LOOKING ON EVERYTHING ?
EXPLORE ON EVERYTHING


พูดถึงย่านสะพานควายในอดีต ยุครุ่งเรืองที่มีโรงหนังนิวยอร์กและความศิวิไลย์ในอดีตที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าคงจะเป็นภาพ แต่ทว่า ย่านนี้ก็ยังเป็นย่านรองจวบจนมาถึงปัจจุบัน หากเทียบกับใจกลางกรุงเทพฯ โซนอื่นๆ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เสน่ห์ของย่านสะพานควายที่หลายคนอาจมองข้าม ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง อย่างเมื่อปีที่แล้วเรามีบาร์ดาดฟ้าอย่าง Dumbo บาร์สไตล์อเมริกัน ที่ขึ้นชื่อเรื่อง Jazz Music และ แหล่งรวมคนรักดนตรี คนรักศิลปะ คนทำงานสายครีเอทีฟ ไปจนถึงนักสะสมไวนีล
No Sleep Till York อย่าเพิ่งหลับถ้ายังไม่มาถึง York
เราเดินขึ้นมาถึงชั้น 5 ด้วยความกระหืดกระหอบเล็กน้อย คงได้แต่โทษตัวเองที่ไม่ค่อยออกกำลังกายช่วงนี้ แต่บาร์แห่งใหม่ที่อยู่ตรงหน้า กำลังทำให้เรารู้สึกว่า คุ้มเหนื่อยเลยทีเดียว ทั้งไฟ บรรยากาศ และดนตรี ต้อนรับและเชื้อเชิญว่า “ยืนรออะไรอยู่ข้างนอก เข้ามานั่งพักก่อนเถอะ”



สำหรับ York น้องคนเล็กชื่อนี้ อาจจะยังใหม่สำหรับใครหลายคน เพราะเพิ่งเปิด Soft Opening ไปเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ชื่อร้านที่ถูกเชื่อมโยงกับรถไฟใต้ดินสถานี York ที่มุ่งสู่แลนด์มาร์คในมหานครนิวยอร์กกับมุมมหาชนใกล้สะพาน Manhattan ที่เรารู้จักในนาม Dumbo และแน่นอนว่าด้วยทำเลที่สามารถมองเห็นรถไฟฟ้าวิ่งผ่านไปมา จึงกลายเป็นความเกี่ยวข้องกันอย่างน่าประหลาด ในด้านของพื้นที่และคอนเซปต์โดยรวมของร้าน


คุณพี ภัทรพี 1 ในหุ้นส่วน 8 คนของร้านเล่าให้ฟังว่า จริงๆแล้ว York ก็เหมือนอีกโปรเจ็ทก์หนึ่งที่ต่อยอดมาจาก Dumbo หากใครเคยมาที่อาคาร Inn Office ก่อนหน้านี้ จะพอทราบว่าแต่ก่อน บริเวณชั้น 5 ตรงนี้เป็น Art Space เล็กๆ ที่ชื่อ Buffalo Bridge Gallery แต่เมื่อแกลเลอรี่นี้ถูกย้ายออกไป พื้นที่ว่างจึงจุดประกายให้ทางหุ้นส่วนเห็นพ้องต้องกันว่า
“เราต้องการพื้นที่มากขึ้น”
“มันเริ่มจากจุดเล็กๆ ที่เราเริ่มเห็นว่าลูกค้าที่มาโดยเฉพาะช่วงหน้าฝนจะค่อนข้างกังวล เพราะ Dumbo อยู่ชั้นดาดฟ้า ซึ่งเราก็พยายามหาที่กำบังฝนให้ แต่เวลาตกหนักนี่ก็เอาเรื่องเหมือนกัน เราเลยคิดว่าถ้าได้เปิดอีกพื้นที่นึง ทำให้ธีมแตกต่างจากความเป็น Dumbo ด้วยเรื่องของดนตรี แล้วก็การใช้สอยของพื้นที่ ก็น่าจะดี”
“คุณพลอย หุ้นส่วนของที่นี่ผูกพันกับนิวยอร์กมาก ดังนั้นไอเดียหรือคอนเซปต์ต่างๆ พลอยจะเป็นคนนำเสนอให้กับทีม ซึ่งเราก็เห็นพ้องต้องกันว่าทุกอย่างมันเชื่อมโยงกัน เราอินกับมัน แล้วทุกๆ ไอเดีย มันหล่อหลอมมาจากความชอบของสิ่งที่พวกเราแต่ละคนสนใจ และแน่นอนว่ามันมีความหมายอยู่ในตัวของมันเองด้วย”



หากไม่นับเรื่องพื้นที่และบรรยากาศ จุดเด่นของ York อีกหนึ่งอย่างที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของดนตรี เนื่องจากหุ้นส่วนสองคนในร้านอย่างคุณบอมและคานู ที่เป็นดีเจอยู่แล้ว วันนี้เราได้ยินงานเก่าๆ ของ Ed Harcourt, Prep, Donavon Frankenreiter ไปจนถึงงานของ MGMT หลายเพลงที่ทำให้เราต้องร้องเฮ้ยในใจ ด้วยความรู้สึกที่ว่า คิดถึงเพลงพวกนี้เหลือเกิน เชื่อเราเถอะ ว่าคุณจะไม่ผิดหวังในเรื่องของเพลย์ลิสต์จากที่นี่
สำหรับ live band ของที่ร้านคุณบอมบอกว่า ตอนนี้กำลังจัดตารางความเหมาะสม ให้มีความแตกต่างกับ Dumbo เพื่อสร้างบรรยากาศให้หลากหลายมากขึ้น นอกเหนือจากวงแจ๊ซที่ทั้งสองร้านพยายามรักษาคอนเซปต์และคุณภาพของวงเอาไว้


York คืออีกหนึ่งพื้นที่ ที่ดึงเอาสิ่งที่พี่คนโตอย่าง Dumbo อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง มาปรับและต่อยอดออกไปอีกในอนาคตอันใกล้ York ในตอนนี้ เปรียบเสมือนชานชาลาในร่ม เป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากมาสังสรรค์ พบปะกับเพื่อนพี่น้องที่เราอาจจะเคยพบกันมาก่อนหน้านี้ ทฤษฎีหกช่วงตัว (6 Degrees of Separation) สามารถเกิดขึ้นกับเราทุกคนได้ที่นี่ เราอาจจะเจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีที่นี่
“จริงๆ ความเปลี่ยนไปของย่านนี้มันเกิดขึ้นแล้วล่ะ จะเห็นได้ว่าตอนนี้มีร้านทางเลือกเกิดขึ้นมากมายบนถนนเส้นนี้ แต่มันจะคนละแบบกับอารีย์นะ เราไม่อยากคาดเดาว่ามันจะเป็นยังไงต่อ ความตั้งใจของเราก็คือ อยากทำพื้นที่นี้ให้เป็นแหล่งรวมผู้คน รวมงานศิลปะ ดนตรี อย่างบริเวณโต๊ะพูลในร้าน เวลามีงานเราก็ย้ายออกไป แล้วก็จัดเป็น Exhibition เล็กๆ หรือถ้าเราเห็นว่างานไหนน่าสนใจ ในอนาคตก็สามารถทำได้”
จากกระแสความคึกคักในย่านอารีย์แผ่ขยายมาสู่สะพานควาย ที่อีกไม่นาน ตามเส้นรถไฟฟ้าเส้นนี้อาจจะกลายเป็น Hub ใหม่ของผู้คนที่มองหาความสมดุลของชีวิต ด้วยร้านรวงที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น มีพื้นที่ที่สนับสนุนงานศิลปะ รวมตัวคนจากหลากอาชีพ และทุกคนได้มาพบปะแลกเปลี่ยนความคิด แชร์ผลงาน มองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ หรือแม้แต่การเป็นที่นัดพบสังสรรค์ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
เพราะอีกไม่นาน เราจะได้เห็น York เวอร์ชั่นเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้ และความเปลี่ยนแปลงของย่านสะพานควายในแบบที่เราไม่เคยเห็น
ติดตามอัพเดตของ York Bar ได้ที่
Facebook: Yorkbkk
สถานีต่อไป York Bar: บ้านหลังใหม่ของคนรักดนตรีและศิลปะ
/
ทำเลทองกลางเมืองพร้อมด้วยสาธารณูปโภคครบครัน ตัดผ่านถนนสายหลักที่เชื่อมต่อที่ทางทั่วกรุงเทพ ประดับประดาด้วยรถหรูสารพัดยี่ห้อ นี่คือย่านประวัติศาสตร์ ย่านเศรษฐกิจ ย่านที่เขาว่ามี “คนรวยรสนิยม” อยู่อาศัยและเดินขวักไขว่กันเต็มไปหมด ย่านนี้คือ… “ทองหล่อ”
/
ในยุคที่ทุกอย่างอยู่ในโลกออนไลน์ เราฟังเพลงออนไลน์ เจอหน้ากันและทำกิจกรรมเกือบทุกอย่างแบบออนไลน์ ใครจะนึกว่าในมุมหนึ่งของย่านเก่าฝั่งธนฯ จะเป็นที่ตั้งของบาร์แผ่นเสียงเล็กๆ ที่ยังคงเคารพการใช้ชีวิตแบบ Old-school และอยากให้เรากลับไปมีปฏิสัมพันธ์กันผ่าน ‘หู’ และ ‘ปาก’ แบบออฟไลน์บ้างในบางครั้ง
/
บริเวณแยกสำราญราษฎร์หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ย่านประตูผี" กำลังจะค่อยๆ ปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นอีก 1 แลนด์มาร์คที่จะรวมเอาวัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ และดีไซน์ไว้ด้วยกันอย่างลงตัวไว้ในชุมชน เช่นเดียวกับ Tai Soon Bar บาร์แห่งใหม่สำหรับผู้หลงใหลในคราฟต์เบียร์ของย่านนี้ที่คึกคักด้วยกระแส Street Food ที่กำลังมาแรง ถนนที่กลายเป็นสวรรค์ของนักกินทั่วโลก
/
ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ เป็นหนึ่งในย่านเศรษฐกิจ และ Hang-out Spot สุดฮอตของกรุงเทพฯ ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน และยังเป็นแหล่งรวมตัวของธุรกิจหลากหลายประเภท ตั้งแต่โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านริมถนน สถานบันเทิง ไปจนถึงธุรกิจร้านอาหารและบาร์ ไม่ว่าจะเดินเข้าซอกซอยหรือหันไปทางไหน เราก็มักจะต้องเจอเข้ากับร้านอาหารไม่สัญชาติใดก็สัญชาติหนึ่งเสมอ และเมื่อได้ยินว่ามีร้านอาหารสไตล์ Mediterranean แห่งใหม่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา เราก็เผลอคาดเดารสชาติของเมนู (จากประสบการณ์) ที่จะถูกจัดเสิร์ฟไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อย แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณได้มีโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์การกินดื่มและรสชาติอันแตกต่างของร้านอาหารแห่งนี้ด้วยตัวคุณเองแล้ว คุณต้องจะตกหลุมรักกับความเป็น Sababa ตั้งแต่คำแรกที่ได้ชิมแน่นอน
/
กลิ่นกาแฟคั่วลอยอยู่ในอากาศ ในขณะที่เสียงเครื่องจักรกำลังทำงานคลอกับเสียงเพลงไทยเพื่อชีวิตจากเพลย์ลิสต์ของชายผมทองที่ยืนจดจ่ออยู่กับเมล็ดกาแฟ โรงคั่วนี้เปิดขึ้นหลังบานประตูร้านที่ปิดไว้ นี่จึงเป็นภาพที่จะไม่ได้เห็นในวันร้าน Solos Coffee เปิดปกติ กับวันเปิดที่ไม่ปกติเหมือนคาเฟ่ทั่วไป เพราะต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น “เหตุผลที่ต้องให้จองก็เพราะว่าผมจะได้มีเวลาอยู่กับการคั่ว เพื่อการควบคุมคุณภาพให้ดีที่สุดครับ” Nicholas Haw บาริสต้าหนุ่มสัญชาติอังกฤษที่มาอยู่ประเทศไทยได้ 12 ปี เจ้าของ Solos Coffee คาเฟ่และโรงคั่วกาแฟแห่งใหม่ย่านพระราม 9 เกริ่นกับเราระหว่างง่วนกับงานคั่วกาแฟไปด้วย ก่อนที่อีก 3 ชั่วโมงหลังจากนั้นเราจะได้พูดคุยกันอีกมากมาย ตั้งแต่เรื่องราวเส้นทางอาชีพ จนถึงมุมมองเกี่ยวกับวงการกาแฟ ตามด้วยกาแฟต่างรส 3 แก้ว ที่สำหรับเรานี่ไม่ใช่แค่การเติมสารคาเฟอีนให้ร่างกาย แต่มันคือพลังมวลสารที่ดีต่อจิตใจอยู่ในทุกๆ แก้ว และให้เราได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในการชิมกาแฟไปด้วย
/
Solos Coffee เป็นคาเฟ่เปิดใหม่ในซอยเสรี 9 ที่ปลุกปั้นขึ้นโดย Roaster และ Barista ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการกาแฟมาหลายปีอย่าง Nicholas Haw ที่เคยพูดไว้ว่า “ผมอยากทำร้าน และทำกาแฟที่ดีที่สุดในโลก”
We use cookies, localStorage and other technologies (collectively, "cookies") to recognise your browser or device, learn more about your interests, and provide you with essential features and services and for additional purposes. ( see details )