WAS/IS/WILL BE นิทรรศการภาพถ่ายที่สะท้อนมุมมองชีวิตของ ช่างภาพ ชัชวาล จันทโชติบุตร
คนเราอาจจะใช้เวลาหลายปีเพื่อค้นหาความจริงและสัจธรรมที่ธรรมชาติได้มอบให้กับมนุษย์ แต่สำหรับ คุณชัช ชัชวาล จันทโชติบุตร ได้ย่นย่อ และสรุปรวมประโยคบอกเล่าดังกล่าวภายในช่วงเวลา 5 ปี ที่ได้เดินทางผ่านความรู้สึกและประสบการณ์ต่างๆ มาบรรจุอยู่ใน Exhibition ของเขา ไปทำความรู้จักตัวตนและสัมผัสมุมมองอันเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งของเขาใน WAS/IS/WILL BE
Writer : Noinae Sritawan Photos & Video : Mc Suppha-riksh Phattrasitthichoke Phukarin Phuangthong Special Thanks : Leica Gallery Bangkok
“ทำไมจึงชอบถ่ายภาพเหรอครับ? เริ่มต้นคืออยากจะวาดรูป แต่ทักษะแย่มาก ไม่รอดครับ แล้วก็มาค้นพบว่าการถ่ายภาพมันสามารถตอบโจทย์ตรงนั้นได้ก็เลยเริ่มทดลองมันตั้งแต่เด็ก ได้ลองสัมผัสมันตั้งแต่เด็ก เลยได้รู้ว่ามันเป็นหนึ่งเครื่องมือในการที่จะทำให้เราตอบสิ่งที่เราต้องการได้”
STYLE “เนื่องจากเวลามันผ่านไปเรื่อยๆ วิธีการคิดเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆครับ ผมกำลังอินกับการเคลื่อนไหว Movement ทุกอย่างที่มันหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ก็ตอนนี้ก็ค่อนข้างหมกมุ่นกับสิ่งๆ นั้นอยู่ครับ (ฮา)”
CHARACTER VS CONCEPTION “ในการทำงานโดยหลักใหญ่ผมจะใช้คาแรคเตอร์ของตัวเองมาก่อน โดยในแต่ละเนื้องานผมก็จะคิดว่ามันควรจะใช้อะไรในการตอบโจทย์ให้มีประสิทธิภาพที่สุด ส่วนคอนเซ็ปต์มันขึ้นอยู่กับตัวงานหรือเนื้องานนั้น สุดท้ายเราจึงค่อยนำคาแรคเตอร์ของเราใส่มันลงไปกับคอนเซ็ปต์อย่างผสมกลมกลืน”
WAS/IS/WILL BE “มันเป็นงานที่ผมทำมาร่วมสามปี ต้องเกริ่นก่อนว่า Solo Exhibition ครั้งแรกของผมมันเกิดขึ้นในปี 2014 หลังจากที่มันจบไปก็เริ่มคิดว่า เอ๊ะ จะทำอะไรต่อดี แล้วผมอยากที่จะทำอะไรใหม่ๆ ก็เริ่มศึกษา โดยใช้เวลาร่วมสองปี โชคดีที่มีโอกาสได้เดินทาง ผมไปมิวเซียม แกลเลอรี มันก็อินสปายเราเยอะ ได้ทำให้เราเห็นอะไรมากขึ้น ก็เลยกลับมาแล้วเริ่มนั่งคิดเนื้อหาที่จะพูด
ก่อนหน้านี้ Exhibition แรกมันคือ จังหวะที่เราเดินผ่านแล้วเรามองเห็นแล้วเก็บมันไว้ แต่คราวนี้ผมไม่อยากทำอย่างนั้น ผมอยากให้มีเรื่องราว ให้มันสะท้อนถึงอะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก สุดท้ายมันได้เป็นเนื้อหาอันหนึ่งที่อยู่ในช่วงชีวิตผมตลอดมาตั้งแต่ 2014 - 2019 เกี่ยวกับการเดินทางของความรู้สึกที่ผมได้ประสบพบเจอ ความสุข ความทุกข์ การได้รับ การสูญเสีย ทั้งหมดเหล่านี้ ผมเอามันมาเป็นแรงบันดาลใจในการนำเสนองานชิ้นนี้ออกมาโดยใช้กล้องเป็นสื่อในการเล่าประสบการณ์ที่ผมได้ผ่านมา ผมก็เริ่มถ่ายภาพ โดยใช้ภาพแทนคำพูด หรือแทนประโยคใดประโยคหนึ่งที่ผมเรียนรู้มาว่ามันคือสิ่งนี้นะ สิ่งนั้นนะ
โดยองค์รวมของเนื้อหาก้อนนี้ มันคือ WAS/IS/WILL BE อดีต ปัจจุบัน อนาคต มันคือเรื่องของการที่มันเกิด อยู่ และหายไป แต่สุดท้ายมันไม่ได้หายไปหรอก มันจะวนกลับมาเรื่องเดิม โดยผมใช้ธรรมชาติมาเล่าเรื่อง เพราะธรรมชาติมันอยู่รอบตัวเรา แล้วมัน Relate กับเราเยอะ และมันง่ายที่จะเข้าใจ”
ความท้าทาย “จริงๆ มันท้าทายตั้งแต่วันแรกที่เราเตรียมแผนว่าเราจะทำ Exhibition มันเริ่มตั้งแต่ เราจะคุยเรื่องอะไร เราจะนำเสนอแบบไหน ไปถึงขั้นตอน Production ที่เราใช้เวลาเดินทางเพื่อถ่าย บางทีเราโชคดีก็เจอ บางทีก็ต้องใช้เวลาหา แล้วอันที่ยากถัดมาคือ ไอ้สิ่งที่เราถ่ายมากับสิ่งที่เราคิด มัน Fit in หรือแมทช์กันไหม อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ยากเหมือนกัน พอมาเป็น Post Production ที่เริ่มเตรียมภาพเพื่อ Exhibit ก็ยากอีก อย่างเช่น เรื่องไซส์ภาพ ผมพยายามให้รูปมีขนาดที่ใหญ่ เพื่อถ่ายทอดดีเทลทุกอย่างที่ผมอยากจะพูดถึง เฟรม การใส่กรอบ การติดตั้ง การจัดแสง ทุกๆ อย่างมันต้องหาตรงกลางที่เหมาะสมนี่คือเรื่องยาก แต่ก็ได้คนช่วยเหลือที่ดี ได้ภรรยาช่วยเหลือเรื่องแนวคิด ได้ทีม Leica ช่วยซัพพอร์ทเรื่องต่างๆ มันยากแต่สนุกดีครับ”
คนได้รับอะไรกลับไป “ไม่ได้หวังอะไรมาก ผมอยากให้แค่ว่า เมื่อได้เดินดูรูปทั้งหมดแล้ว แล้วได้อ่านสิ่งที่ผมเขียนไว้ในบอร์ด จากวันนี้กลับบ้านไป ถ้าเค้าได้เข้าใจถึงกฏเกณฑ์อย่างหนึ่งที่ธรรมชาติเป็น ผมว่าผมแฮปปี้แล้วนะ โอเคแล้ว ให้เค้ารู้ว่าจริงๆ ทุกอย่างมันเกิดแล้วผ่านไป มันไม่มีอะไรที่เรารั้งไว้ได้ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตเรา ไม่ว่าสุข ทุกข์ สูญเสีย ได้รับ แม้มันจะรู้สึกแต่มันจะทำให้เรามีสติอยู่กับมันมากขึ้น แล้วเรียนรู้ที่จะโอเคกับมัน เดี๋ยวมันก็ผ่านไป นั่นคือสิ่งที่ผมอยากให้เค้าได้คิดตามครับ”
ค้นหาความจริงของธรรมชาติได้ในนิทรรศการ WAS/IS/WILL BE โดย คุณชัช ชัชวาล จันทโชติบุตร Leica Thailand Ambassador ณ Leica Gallery Bangkok ตั้งแต่ 29 พฤศจิกายน 2562 ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563
TAG
people interview culture lifestyle photography photo exhibition WAS/IS/WILL BE Leica ชัชวาล จันทโชติบุตร WAS/IS/WILL BE นิทรรศการภาพถ่ายที่สะท้อนมุมมองชีวิตของช่างภาพ ชัชวาล จันทโชติบุตร
ART AND EXHIBITION / EXHIBITION CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
DESIGN / EXHIBITION
“WERDIN: ดินกลาย” โดย วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์
นิทรรศการครั้งล่าสุดของวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ที่มีความหมายมากกว่างานศิลปะ แต่พาเราเดินทางอย่างลึกซึ้งไปถึงรากเหง้าประวัติศาสตร์ชุมชนจังหวัดราชบุรี สิ่งที่หล่อหลอมสู่ตัวตนของศิลปิน รวมถึงความคิด ความทรงจำ และการเชื่อมระหว่างตัวเขากับสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นดิน โลหะ หรือเทคโนโลยี ที่ไม่ใช่แค่ส่วนประกอบงานศิลป์ แต่เป็นภาษาที่บอกเล่าถึงการเปลี่ยนแปลง และส่งต่อสู่ผลงานที่ทำให้เราฉุกคิดว่าทุกสิ่งอยู่ในกระบวนการ “กลายเป็น” อยู่เสมอ
EVERYTHING TEAM July 2025
DESIGN / EXHIBITION
Re/Place การปิดทับอดีตเพื่อเปิดเผยความจริงทางการเมือง ของ วิทวัส ทองเขียว
ในอดีตที่ผ่านมา ในแวดวงศิลปะ(กระแสหลัก)ในบ้านเรา มักมีคํากล่าวว่า ศิลปะไม่ควรข้องแวะกับ การเมือง หากแต่ควรเป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความงาม สุนทรียะ และจิตวิญญาณภายในอัน ลึกซึ้งมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะในยุคสมัยไหน ศิลปะไม่เคยแยกขาดออกจาก การเมืองได้เลย ไม่ว่าจะในยุคโบราณ ที่ศิลปะถูกใช้เป็นเครื่องมือรับใช้ชนชั้นสูงและผู้มีอํานาจ หรือใน ยุคสมัยใหม่ที่ศิลปะถูกใช้เป็นเครื่องมือแสดงออกถึงอุดมการณ์ทางสังคมการเมือง หันมามองในบ้าน เราเอง ก็มีศิลปินไทยหลายคนก็ทํางานศิลปะทางการเมืองอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในการสะท้อนและ บันทึกประวัติศาสตร์การเมืองไทยได้อย่างเข้มข้น จริงจัง
Panu Boonpipattanapong February 2025
DESIGN / EXHIBITION
The Grandmaster : After Tang Chang บทสนทนากับ จ่าง แซ่ตั้ง ศิลปินระดับปรมาจารย์แห่งศิลปะสมัยใหม่ไทย โดย วิชิต นงนวล
เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ให้เรารู้ว่า การก๊อปปี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป เพราะอย่างน้อยที่สุด ก็ทําให้ เราได้รู้ว่าผลงานต้นฉบับของจริงในช่วงเวลาที่เสร็จสมบูรณ์นั้นมีความดีงามขนาดไหน
ไม่ต่างอะไรกับศิลปินร่วมสมัยสัญชาติไทยอย่าง วิชิต นงนวล ที่หลงใหลศรัทธาในผลงานของศิลปิน ระดับปรมาจารย์ในยุคสมัยใหม่ของไทยอย่าง จ่าง แซ่ตั้ง ตั้งแต่ครั้งยังเยาว์ ในวัยของนักเรียน นักศึกษา เรื่อยมาจนเติบโตเป็นศิลปินอาชีพ ความหลงใหลศรัทธาที่ว่าก็ยังไม่จางหาย หากแต่เพิ่มพูน ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็สุกงอมออกดอกผลเป็นผลงานศิลปะในนิทรรศการ The Grandmaster : After Tang Chang ที่เป็นเสมือนหนึ่งการสร้างบทสนทนากับศิลปินระดับปรมาจารย์ผู้นี้
Panu Boonpipattanapong January 2025
DESIGN / EXHIBITION
Monte Cy-Press ศิลปะจากกองดินที่สะท้อนน้ําหนักของภัยพิบัติ โดย อุบัติสัตย์
“ยูบาซาโตะ เดินผ่านตามแนวต้นสนขึ้นไปบนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เพื่อไปก่อสร้างสถูปดิน และมักจะโดน ทีมงานช่างบ่นทุกวันเกี่ยวกับการก่อสร้าง ที่มีเวลาอยู่อย่างจํากัด เขาเพียงได้แต่ตอบไปว่า .. บุญกุศล นําพาและเวลามีเท่านี้ ขอให้ทําสิ่งดีๆ ให้เต็มที่ ต่อสถานที่บนภูเขานี้เถอะ อย่าบ่นไปเลย เราอาจจะ พบกันแค่ประเดี๋ยวเดียว แต่สิ่งเหล่านี้จะอยู่ต่อไปอีกหลายร้อยปี ... ทีมงานทุกคนเพียงส่งรอยยิ้มที่ เหนื่อยล้ากลับมา ก็เพราะต้องทนร้อนทนแดด และเปียกฝนสลับกันไป จากสภาวะโลกเดือด ที่ทุกคน ต่างพูดถึง แต่ก็จะมาจากใคร ก็จากเราเองกันทั้งนั้น ... แม้จะมาทํางานบนภูเขาก็จริง แต่เขาก็ยังคง คิดถึงเหตุการณ์ภัยน้ําท่วมดินโคลนถล่มที่ผ่านมา อีกทั้งความเสียหายต่อข้าวของที่ต้องย้ายออกจาก บ้านเช่าและค่าใช้จ่ายหลังน้ําท่วมที่ค่อนข้างเยอะพอควร และยิ่งในสภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจแบบนี้...
Panu Boonpipattanapong 7 months ago
DESIGN / EXHIBITION
Kader Attia กับศิลปะแห่งการเยียวยาซ่อมแซมที่ทิ้งร่องรอยบาดแผลแห่งการมีชีวิต ในนิทรรศการ Urgency of Existence
หากเราเปรียบสงคราม และอาชญากรรมที่กระทำต่อมนุษย์ อย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การสังหารหมู่ และการล่าอาณานิคม เป็นเหมือนการสร้างบาดแผลและความแตกร้าวต่อมวลมนุษยชาติ ศิลปะก็เป็นหนทางหนึ่งในการเยียวยาซ่อมแซมบาดแผลและความแตกร้าวเหล่านั้น แต่การเยียวยาซ่อมแซมก็ไม่จำเป็นต้องลบเลือนบาดแผลและความแตกร้าวให้สูญหายไปเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น หากแต่การเหลือร่องรอยแผลเป็นและรอยแตกร้าวที่ถูกประสาน ก็เป็นเสมือนเครื่องรำลึกย้ำเตือนว่า สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นอีกซ้ำเป็นครั้งที่สอง เช่นเดียวกับสิ่งที่ปรากฏในนิทรรศการ “Urgency of Existence” นิทรรศการแสดงเดี่ยวครั้งแรกในเอเชียของ คาแดร์ อัทเทีย (Kader Attia) ศิลปินชาวฝรั่งเศส - แอลจีเรีย ผู้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เขาเป็นหัวหอกในการทำงานศิลปะผ่านสื่ออันแตกต่างหลากหลาย ที่นำเสนอแนวคิดหลังอาณานิคม และการปลดแอกอาณานิคม จากมุมมองของตัวเขาเอง ที่มีประสบการณ์ทางตรงและทางอ้อมของผู้ที่เคยถูกกดขี่และถูกกระทำจากลัทธิล่าอาณานิคมในศตวรรษที่ผ่านมา
Panu Boonpipattanapong 8 months ago
DESIGN / EXHIBITION
Roma Talismano ชำแหละมายาคติแห่งชาติมหาอำนาจด้วยผลงานศิลปะสุดแซบตลาดแตก ของ Guerreiro do Divino Amor
ในช่วงปลายปี 2024 นี้ มีข่าวดีสำหรับแฟนๆ ศิลปะชาวไทย ที่จะได้มีโอกาสชมผลงานศิลปะร่วมสมัยของเหล่าบรรดาศิลปินทั้งในประเทศและระดับสากล ยกขบวนมาจัดแสดงผลงานกันในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยในเทศกาลศิลปะครั้งนี้นำเสนอผลงานศิลปะจาก 76 ศิลปิน 39 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ภายใต้ธีมหลัก “รักษา กายา (Nurture Gaia)” ที่ได้แรงบันดาลใจจากเทพี ไกอา (Gaia) ในตำนานเทพปรณัมกรีก หรือพระแม่ธรณีผู้ให้กำเนิดและหล่อเลี้ยงสรรพชีวิต เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์อันสอดประสานกลมกลืนกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ
EVERYTHING TEAM 9 months ago
SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
SUBMIT
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION