Y/A/O RESIDENCE
เมื่อความไร้ข้อจำกัดนำมาซึ่งความสมบูรณ์แห่งฟอร์มและฟังก์ชัน
การเล่นมุมปาดเฉียงของทรงอาคารและการเล่นสโลปของทางเดิน สร้างทั้งเอกลักษณ์และครอบคลุมในส่วนของฟังก์ชันโปรแกรมให้สมบูรณ์
เมื่อความท้าทายสูงสุดแห่งงานสถาปัตยกรรม คือโจทย์ที่ไร้ซึ่งกรอบจำกัดใดๆ จึงนำมาซึ่งผลลัพธ์อันโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และเจาะเข้าถึงไวยากรณ์ทางการออกแบบรวมถึงแนบชิดกับฟังก์ชันการใช้งานที่เจ้าของโครงการมุ่งหมายพึงประสงค์
สิ่งหนึ่งในการสร้างสรรค์ชิ้นงานสถาปัตยกรรมที่จัดได้ว่าเป็นโจทย์ที่ยากที่สุดนั้น หาใช่การมีอยู่ของข้อจำกัดใดๆ หากแต่เป็นการไร้ซึ่งข้อจำกัด พร้อมความเปิดกว้างอย่างอิสระแบบปราศจากเงื่อนไข ท้าทายให้ผู้ออกแบบต้องตีโจทย์ให้แตกและเลือกวิธีการนำเสนอที่เหมาะสมที่สุด เช่นเดียวกับโปรเจ็กท์ Y/A/O Residence บริเวณสุขาภิบาล ที่สำนักสถาปัตย์ Octane Architect & Design ได้รับจากเจ้าของโครงการ อันนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ตระการตา มีเอกลักษณ์ และน่าสนใจ
บริเวณสระว่ายน้ำที่สามารถมองเข้ามาได้จากทุกมุม และทุกอาคารของตัวโครงการ
อาคารจอดรถ ทำหน้าที่เป็นทั้งโถงทางเข้า และสร้างมิติลวงตาของการเปลี่ยนผ่านจากพื้นที่สาธารณะสู่ความเป็นส่วนตัว และด้วยการนี้ สถาปนิกเลือกที่จะแบ่งฟอร์มของอาคารออกเป็นสามส่วนหลัก เล่นไล้กับเส้นสายแบบมุมปาดเฉียงอันเป็นภาษาทางสถาปัตย์ที่ได้รับความนิยมในภายนอก ประกอบเป็นรูปฟอร์มของอาคารหลัก เว้นพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นสวนสวยและสระว่ายน้ำที่สามารถมองเห็นได้จากทุกอาคารที่เข้ามา การวางบริเวณหลังคากรอบอาคารเข้ามุมตะเฆ่รางสร้างทางน้ำไหลเป็นสายน้ำตกตามโครงสร้างธรรมชาติ ที่เป็นไปตามฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน
บริเวณที่จอดรถก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะใช้เป็นลานจอดในร่มสำหรับผู้อยู่อาศัยและแขกผู้มาเยือนแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นโถงทางเข้า ที่ขยายสู่ความรู้สึกอันเหนือจริงจากการติดกระจกเงาสะท้อนที่ผนังทั้งสองด้าน ก่อให้เกิดมิติลวงตา เป็นสัญญะของการเปลี่ยนผ่านจากความเป็นสาธารณะและความเป็นส่วนตัวของพื้นที่ภายใน ทั้งเส้นเอียงของโครงอาคารยังสร้างทัศนียภาพแบบพาโนรามาเมื่อเดินเข้ามาจากลานจอดนี้
ในส่วนพื้นที่รับแขก นอกเหนือจากพื้นที่ใช้สอยที่จัดแบ่งเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว การใช้พื้นที่ยกสูงของตัวอาคารเพื่อสร้างเป็นห้องเก็บของลับก็เป็นการสะท้อนถึงการพิจารณาทางด้านฟังก์ชันและฟอร์มอย่างจริงแท้ ด้วยการใช้กระจกสะท้อนสูง (Solartag) ช่วยให้ภาษาทางสถาปัตย์ไม่ถูกลดทอน ทั้งบริเวณสะท้อนด้านใต้ที่มืดยังทำให้ตัวอาคารเปรียบเสมือนยกตัวลอยสูง ไม่เสียซึ่งความเป็นเอกภาพกับอาคารหลังอื่น นอกเหนือจากนั้น การตั้งอาคารรับแขกในทางทิศเหนือยังช่วยเป็น Buffer รับแดดช่วงบ่ายจากการวางอาคารขนาดไปกับทางทิศใต้
Master Area กับการใช้วัสดุจากซีเมนต์และไม้ไฟเบอร์ห้าชนิด ประกอบกับสนญี่ปุ่น และเล่นไล้กับการยกระดับของบันไดหลัก จากพื้นที่รับแขก ไล่มาสู่บริเวณ Master Area นอกจากจะโดดเด่นด้วยการใช้วัสดุอันหลากหลายเพื่อคุมโทน ทั้งผนังซีเมนต์ไม้ไฟเบอร์ห้าชนิด และไม้สนญี่ปุ่นที่ผ่านการถนอมแบบโบราณเพื่อให้ได้ลายเสี้ยนอันเป็นเฉพาะแล้ว การวางโครงสร้างพื้นที่ขวางทิศทางลมเหนือใต้ และกั้นไว้ด้วยบานเฟี้ยม ยังช่วยถ่ายเทอากาศในวันที่ลมดีโดยไม่ต้องพึ่งระบบปรับอากาศใดๆ ทั้งยังเรียบง่ายแต่โดดเด่นด้วยคานเหล็ก H และตงเหล็กแบบ C Channel เพื่อเก็บงานระบบให้มีระเบียบไม่โผล่มารกทัศนียภาพทางสายตา
แต่สิ่งที่แสดงถึงภาษาทางสถาปัตยกรรมของโครงการนี้ได้ดีที่สุด จะอยู่ในบริเวณ Master Area ส่วนที่สอง ที่สามารถมองเห็นและเข้าได้จากทั้งสี่ด้าน โดดเด่นด้วยผังพื้นที่สอบเข้าแนวผนังที่ลากทแยงเฉียงและฝ้าลาดเอียงเข้าหาพื้นที่ส่วนกลาง และผู้ออกแบบก็ชัดเจนในการเล่นกับแนวทางอุดมคติของตนเอง ไม่ว่าจะด้วย Master Bedroom ที่เล่นกับจุดรวมเส้นตาที่รุนแรงกว่าปกติจากการสอบเข้าให้ลาดเอียงก็ดี พื้นที่ห้องแต่งตัวที่จัดแจงได้มุมก็ดี ไปจนถึงการใช้เศษของพื้นที่อย่างไม่เปล่าเปลืองให้เป็นส่วนของห้องพระ ห้องงานระบบไฟฟ้า และห้องเก็บของ ทั้งหมดนี้ ยังคงชัดเจนในไวยากรณ์ทางสถาปัตย์ของผู้ออกแบบกับการเล่นของเส้นลาด เพื่อก่อให้เกิดความสืบเนื่องเอกภาพเป็นเนื้อเดียวกัน
พื้นที่ Master Bedroom ใหญ่กับจุดดึงดูดสายตาสูงสุด ทั้งในสไตล์การตกแต่ง และบริเวณที่ตั้งของโปรแกรม ทั้งหมด ถูกผนวกรวมเข้ากับการจัดวางพื้นที่ Landscape ที่ผ่านการคิดคำนวณมาอย่างเป็นมั่นเหมาะ สามอาคารล้อมรอบคอร์ทกลางและสระว่ายน้ำ ยกพื้นอาคารเล่นไล้ระดับด้วยเหล็กเพลทที่ออกแบบเป็นเส้นกราฟิกปาดเฉียงล้อไปกับเส้นสายของตัวอาคาร ที่เชื่อมต่อระหว่างอาคารจอดรถและอาคารหลักด้วยทางลาดด้วยสโลปอัตราส่วน 1:15 เผื่อไว้สำหรับรองรับการใช้รถเข็นในอนาคต อีกทั้งต้นไม้ที่เลือกใช้ ก็เพื่อลดทอนความทึบและเพิ่มความเปิดโปร่งน่าสบายสำหรับการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ ไม้ขนาดกลาง จนถึงไม้รั้วอย่างไทรเกาหลี สนใบพาย และไม้ตกแต่งภายในอย่างมอสเตอร่ากับพญาไร้ใบ อันเป็นไม้สวยเพื่อการตกแต่ง
อีกทั้งระบบถ่ายเทหมุนเวียนน้ำแบบหลังคา (Roof Drainage System) ที่สร้างจากยางมะตอยม้วนและติดตั้งบนไม้ OSB Board ก็ช่วยให้หลังคามีความเป็นเอกภาพไร้รอยต่อ ให้พันธุ์ไม้สามารถรับน้ำได้อย่างพอดี และยังทำหน้าที่เป็นชนวนกันความร้อน และลดทอนเสียงจากน้ำฝนที่ตกกระทบเข้ามา บวกรวมด้วยการออกแบบเพื่อป้องกันการท่วมขัง นกทำรัง และสะดวกต่อการต่อยอดซ่อมบำรุง
ดังที่กล่าวไปในก่อนหน้าข้างต้น ความท้าทายสำหรับงานออกแบบนั้นหาได้อยู่ที่ข้อจำกัด หากแต่เป็นความอิสระเปิดกว้าง ที่ทุกอย่างคือความเป็นไปได้ประหนึ่งว่าไร้ขีดจำกัด และโปรเจ็กท์ที่น่าสนใจชิ้นนี้ ก็ช่วยตอกย้ำสัจธรรมดังกล่าวให้เด่นชัด รวมถึงเป็นโจทย์ที่จะท้าทายสถาปนิก ว่าจะสามารถสร้างขอบเขต อันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าจับตาได้หรือไม่ ซึ่งทีม Octane Architect & Design ก็ได้พิสูจน์ถึงฝีมือ จากผลสำเร็จของงานชิ้นนี้ได้อย่างชัดเจนยิ่ง
Y/A/O Residence
รายละเอียด : พื้นที่ 1,300 ตารางเมตร / ปีที่สร้าง: 2016-2019 (30 เดือน) / ราคาค่าก่อสร้าง: 40,000,000 ล้านบาท
สถานที่ตั้ง : ถนน สุขาภิบาล5 ซอย70 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพ10220
สถาปนิก : Octane architect & design / กิตติชนม์ ภูเกียรติก้อง, ธาวิน หาญบุญเศรษฐ, พศวัต อปริมาณ
ช่างภาพ : รุ่งกิจ เจริญวัฒน์
TAG
culture design architecture house Y/A/O Residence - เมื่อความไร้ข้อจำกัดนำมาซึ่งความสมบูรณ์แห่งฟอร์มและฟังก์ชัน
CONTRIBUTORS
EVERYTHING TEAM
DESIGN / HOUSE
SEA LAB บ้าน+น้ำ บ้านที่วางตัวอยู่บนสระดำน้ำลึกของผู้รักการใช้ชีวิตใต้น้ำ โดย Junsekino Architect and Design
ถึงแม้ในตอนนี้เราจะขอนำเสนอผลงานออกแบบบ้านอีกครั้ง แต่บ้านหลังนี้ก็แตกต่างจากบ้านธรรมดาทั่วๆ ไป เพราะเป็นสถานที่ที่เป็นแนวความคิดแบบ บ้าน+น้ำ ที่สร้างขึ้นเพื่อครอบครัวที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตอยู่กับน้ำ ด้วยการสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง งาน+ความชอบ+การผักผ่อน+การฝึก+การสอน+ธรรมชาติ ด้วยการยกพื้นที่สำหรับดำน้ำมาไว้ในตัวบ้าน เพื่อให้คนที่รักการดำน้ำมาทำกิจกรรมกัน ทั้งการฝึกซ้อม การเรียนการสอน ทบทวนการดำน้ำ รวมถึงโชว์รูมจำหน่ายอุปกรณ์ดำน้ำ ภายในตัวบ้านชั้นล่าง ส่วนชั้นบนคือพื้นที่ส่วนตัวที่เป็นเหมือนบ้านของเจ้าของที่อาศัยอยู่บนห้วงน้ำ
Panu Boonpipattanapong an hour ago
DESIGN / HOUSE
บ้านฤดูฝน บ้านที่แฝงตัวท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเพื่อสัมผัสสุนทรียแห่งฝน โดย NTHAA
ในตอนนี้เราขอนำเสนอผลงานออกแบบบ้านอันโดดเด่นอีกครั้ง ของสถาปนิกสัญชาติไทยอย่าง NTHAA กับผลงานออกแบบบ้านที่แฝงตัวแนบเนียนกับธรรมชาติอย่าง “บ้านฤดูฝน” วิลล่าพักตากอากาศ ในพื้นที่เขตบ้านยางปู่โต๊ะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ในขนาดพื้นที่ใช้สอย 142 ตารางเมตร ที่ออกแบบสำหรับการเข้าพักทุกช่วงฤดู เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้สัมผัสกับประสบการณ์ของ “ฤดูแห่งการฟื้นฟูทางธรรมชาติและสุนทรียแห่งฝน” โดย เบล ณัฐพัชร์ ธนปุณยนันท์ หนึ่งในสถาปนิกผู้ออกแบบบ้านจากสตูดิโอสถาปัตยกรรม NTHAA กล่าวถึงความเป็นมาของบ้านหลังนี้ว่า
Panu Boonpipattanapong August 2025
DESIGN / HOUSE
o+o House บ้านแห่งความกลมกลืนระหว่างวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยกับ สภาพแวดล้อมธรรมชาติ โดย Junsekino Architect and Design
ถึงแม้วงการสื่อสารมวลชนโดยทั่วไปจะจับตาและสนใจในงานออกแบบสถาปัตยกรรมโครงการใหญ่ๆ อย่างการออกแบบสํานักงาน, พิพิธภัณฑ์, วิหาร, ศาสนสถาน ไปจนถึงอาคารรัฐสภาต่างๆ หากยังมี งานสถาปัตยกรรมที่โครงการไม่ใหญ่นัก แต่ถือว่าเป็นปัจจัยสําคัญอันจําเป็นสําหรับมนุษย์ที่สุดอย่าง หนึ่ง นั่นก็คือ ที่อยู่อาศัยที่เราเรียกกันว่า “บ้าน” นั่นเอง
EVERYTHING TEAM July 2025
DESIGN / HOUSE
“Pong House” เชื่อมปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติผ่านคอร์ต พร้อมตอบโจทย์ความ Privacy
“Pong House” บ้านที่พร้อมเปิดสเปซมากที่สุดสำหรับการเชื่อมปฏิสัมพันธ์สู่ธรรมชาติ และเผยมุมมองน้อยที่สุดสู่พื้นที่สาธารณะ เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยมี ‘คอร์ตยาร์ต’ เป็นหัวใจของบ้าน ในการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวเข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย ภายใต้ดีไซน์ที่คลี่คลายสู่ความเรียบง่าย และพร้อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยสบายใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยในทุกมุมของบ้าน
EVERYTHING TEAM 3 years ago
DESIGN / HOUSE
ICE.SU HOUSE BY JUNSEKINO A+D บทสนทนาระหว่างการสร้างบ้านที่ย้อนแย้งแต่ชัดเจนบนสเกล 1:1
“One for the Road” หรือ “วันสุดท้าย . . ก่อนบายเธอ” ภาพยนตร์ไทยที่สร้างกระแสตั้งแต่ก่อนเข้าฉาย และได้ผลตอบรับที่ดีทั้งจากตัวหนัง ผู้อำนายการสร้าง ผู้กำกับ บท เพลง นักแสดง ไปจนถึงบ้านของนักแสดงนำซึ่งมีเอกลักษณ์ และถูกพูดถึงมากกว่าเจ้าของ ไอซ์ซึ หรือ คุณณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ เลือกการปลูกบ้านขึ้นใหม่จากสถาปนิกที่เขาเลือกเอง JUNSEKINO A+D เพื่ออาศัยอยู่กับแฟนและแมว
Nada Inthaphunt May 2022
DESIGN / HOUSE
HOUSE 362 บ้านที่เปิด “ช่อง” เชื่อมโยงชีวิตเข้ากับธรรมชาติ
HOUSE 362 ของครอบครัวพงษ์สุรพิพัฒน์ อันเป็นฝีมือการออกแบบของเพื่อนสถาปนิกอย่าง จูน เซคิโน จาก Junsekino Architect and Design / Junsekino Interior Design ที่นอกจากจะสวยงามด้วยเค้าโครงสถาปัตยกรรมอันเรียบง่ายแล้ว ยังสร้างการเชื่อมโยงให้สมาชิกภายในบ้าน ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างไร้ขอบเขตผ่านดีไซน์ประตู หน้าต่างบานเลื่อน และหน้าต่างบานกระทุ้งของ Double Space อันเป็นพื้นที่หัวใจหลักของบ้าน
By TOSTEM
EVERYTHING TEAM 4 years ago SIGN UP TO OUR NEWSLETTER
A Monthly update of the new issue from us
SUBMIT
THANK YOU FOR YOUR SUBSCRIPTION