้ใหญ่และเด็กในบ้านก็ต้องเรียนรู้เรื่องนี้ด้วย อย่างเวลามีคนกดกริ่งหน้าบ้าน ก็จะสั่นเตือนในมือถือของเรา ดังนั้นไม่ว่าอยู่จุดไหนในบ้าน หรือในโลกนี้ก็สามารถสั่งเปิดประตูผ่านมือถือได้เลย”
   “ทั้งหมดนี้คือการเรียนรู้อีกอย่างหนึ่งที่ผมมอบให้ลูกผ่านงานสถาปัตยกรรม ให้เขาได้ฝึกจินตนาการ พัฒนาการ วิธีคิด จนถึงการใช้ชีวิต ไปพร้อมกับสถาปัตยกรรมในยุคสมัยนี้”
   บ้านหลังนี้ออกแบบพื้นที่การใช้งานส่วนใหญ่ไว้ชั้นบน ไม่ว่าจะเป็นสำหรับนอนหลับพักผ่อน ทำอาหาร กินข้าว ว่ายน้ำ จนถึงการสันทนาการต่างๆ ทำให้เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นที่คล้ายกับบ้านไทยใต้ถุนสูง เพราะบริเวณชั้นล่างมีเพียงห้องเล็กๆ 2 ห้อง ที่ห้องหนึ่งคือ ห้องเครื่องที่เป็นหัวใจหลักด้านงานระบบต่างๆ ของบ้าน อีกห้องเป็นห้องทำงานเล็กๆ ของเขา ที่เหลือเป็นพื้นที่โล่งที่ใช้งานอเนกประสงค์สำหรับรองรับงานอดิเรกและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของคุณตุ่ยนั่นเอง “บางครั้งผมก็ใช้เป็นพื้นที่เวิร์คช็อป ทำงาน หรือกลายเป็นการาจสำหรับแต่งรถมอเตอร์ไซค์ที่ผมชื่นชอบก็ได้”
บ้านถูกสอดแทรกแนวคิดการทดลองด้านวัสดุอยู่ในส่วนต่างๆ ของบ้าน รวมถึงท้องพื้นคอนกรีตบริเวณพื้นที่อเนกประสงค์ของชั้น 1 ที่สร้างแพทเทิร์นลวดลายจากการนำแผ่นไม้มาทำแบบคอนกรีต
ต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ถูกเก็บไว้ด้วยการออกแบบบ้านให้โอบล้อมธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน โดยพื้นที่ใช้งานของบ้านส่วนใหญ่ถูกรวมไว้ชั้น 2 ภายใต้ดีไซน์แบบ Semi-Outdoor
บริเวณชั้น 2 ที่สมาชิกใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนนี้ เน้นเลือกใช้วัสดุดูเนี้ยบ และเรียบหรู แตกต่างจากชั้นล่างที่เน้นความดิบของสัจจะวัสดุ
   ภายใต้รูปทรงสถาปัตยกรรมแบบเรียบเท่ ซ่อนวิธีคิดด้านฟังก์ชั่นสมัยใหม่ ทั้งยังสะท้อนถึงตัวตนอาชีพของเจ้าของบ้านที่เป็นสถาปนิกเองด้วย “บ้านหลังนี้สามารถเป็นตัวอย่างให้ลูกค้าเข้าใจและเห็นภาพของการออกแบบที่คำนึงถึงเรื่องดีไซน์ ฟังก์ชั่น และงานระบบไปพร้อมกัน ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ทิ้งเรื่องของการทดลองด้านวัสดุที่ถูกสอดแทรกไว้ตามส่วนต่างๆ รวมถึงวิธีคิดด้านเทคนิคก่อสร้างที่ผนวกไว้ด้วย”
   ทำให้บ้านหลังนี้อารมณ์แตกต่างระหว่างฟินิชนิ่งเรียบเนี้ยบ กับอารมณ์ดิบเท่ของงานเหล็ก และงานคอนกรีต ที่เจ้าของบ้านทดลองนำแผ่นไม้มาทาบลงบนคอนกรีต “ส่วนตัวชอบทั้งงานเหล็ก และงานคอนกรีต เลยต้องปันใจทุกๆ ส่วนให้พอดีครับ”
   ในขณะที่คนส่วนใหญ่เมื่อทำบ้านมักคำนึงถึงฟังก์ชั่นเผื่อไปถึงอนาคตจนถึงลูกโต เพื่อที่จะได้ไม่ต้องยุ่งยากรีโนเวทใหม่อีก แต่เมื่อเจ้าของบ้านมีดีกรีเป็นถึงสถาปนิกอยู่แล้ว วิธีคิดในการการออกแบบบ้านหลังนี้จึงให้เหมาะกับช่วงชีวิตของครอบครัวในตอนนี้ และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาในอนาคต “ผมคิดว่าบ้านหลังนี้มัันคงจะเหมาะกับวิถีการใช้ชีวิตของครอบครัวแบบนี้ไปอีกสัก 10-15 ปี เท่านั้นนะ จากนั้นมันก็ต้องปรับเปลี่ยนไปอีก ในอนาคตถ้าความต้องการเปลี่ยนไป เราก็พร้อมที่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่น บ้านของเราใหม่อีกที เพราะตอนนี้เราออกแบบขึ้นเพื่อวันนี้ เพื่อประสบการณ์ที่ดีสำหรับช่วงวัยเด็กของลูกๆ ไม่ใช่ดึงประสบการณ์ในช่วงวัยรุ่นมาให้เขาในวันนี้เลย”
   “เรากำลังมองเรื่องประสบการณ์การเรียนรู้ในแต่ละช่วงชีวิต ผ่านสถาปัตยกรรมของบ้าน ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องค่อยๆ เรียนรู้กันไป และในขณะเดียวกันสามารถเกิดการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นในอนาคตได้ครับ”
บันไดที่ใช้วัสดุเหล็กเพียงอย่างเดียวในทุกๆ ส่วน โดยไม่ใช้วัสดุอย่างอื่นมาผสมเลย​ แม้กระทั่งการตัดทอนส่วนเกินต่างๆ เช่นเพลทเหล็กหัวน๊อตที่เป็นส่วนประกอบจะทำให้ดูขัดตาและการตั้งคำถามถึงความคาดเดาของกระบวนวางแผนก่อสร้าง โดยบันไดนี้ถูกออกแบบให้ส่วนต่างๆ ที่อยู่รอบตัวช่วยรับน้ำหนัก รวมทั้งโครงสร้างหลังคาด้วย
    TAG
  • architecture
  • design
  • interior
  • house

TYMM HOUSE:เปิดบ้านหลังใหม่ของครอบครัว “สุธรรมซาว” เพื่อการเรียนรู้ประสบการณ์ผ่านสถาปัตยกรรม

ARCHITECTURE/HOUSE
April 2019
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
RECOMMEND
  • DESIGN/HOUSE

    “Pong House” เชื่อมปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติผ่านคอร์ต พร้อมตอบโจทย์ความ Privacy

    “Pong House” บ้านที่พร้อมเปิดสเปซมากที่สุดสำหรับการเชื่อมปฏิสัมพันธ์สู่ธรรมชาติ และเผยมุมมองน้อยที่สุดสู่พื้นที่สาธารณะ เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยมี ‘คอร์ตยาร์ต’ เป็นหัวใจของบ้าน ในการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวเข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย ภายใต้ดีไซน์ที่คลี่คลายสู่ความเรียบง่าย และพร้อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยสบายใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยในทุกมุมของบ้าน

    EVERYTHING TEAM3 years ago
  • DESIGN/HOUSE

    ICE.SU HOUSE BY JUNSEKINO A+D บทสนทนาระหว่างการสร้างบ้านที่ย้อนแย้งแต่ชัดเจนบนสเกล 1:1

    “One for the Road” หรือ “วันสุดท้าย . . ก่อนบายเธอ” ภาพยนตร์ไทยที่สร้างกระแสตั้งแต่ก่อนเข้าฉาย และได้ผลตอบรับที่ดีทั้งจากตัวหนัง ผู้อำนายการสร้าง ผู้กำกับ บท เพลง นักแสดง ไปจนถึงบ้านของนักแสดงนำซึ่งมีเอกลักษณ์ และถูกพูดถึงมากกว่าเจ้าของ ไอซ์ซึ หรือ คุณณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ เลือกการปลูกบ้านขึ้นใหม่จากสถาปนิกที่เขาเลือกเอง JUNSEKINO A+D เพื่ออาศัยอยู่กับแฟนและแมว

    Nada InthaphuntMay 2022
  • DESIGN/HOUSE

    HOUSE 362 บ้านที่เปิด “ช่อง” เชื่อมโยงชีวิตเข้ากับธรรมชาติ

    HOUSE 362 ของครอบครัวพงษ์สุรพิพัฒน์ อันเป็นฝีมือการออกแบบของเพื่อนสถาปนิกอย่าง จูน เซคิโน จาก Junsekino Architect and Design / Junsekino Interior Design ที่นอกจากจะสวยงามด้วยเค้าโครงสถาปัตยกรรมอันเรียบง่ายแล้ว ยังสร้างการเชื่อมโยงให้สมาชิกภายในบ้าน ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างไร้ขอบเขตผ่านดีไซน์ประตู หน้าต่างบานเลื่อน และหน้าต่างบานกระทุ้งของ Double Space อันเป็นพื้นที่หัวใจหลักของบ้าน

    By TOSTEM
    EVERYTHING TEAM4 years ago
  • DESIGN/HOUSE

    BAAN VIPHA 41 BY ANONYM บทสนทนาของตัวตนและประสบการณ์อย่างที่ใจตามหา

    บ้านวิภา 41 เป็นผลงานที่เริ่มต้นโครงการเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในช่วงยุคเริ่มต้นก่อตั้งสตูดิโอ ANONYM ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงสร้างผลงานบ้าน และเน้นย้ำแก่นเอกลักษณ์ของตนจนมีความโดดเด่นทางผลงานสถาปัตยกรรมประเภทที่พักอาศัยเช่นในปัจจุบัน

    Nada InthaphuntMay 2021
  • DESIGN/HOUSE

    House COVE(R) by TOUCH Architect ต่อเติมบ้านหัวมุมให้ต่อเนื่องกับบ้านหลังเก่า

    เมื่อบ้านเดี่ยวสองชั้นเดิมในหมู่บ้านจัดสรรของครอบครัวที่มีสมาชิก 5 คน ของคน 3 รุ่น มีพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานอีกต่อไป การต่อเติมบ้านบนแปลงที่ดินรูปทรงพิเศษตามการจัดสรรเดิมในรั้วบ้านซึ่งมีโจทย์ของการต่อเติมอย่างไรให้กลมกลืนจึงเกิดขึ้น

    Nada InthaphuntApril 2021
  • DESIGN/HOUSE

    BAAN SAILOM BY ANONYM บ้านที่สายลมมีร่างกายให้จับต้อง

    เอกลักษณ์ของผลงาน ANONYM คือการดึงตัวตนของเจ้าของบ้านออกม่านงานได้อย่างหลากมิติ รวมถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่ทำให้ภาพรวมของผลงานออกมาเนี้ยบทุกชิ้น แต่ “ตัวกลาง” ของ “บ้านสายลม” กลายเป็นสิ่งปลดล็อคความเป็น ANONYM อีกแบบที่อนุญาตให้เจ้าของบ้านเข้ามาตัวตนอีกมุมซึ่งแตกต่างจากผลงานชิ้นอื่น

    Nada InthaphuntMarch 2021
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION

We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )